“เมียเรานี่ ยิ่งดูยิ่งสวยเนอะ” ร่างโปร่งระหงที่นั่งเยื่องๆ ไม่ไกลกัน เธอออกมาทำงานนอกสถานที่และเจาะจงใช้ร้านกาแฟเพื่อคุยงาน เพราะมันพลุกพล่านมีคนเดินเข้าเดินออก เธอจะได้มองเห็นและหาทางหนีได้ทัน เธอจำเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำจำได้แค่สายตาวาวๆ สีฟ้าขุ่นท่ามกลางความมืดสนิท และฝ่ามือร้อนๆ คู่นั้นที่ทำให้เธอร้อนวูบวาบไปทั้งสรรพางค์กาย
“บ้าแล้วพิช! ไปคิดถึงคนชั่วๆ คนนั้นทำไม?” เธอสะบัดหน้า รีบก้มหน้าอ่านเอกสารตรงหน้า ปัดความคิดถึงเขาผู้นั้นไปให้หมดสิ้น...
“สวัสดีครับ มาคนเดียวหรือครับคุณพิชชาวีร์” ภาษาไทยแปร่งๆ เหมือนกับว่าเขาไม่ใช่เจ้าของภาษาเอ่ยทักขึ้นมาด้านข้าง พิชชาวีร์แหงนเงยหน้าขึ้นมองคนแปลกหน้าที่ยืนตระหง่านค้ำคอเธออยู่ด้านข้าง
“คะ...รู้จักพิชด้วยหรือ...เอะ!” เธอตอบ ก่อนจะตกตะลึงเมื่อชายแปลกหน้าที่เข้ามาทักทาย ลักษณะดูคุ้นตา แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ดวงตาสีฟ้า! สีฟ้ารึ เธอค่อยๆ ขยับตัวมองหาตัวช่วย หาก...หากว่าเขาคือคนคนนั้น...
“รู้จักสิครับคุณพิชชาวีร์ ตรีทิพย์ ผมจาคอบ แรน์แมน ยินดีที่ได้พบอีกครั้ง”
“เรา...เราเคยเจอกันด้วยเหรอคะ!” พิชชาวีร์หน้าซีด เธอหวาดกลัวจนเกือบจะเป็นลม ร่างกายเกร็งค้าง
“เคยสิครับ แต่มันไม่เป็นทางการเท่าไหร่ คุณอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ” ชายหนุ่มถือวิสาสะทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามหน้าตาเฉย “เอ่อ...” เธอขยับตัวอย่างอึดอัด รานีเลขานุการเจ้ากรรมก็ไม่อยู่เสียด้วย
“พิช! พิชจำคุณไม่ได้เลย ต้องขอโทษด้วย พิชกำลังยุ่งขอตัวก่อนนะคะ” เธอตัดบทขยับตัวเตรียมจะลุกขึ้น
“ผมมีของมาคืนคุณ” ฝ่ามือร้อนชื้นรวบจับข้อมือของเธอเอาไว้แน่น ความร้อนแล่นวาบจากมือนั้นพุ่งเข้าสู่หัวใจของเธอจนมึนงง พิชชาวีร์เกร็งร่างกาย เธอพยายามชักมือออกจากการเกาะกุม แต่...กลับหยุดชะงักลงเมื่อมองเห็นแพนตี้สีดำๆ ในอุ้งมือของเขา ร่างอวบอุ่นระทวยอ่อนลง เข่าเธออ่อนจนทรุดฮวบลงบนที่นั่งที่เดิม ลมหายใจอ่อนเบา ดวงตาหรี่ปรือ หวาดกลัวจนเกือบจะหมดสิ้นลมหายใจ สิ่งที่เธอกลัวเกิดขึ้นจนได้ ผู้ชายใจหยาบช้าคนนั้นเขาแสดงตัวออกมาแล้ว และเขาต้องการอะไร?
“คะ...คุณต้องการอะไร” จาคอบแอบอมยิ้ม ทั้งๆ ที่คนตรงหน้า กลัวจนหน้าซีดมือเย็นเฉียบ แต่สิ่งที่เธอปฏิบัติคือการถลึงตาใส่เขา ทำเสียงแข็งๆ ข่มขู่
“ผมไม่ได้ต้องการอะไรเลยคนสวย ผมแค่เอาของที่คุณลืมไว้มาคืน” ชายหนุ่มฉีกยิ้มใส่ตาของพิชชาวีร์ เขาไล้ปลายนิ้วกับอุ้งมือเย็นเฉียบเล่นเพลินๆ ไม่สนใจปฏิกิริยาต่อต้านจากอีกฝ่ายสักนิด
“ปล่อย!” พิชชาวีร์พยายามสะบัดมือออก แต่แรงอันน้อยนิดไม่สามารถให้เธอหลุดออกมาจากการเกาะกุม
“ไม่รับของคืนรึ ผมอุตส่าห์เอามาคืนให้ ทั้งๆ ที่ไม่อยากคืนให้สักนิด มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมเลย เชื่อไหม? ผมนอนกอดมันทุกคืน” ชายหนุ่มเอ่ยช้าๆ ชัดๆ นัยน์ตาคมวาวพราวระยับ
“โรคจิต!” ริมฝีปากอิ่มขยับด่าหมุบหมิบ
“โรคจิตตรงไหนคนสวย ผมซักทำความสะอาดอยากดี ใช้มือขยี้ๆ ไม่อยากให้มันพังไปเพราะเครื่องซักผ้า สะอาดเอี่ยมอ่อง ไม่เชื่อลองดมดูสิครับ” ชายหนุ่มยกแพนตี้ตัวจ้อยขึ้นชู
“อ้ายยย อย่านะ เอาคืนมาเลย อย่ามาทำทุเรศๆ กลางห้างนะ พิช! พิชอาย” พิชชาวีร์อยากจะร้องกรี๊ดๆ แต่ที่ทำได้คือกระซิบขู่เขาเสียงเขียวก่อนจะสลดลง เมื่อเขาไม่เชื่อฟัง ใช่ซิ! เขาเป็นต่อเธอ มีข้อต่อลองของผู้ชนะ
“ผมจะคืนให้คุณ แต่...” เขาลากเสียงยาวเหยียด
“แต่อะไร! ขอให้รู้ไว้พิชไม่แจ้งความจับคุณก็น่าจะเป็นบุญคุณด้วยซ้ำ” เธอกระแทกเสียงตอบกลับ สะบัดหน้าค้อนขวับๆ
“แจ้งความสิครับ ผมพร้อมที่จะรับแจ้งเสมอ”
“หมายความว่าไง?” เธอสะบัดหน้ากลับมา เอ่ยถามแบบไม่ค่อยแน่ใจ เมื่อมองเห็นสายตาวิบวับจากอีกฝ่าย
“ผมเป็นCIA นี่เป็นความลับระดับโลก ผมเปิดเผยให้คุณรู้ได้ เพราะผมอยู่ในช่วงลาพักร้อน อีกอย่างคุณกับผมสนิทสนมกันเกินกว่าแค่คนรู้จักธรรมดา”
“เชื่อตายเลยล่ะ! อย่างคุณแค่คนบ้ากามธรรมดานั่นแหละ” เธอหมุบหมิบก่นด่าเหมือนเดิม ไม่ได้หลงเชื่อชายแปลกหน้าสักนิด
“ผมไม่เคยปล้ำใคร? คุณเป็นคนแรก” จาคอบยอมรับหน้าตาเฉย ก็มันเรื่องจริงที่เขาไม่เคยใช้กำลังบังคับหรือฝืนใจคู่นอนมาก่อน มันเกิดขึ้นกับพิชชาวีร์คนแรกที่เขาถือโอกาสกับเธอช่วงที่เธอกำลังมึนเมา
“ยี๋! ยังมีหน้ามาแอ่นอกรับ คนบ้า” เธอทำปากยื่นๆ ด้วยความไม่พอใจและยังคงพยายามชักมือออกจากการจับกุม
“ปากคุณน่าจูบมากเลยพิช!” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงละเมอเมื่อเขาจ้องมองริมฝีปากอิ่มเต็ม
“หะ! บ้า พิชขอตัว ขอของพิชคืนด้วย” เธอสะเทิ้นวูบ จำรสชาติจุมพิตของเขาได้ดีแม้จะรางเลือน แต่มันไม่เคยหายไปจากความทรงจำ
“อะไร? อยากได้คืนคุณต้องแลกนะพิช”
“ไม่! ที่คุณได้ไปนะเยอะแล้ว อย่าให้พิชต้องละอายใจมากไปกว่านี้เลยค่ะ” เธอตวาดเสียงหลง น้ำเสียงตอนท้ายเศร้าซึม เมื่อนึกถึงสิ่งที่สูญเสียไป
“เรามาลองคบกันไหม? พิช ลองศึกษากันดู เมื่อคุณก็ว่าง และผมยิ่งว่างใหญ่ ไหนๆ เราสองคนก็ไปไกลกว่าชาวบ้านชาวช่อง” จาคอบเอ่ยเสียงกะลิ้มกะเหลี่ย ดวงตาคมดุแวววาวระยิบระยับ สีฟ้าในนัยน์ตากระจ่างใส ไม่ได้หม่นมัวเหมือนที่อยู่ในช่วงเวลาวาบหวาม! ยัยบ้า! เธอยังมีหน้าไปนึกถึงช่วงเวลานั้นอีกหรือ จำอะไรไม่จำ ดันจำได้แต่สิ่งดีๆทั้งนั้น เสียงใครบางคนกระซิบอยู่ข้างใบหูของพิชชาวีร์ ดูเหมือนว่ามันจะตอกย้ำให้เธอรู้สึกตัว ว่าเธอเองก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสล้ำลึกที่จาคอบมอบให้ พิชชาวีร์แอบสังเกตชายหนุ่มด้านหน้า เขาแต่งกายรัดกุม สวมเสื้อผ้าสะอาดพอใช้ถึงมันจะยับยู่ยี่แต่มันก็มองดูสะอาดเอี่ยม ไม่ได้ขะมุกขะมอมจนน่าเกลียด เล็บมือสะอาดสะอ้านถูกตัดแต่งดูเรียบร้อย ไรหนวดบางๆ ตามแนวคางดูไม่ได้สกปรกรกรุงรังมากนัก แผงอกที่เธอแน่ใจว่ามันหนั่นแน่น! กล้ามแขนทรงพลังเป็นลอนกล้ามดูน่ามองซ่อนอยู่ในเสื้อยืดพอดีตัวสีทึ่มๆ เอวสอบหายลับไปใต้กางเกงทหารสีซีดๆ แต่เธอแน่ใจว่ามันเป็นของแท้พอดูจากลักษณะเนื้อผ้า มันผ่านการตัดเย็บแบบประณีต
“เป็นไงผมพอจะผ่านเกณฑ์ของคุณไหม? พิช” ชายหนุ่มกล่าวประชดเมื่อพิชชาวีร์สำรวจเขาแบบเอาจริงเอาจัง เขากางแขนแอ่นอกให้เธอมองจนพอใจ “ส่วนตัวก็ได้นะครับ ผมพร้อมจะถอดให้คุณมองทุกซอกทุกมุม” เสียงแหบพร่าเซ็กซี่ขยี้ใจ จาคอบเอ่ยเบาๆ เขาส่งสายตาร้อนแรงให้อีกฝ่ายจนพิชชาวีร์รีบชักสายตากลับ หน้าเธอร้อนซู่ รับรู้ความหมายที่เขาส่งให้
“ใครอยากดูกันเล่า!!!”
“ฮ่าๆ ...” จาคอบหัวเราะร่า เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ยกเมนูมองหาเครื่องดื่มของตัวเอง
พิชชาวีร์แบมือออกมาตรงหน้า เธออายๆ อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนเมื่อมองเห็นจาคอบจับแพนตี้ตัวน้อยของเธอเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง เขาไม่ได้คิดจะคืนให้เธอ แถมยังเก็บไว้กับตัวหน้าตาเฉย และเธอถูกชายหนุ่มทำมิดีมิร้ายผ่านชั้นในตัวนั้นมากมายขนาดไหนไม่อยากจะคิด...
“ผมคืนให้แน่ พิช! แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
“คนบ้า คนโรคจิต!” ชายหนุ่มหาได้สนใจเสียงบ่นว่า เขามองหาเครื่องดื่มของตัวเองและโบกมือเรียกพนักงานประจำร้านมาสั่ง ปล่อยให้พิชชาวีร์สะบัดค้อนใส่ จาคอบกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม เมื่อมองเห็นหน้าเหง้างอของอีกฝ่าย ผู้หญิงคนนี้มีอะไรให้เขาแปลกใจได้ตลอด ครั้งแรกที่เจอเธอเด่นสะดุดตาเหมือนเจ้าหญิงที่หลงเข้ามาเดินอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรม ยามอยู่แนบชิดกันพิชชาวีร์ร้อนแรงดังเปลวเพลิง ถึงเธอจะไม่เคยคุ้นแต่เธอก็พยายามเต็มความสามารถแม้จะเงอะๆ งะๆ มันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง และ...ในเวลานี้เธอเหมือนกวางสาวระวังภัย ถึงจะปั้นหน้าเฉยชา แต่เธอก็คือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาจำได้ไม่ลืม จนต้องท่อสังขารมาตามตื๊อ อย่างที่ไม่เคยทำ สงสัยกามเทพจะเริ่มทำงานเมื่อเด็กน้อยพวกนั้นยิงศรรักปักมาที่อกเขา มันจึงทำให้เขาติดกับเธอ เวียนว่ายกระเสือกกระสนหาทางมาใกล้เธอ โดยมีเดิมพันคือหัวใจ...