ถานเทียนสวี่ไม่ตอบ เขาชำเลืองมองเข้าไปด้านในครัวซึ่งมีทางเชื่อมให้ออกไปที่ลานซักล้างด้านนอก เมื่อชายหนุ่มเดินออกก็พบว่ามีถังน้ำใบใหญ่ถูกวางเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยตามคำบอก
ถานเทียนสวี่ชั่งใจสักครู่ก่อนจะค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกแล้วลงไปแช่ เขาหนื่อยกับการทำนามาทั้งวัน ปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด นี่นับเป็นครั้งแรกหลังจากแต่งงานที่ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงสามี
เสียงเดินที่ย่องเข้ามาทางด้านหลังทำถานเทียนสวี่ที่หลับตาพริ้มลุกพรวดขึ้นและคว้าข้อมือเล็กไว้ก่อนฉุดนางลงมาในน้ำอย่างรวดเร็ว
ตู้ม!!!!
หวงสือหลิวตกใจ รีบตะกายขึ้นจากน้ำโดยเร็ว แต่สูดหายใจได้เพียงครึ่งปอดก็ถูกถานเทียนสวี่บีบคอไว้แน่น
“แค่กๆ ปะ...ปล่อยข้า หายใจไม่ออก”
“ข้าคิดไว้อยู่แล้ว! เจ้าทำตัวพิลึกนัก คิดจะลอบทำร้ายข้า!”
“ขะ...ข้าเปล่า”
ถานเทียนสวี่ดึงตัวหวงสือหลิวเข้ามาใกล้ จ้องมองนางด้วยสายตาดุร้ายดั่งเสือที่ต้องการขย้ำลูกแกะก็มิปาน “เจ้าคงย่ามใจคิดว่าข้าไม่กล้าทำร้ายเจ้ากระมัง หวงสือหลิว...เจ้าคงไม่รู้ว่าความอดทนของข้ามันก็มีขีดจำกัด!”
“ข้า...ข้าแค่จะเอาผ้าเช็ดตัวมาให้” หวงสือหลิวชูผ้าผืนยาวในมือ น้ำตาเริ่มเล็ดออกมาจากดวงตางามทีละน้อย
“เจ้าจะเอาผ้ามารัดคอข้าใช่ไหม!”
“จะบ้าหรือไง!” หวงสือหลิวทุบมือลงที่อกของถานเทียนสวี่ พยายามดิ้นรนและบอกให้เขาปล่อยนาง
แม้ถานเทียนสวี่จะโกรธเคืองภรรยาของตนมากขนาดไหน แต่ก็ยังไม่มากพอจะหักใจสังหารนางได้ในตอนนี้ เห็นนางน้ำตาไหลอาบหน้าด้วยความทรมานแล้วก็เจ็บแปลบขึ้นมาในอก ในที่สุดจึงค่อยๆ คลายมือของตนออก
หวงสือหลิวสูดหายใจลึก พ่นออกและสูดเข้าอีกจนรู้สึกว่าตัวเองหายใจได้คล่องแล้วก็ตวัดตามองค้อน “ถานเทียนสวี่ นี่เจ้าคิดจะฆ่าข้าหรือไง”
“เจ้าต่างหากคิดจะฆ่าข้า”
หวงสือหลิวชี้นิ้วเข้าหาตัว “ข้าหรือ!? เจ้าเพี้ยนหรือเปล่า เจ้าคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กอย่างข้าจะมีแรงล้มเจ้าหรือไง”
‘ก็จริงอย่างนางว่า’ หวงสือหลิวตัวเล็กแค่ระดับไหล่ เรี่ยวแรงของนางน้อยนิดเหมือนเทียบกับถานเทียนสวี่ หวนคิดถึงคืนแรกที่ร่วมหอ...เป็นถานเทียนสวี่ที่ใช้กำลังบีบบังคับนางให้จำยอมเสียด้วยซ้ำ
“ข้าวู่วามไป ขอโทษเจ้าด้วย”
หวงสือหลิวลูบคอของตนพลางช้อนตาขึ้นมอง นางยังโกรธเขาอยู่จึงรีบปีนขึ้นจากถังน้ำแล้วเดินดุ่มๆ ออกไป
‘ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเป็นบ้า’ ถึงจะรู้ว่าเขาโดนหวงสือหลินคนเก่ากระทำย่ำยีจิตใจมามากก็เถอะ แต่ตอนนี้นางหาใช่หวงสือหลิวคนนั้นเสียหน่อย ‘ทำร้ายกันแบบนี้มันเกินไปแล้วนะ!’
ห้องนอนของหวงสือหลิวแยกออกจากห้องนอนของเฉ่าเหมยและถานเทียนสวี่ เพราะก่อนหน้านี้หญิงสาวเจ้าของร่างเดิมแขยงที่จะนอนร่วมเตียงกับสามีที่นางไม่พึงใจจะแต่งด้วยตั้งแต่แรก กระทั่งให้กำเนิดบุตรร่วมกันแล้ว นางก็ยืนกรานจะนอนแยกห้องคนเดียวไปทั้งชีวิต
เรือนหลังนี้เป็นเรือนขนาดไม่ใหญ่จึงมีห้องเล็กๆ เพียงสามห้องรวมห้องโถงกลางที่ใช้นั่งเล่นและรับประทานอาหารแล้ว ถานเทียนสวี่จึงต้องสละห้องอ่านหนังสือของตนให้หวงสือหลิวใช้เป็นห้องนอนแทน
หวงสือหลิวที่กำลังนั่งหวีผมอยู่บนเตียงเห็นบานประตูค่อยๆ ถูกแง้มออก และเป็นถานเทียนสวี่ที่เดินเข้ามา ดูจากสีหน้าเขาแล้ว เหมือนจะสำนึกผิดที่เมื่อครู่กระทำรุนแรงกับนางเกินไป
“นั่น” หวงสือหลิวชี้ไปที่ถุงเงินที่วางอยู่บนโต๊ะ “เงินของเจ้า ข้านำไปซื้อของสดกับผักมานิดหน่อย ที่เหลือคืนให้เจ้า”
“เจ้าเก็บไว้เถอะ อยากจะนำไปซื้ออะไรก็ซื้อ”
“ข้าไม่มีของที่อยากได้ แค่อยากให้เฉ่าเหมยกินจนอิ่มท้องก็เท่านั้น เห็นเมื่อกลางวันนางได้กินแค่แผ่นแป้งเย็นชืดแล้วรู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก”
“เจ้าเป็นห่วงเฉ่าเหมยตั้งแต่เมื่อไหร่”
หวงสือหลิวชายตามอง “ข้าเป็นห่วงลูกผิดตรงไหน ทำไมถึงชอบจับผิดข้าอยู่ได้”
ถานเทียนสวี่นิ่งเงียบ ทว่าสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หวงสือหลิว
“ที่นี่เคยเป็นห้องอ่านหนังสือของเจ้าสินะ” หวงสือหลิวหันมองไปรอบๆ เห็นยังมีโต๊ะและหนังสือเก่าๆ หลายเล่มวางอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง “ข้าว่าข้าจะคืนห้องนี้ให้เจ้า”
ถานเทียนสวี่หรี่ตาลง เอียงคอเล็กน้อยคล้ายกับเมื่อครู่ตนนั้นหูฝาด “เจ้าจะคืนห้องให้ข้า? แล้วเจ้าจะไปนอนที่ไหน”
หวงสือหลิวยักไหล่ “ก็กลับไปนอนกับเจ้าและลูกไง”
ถานเทียนสวี่ตัวแข็งค้าง เบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึงเหลือประมาณ