อืม ธารามาพร้อมกับโค้กกระป่องเย็นเฉียบ หัสวีร์รับมาแต่ก็แค่เอามาถือไว้ “กินสักหน่อยสิ” ธาราย้ำเตือน
“นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบกินหวาน”
ธารายิ้มก่อนจะเอ่ยต่อว่า... “เพราะงี้ไง นายถึงปรับอารมณ์ที่ดีกลับมาไม่ได้สักที” หัสวีร์หันไปมองหน้าเพื่อนไร้ซึ่งรอยยิ้ม “โค้กเนี่ย เป็นของโปรดอีกอย่างของลำธาร แต่แม่อนุญาตให้ลำธารดื่มมันได้แค่อาทิตย์ละหนึ่งกระป๋องเท่านั้น ฉันเคยถามแม่ว่าทำไมยังอนุญาตให้น้องกิน แม่ตอบฉันว่าแม่เคารพในการตัดสินใจของลูกๆ เสมอ แต่ลูกๆ ก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของแม่เช่นกัน...นายนะนั่งอยู่ตรงนี้มาสองชั่วโมงแล้ว นั่งตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืดจนตอนนี้ฟ้ามืดแล้วนะ แม่บอกว่าควรเข้าบ้านได้แล้ว”
หัสวีร์ถึงกับยิ้ม และจากที่ยิ้มก็กลายเป็นหัวเราะ “คุณป้านอนแล้วเหรอ”
“ลืมไปแล้วเหรอว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินทางแต่เช้า ทะเล” นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้ไปเที่ยว สลัดความไม่สบายใจทิ้งไป เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าต่อไป
?????? ??????
ทางด้านบ้านอัครวัชรโยธินกลับหาความสงบไม่เจอเลย “เป็นไงละลูกชายสุดที่รักของคุณ ทำตัวเหมือนหมาวิ่งตามเจ้าของไม่มีผิด”
“ไอ้สารเลว คุณเป็นพ่อประสาอะไรถึงด่าลูกแบบนั้น” คุณแขไขแม่ผู้รักลูกชายออกตัวปกป้อง แม้จะเสียใจอยู่บ้างกับการกระทำของลูกชายในวันนี้แต่เธอก็ไม่มีทางยอมให้ลูกชายเสียเปรียบใดๆ
“มันทิ้งเราที่เป็นพ่อแม่แท้ๆ ตามบ้านโน้นไปแทบจะทันที ไม่ด่ามันแล้วจะยกย่องเชิดชูมันหรืออย่างไร มันซาบซึ้งกับการไปวันนี้ของเราบ้างมั้ย คุณโง่หรือตาบอดหรือไงถึงไม่เห็นสีหน้าและแววตาของมัน”
“คุณเอาแต่ว่าๆ ด่าๆ ลูก นอกจากด่าว่าแล้วคุณเคยทำหน้าที่พ่อบ้างมั้ย”
“หน้าที่พ่อ ผมไม่ทำอย่างงั้นเหรอ ผมต้องทำงานง่กๆ ส่วนแบ่งของมันทุกบาททุกสตางค์มีบางมั้ยที่จะตกหล่น ตกลงมันเป็นลูกหรือเป็นเจ้ากรรมนายของผมกันแน่”
กรี๊ดดดดด คุณแขไขโกรธจนกรีดร้องเสียงดังลั่น ตวาดไล่หาญรัชให้ไปให้พ้นๆ
?????? ??????
ณ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 2
ข้าราชการน้องใหม่สองคนเข้ารายงานตัวตามหมายเรียก “นายสองคนนี้ตัวจริงหล่อกว่าในรูปเสียอีก” เสียงของรุ่นพี่ในกองเอ่ยขึ้น เมื่อมีคนเสนอก็ย่อมมีคนสนองเห็นด้วย
“เรากำลังต้องการคนสอดแนมพอดีเลย ส่งสองคนนี้ไปเลยดีมั้ย”
“สองคนนี้ไม่มีประสบการณ์มันไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอ”
“มันก็จริง แต่ตอนนี้พวกค้ายาจมูกไวมาก ถ้าหนึ่งในพวกเรากลัวแต่ว่าพวกมันจะไหวตัวเสียก่อน...” การปรึกษากันในทีมเอ่ยกันไปเอ่ยกันมา หัสวีร์และธาราที่ยืนอยู่กลางห้องหันมองกันเองสลับกับมองเหล่ารุ่นพี่ที่ถกหาข้อสรุปกันไม่หยุด
“ท่านผู้การต้องไม่อนุมัติแน่ มันเสี่ยงมากเลยนะ”
“แต่ไม่ใช่พวกเราจะส่งเจ้าน้องใหม่นี้ไปวันนี้พรุ่งนี้เสียหน่อย อย่างน้อยๆ มีเวลาหนึ่งเดือนให้ฝึก อย่าลืมว่าสองคนนี้อันดับหนึ่งและสองของรุ่นเลยนะ”
ปัง! คนหนึ่งในจำนวนหลายๆ คน เป็นฝ่ายทุบโต๊ะและเอ่ยขึ้นว่า “ทำรายงานแจ้งแผนไปส่วนสายสอดแนมจะสรุปอีกครั้งในหนึ่งเดือนข้างหน้า” และสองคนที่มารายงานตัวก็กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
“พวกนายสองคนเป็นเพื่อนคู่หูกันมาตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียม เพราะงั้นหกปีที่ผ่านนายสองคนย่อมรู้จักซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีใช่มั้ย” หัสวีร์และธาราพยักหน้ารับ “บางสถารการณ์ต้องเข้าใจกันเพียงแค่มองตาเพียงแว็บเดียว...เฮ้ย! ฉันหมายถึงการส่งสัญญาณจากการกระพริบตาโว้ย” หัสวีร์และธาราถึงกับถอนหายใจ
เผลอแป็บเดียวก็ผ่านไปอีกสองปี ชน! ในวันวานที่สองคนเริ่มต้นที่เฉลิมฉลองกันด้วยนมกล่อง แปรเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่า แต่วันนี้เป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่ “สองปีแล้วที่ไม่ได้กลับบ้าน” ธาราเอ่ยขึ้น สายตามองไปข้างหน้ายังท้องน้ำทะเลอันมืดมิด “นายจำวันที่พวกเรามาเที่ยวทะเลกันครั้งแรกได้มั้ย”
“ได้สิ! ไม่มีวันลืม”
“คิดถึงแม่และลำธารเนอะ” อืม แต่บรรยากาศโฮมซิกต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ๆ ในสถานที่ที่ไม่น่าจะมีใครมาเยือนแล้วในยามนี้ ตอนนี้มันดึกมากแล้วและชายหาดที่สองคนนั่งกันอยู่ก็ค่อนข้างเปลี่ยว วันนี้ทั้งสองได้พักก็แค่ต้องการมุมสงบๆ และนั่งดื่มกันเพียงแค่นั้น
ควับ! ทั้งสองรีบลุกขึ้นและหันหลังชนกันทุกอากัปกริยาเป็นไปอย่างอัตโนมัติของคนที่เป็นคู่หูที่ระวังหลังให้กัน ฟึบ! ฟึบ!
“นายได้ยินมั้ย”
“เสียงปืนผ่านกระบอกเก็บเสียง...มาจากฝั่งโน้น” แต่ไม่ทันที่ทั้งสองจะได้หลบ พวกเขาก็เห็นต้นเหตุว่ามีการไล่ล่าชายวัยรุ่นสองคนกับชายอีกกลุ่มหนึ่ง “ทะเลาะกันขนาดไหนเนี่ยถึงกับต้องไล่ยิงกันแบบนี้”
“ปืนมีที่เก็บเสียงซะด้วย...นายว่าในกลุ่มนั้นจะมีเป้าหมายของพวกเรามั้ย”
“ทุนหนาขนาดนี้...มีอยู่แล้ว” ธาราเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ
“ช่วยคนก่อน” เมื่อตกลงกันแล้ว ธาราและหัสวีร์ก็วิ่งย้อนไปหาเหตุวุ่นวาย หาดทรายเป็นที่โล่งแต่ก็ดีที่ตรงนี้ค่อนข้างมืดแค่วิ่งให้เร็วและห่างออกมาสักหน่อยก็ยากที่จะโฟกัสเล็งเป้าสำหรับมือสมัครเล่นที่ไม่ได้ถูกฝึกมา
“ทางนี้” หัสวีร์คว้าหนึ่งในผู้ที่ถูกไล่ล่าได้ แน่นอนว่าเมื่อมีมืออาชีพเข้ามาอะไรๆ ก็ย่อมเป็นไปได้ หัสวีร์พาหนึ่งในนั้นหลบหลีกกลุ่มคนที่ไล่ล่า เขาเฝ้าสังเกตุการณ์นับจำนวนคนในกลุ่ม “อยู่ตรงนี้นะ” เขากระซิบบอกชายวัยรุ่นและขยับวิ่งไล่หลังคนกลุ่มนั้นที่ไล่ตามธาราและเด็กชายวัยรุ่นอีกคนไป