ในขณะที่ไอรดากำลังบินลัดฟ้ามายังประเทศอิตาลีดินแดนแห่งศิลปะ เจ้าของประเทศอย่าง จิโอวาโน่ ทารอสโซ ก็กำลังคิดไม่ตกกับอาการของตัวเอง ระหว่างที่กำลังนั่งรอเพื่อนรักอยู่ที่สนามบินที่กำลังบินลัดฟ้ามาจากประเทศฝรั่งเศสเช่นกัน
“เอ่อ นายเป็นอะไรรึเปล่า ผมเห็นนายนั่งถอนหายใจอยู่นานแล้วนะครับ” มาร์โก้ที่สังเกตเห็น ก็อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“มาร์โก้ แกคิดว่าฉันเป็นพวกโรคเสื่อมสมรรถภาพเพศรึเปล่าวะ” จิโอวาโนตัดสินใจถามออกไปในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดไม่ตก หลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่เขาไล่ผู้หญิงคนนึงออกไปจากห้องหลังเสร็จกิจ เขาก็ไม่มีความต้องการอยากขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนไหนอีก ซึ่งมันผิดปกติวิสัยของเขาที่เคยเป็นมา
“ห๊า นายว่าอะไรนะ” ทั้งซานโดร และมาร์โก้อุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ อย่างจิโอวาโน่เนี่ยนะจะเป็นโรคแบบนั้น
“พวกแกก็เห็นนี่ ว่าช่วงหลังมานี้ฉันไม่มีอารมณ์อย่างว่า ไม่เรียกหาผู้หญิงนานแล้วนะโว้ย” จิโอวาโน่ยอมเปิดอกคุยถึงเรื่องที่ตัวเองกำลังกลุ้มใจอยู่ตอนนี้อย่างหมดเปลือก เผื่อทั้งสองจะหาทางช่วยได้ ก่อนที่มันจะสายเกินไปจนกู่ไม่กลับ
“นั่นสินะ หรือว่านายกำลังจะเบี่ยงเบนทางเพศอย่างที่ผมเคยบอกจริงๆ แล้วหันมาโจ๊งครึ่มกับพวกแมนๆ ดู โอ้ว! ไม่ แค่นึกภาพก็สยองแล้วครับ” ซานโดรทำท่าผวาพร้อมกับเอามือปิดปากตัวเอง
“นั่นสินะ ถ้าเกิดว่าฉันอยากเปลี่ยนรสนิยมขึ้นมาจริงๆ แกจะได้รับเกียรติพิสูจน์เป็นคนแรก โทษฐานที่พูดให้คิดอยู่ได้ไอ้เวรซานโดร” จิโอวาโน่เองก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้กับอาการของตัวเอง
“อ๊าย! ไม่นะ ถ้าตัวเองเปิดซิงเค้าล่ะก็ เค้าจะฟ้องมูลนิธิปวีณาที่เมืองไทยจริงๆ ด้วย ทีนี้ตัวเองก็จะต้องรับผิดชอบเขาด้วยการแต่งงานเลยนะ เอามะแต่งงานกับเค้าน่ะ” ซานโดรเปลี่ยนสรรพนามให้ฟังดูน่ารักมากยิ่งขึ้น แต่ใครๆ เห็นแล้วต่างก็เมินหน้าหนี
“อย่าไปสนใจไอ้ซานโดรมันเลยครับนาย บางทีนายอาจจะแค่เบื่อ คงไม่ร้ายแรงถึงขั้นเอ่อ เสื่อมสมรรถภาพหรอกครับ เอาอย่างนี้สิครับ ระหว่างที่เรากำลังนั่งรอคุณอเล็กซ์ นายก็ลองมองๆ ดู เผื่อเจอสาวที่ถูกใจ จะได้พิสูจน์ว่านายยังคึกคักเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า” มาร์โก้พยายามพูดปลอบใจ
“โอ้ว! พระเจ้า นี่มันนางฟ้าชัดๆ” ระหว่างที่จิโอวาโนและมาร์โก้กำลังปรึกษาเรื่องซีเรียสกันอยู่ จู่ๆ ซานโดรก็อุทานเสียงดังออกมา ทำให้สองหนุ่มจำต้องละสายตาหันไปมองบ้าง และภาพที่เห็นก็ทำให้จิโอวาโน่ถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ
ผู้หญิงคนหนึ่งท่ามกลางบอดี้การ์ดมากมาย แต่เธอกลับมีอะไรบางอย่างดึงดูดทำให้มองเห็นเพียงเธอแค่คนเดียว และในวินาทีนั้นเอง เขาก็คิดได้ว่าเขาจะต้องได้เธอคนนั้นมาพิสูจน์ความคึกคักของเขาอีกครั้งให้จงได้
“เป็นไงครับนาย คนนี้พอจะพิสูจน์ได้บ้างไหม” มาร์โก้เอ่ยแซว เมื่อเห็นเจ้านายเอาแต่ยืนมองนิ่ง
“ก็อาจจะได้ หรืออาจจะไม่ได้” จิโอวาโน่ไหวไหล่วางท่าทำเป็นไม่สนใจจนมาร์โก้อดหมั่นไส้ไม่ได้
“ถ้างั้นก็หาคนอื่นเถอะครับ เผื่อเจอที่ถูกใจกว่านี้” มาร์โก้แกล้งแหย่เพื่อดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
“เฮ้ย! จะไปหาให้มันเสียเวลาทำไมวะ คนนี้ก็น่าจะพอถูไถได้บ้างนั่นแหละ” จิโอวาโน่ยังคงวางฟอร์ม รักษามาดของตัวเองเอาไว้อย่างแข็งขัน
“แต่ผมว่า นายไปหาคนอื่นเถอะครับ อย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้เลย” มาร์โก้ทำสีหน้าหนักใจ
“ทำไม” จิโอวาโน่ถามกลับด้วยความไม่พอใจทันที
“นี่นายไม่รู้จักเธอจริงๆ เหรอครับ” คนที่ติดตามข่าวสารคนดังอยู่เป็นนิจอย่างมาร์โก้ จึงมักจะเห็นเธอตามหน้านิตยสารต่างๆ อยู่บ่อยๆ และเพราะความสวยของเธอ ทำให้เขาต้องสนใจเข้าไปอ่านรายละเอียด จึงได้รู้ว่าเธอก็คือ คุณหนูไอรดา เอลล่า ชาร์ตัน นักธุรกิจสาวคนเก่ง ผู้สืบทอดธุรกิจในเครือชาร์ตันทั้งหมด
“แล้วแกรู้จักรึไงล่ะ” จิโอวาโน่ถามอย่างไม่สบอารมณ์อีกครั้ง จึงได้คำตอบจากอีกฝ่ายด้วยการพยักหน้า “ใคร” เขาจึงถามขึ้นอีกครั้ง
“คุณหนูไอรดา เอลล่า ชาร์ตัน ลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณอัลเฟรด ชาร์ตัน มาเฟียอิทธิพลในรัสเซีย” มาร์โก้ไขข้อข้องใจให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเธอเปรียบเสมือนของต้องห้ามสำหรับเขา
“อ๋อ ที่เขาลือกันว่าสวยนักสวยหนาน่ะเหรอ เห็นทีข่าวลือพวกนี้คงเชื่อไม่ได้ อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าสวยหรอก แต่เรียกว่าโค-ตะ-ระ สวยเลยต่างหาก ฉันเพิ่งเชื่อว่านางฟ้ามีจริงก็วันนี้แหละว่ะ” เมื่อซานโดรได้ฟังข้อเท็จจริงก็รีบแทรกขึ้นมาทันที
“แล้วไง” จิโอวาโน่ยักไหล่ นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้คนอย่างเขากลัว ถ้าได้ลองคิดว่าต้องการแล้ว ยังไงๆ ผู้หญิงคนนี้ก็จะต้องเป็นของเขาไม่ว่าช้าหรือเร็ว
“ก็เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอย่างที่นายเคยผ่านมา ผมเกรงว่าเธออาจจะนำความยุ่งยากมาให้เราในภายหลัง ถ้าหากว่านายเขี่ยเธอทิ้งอย่างคนก่อนๆ” สีหน้าของมาร์โก้แสดงความหนักใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันไม่สน ก็ในเมื่อฉันต้องการก็คือต้องการ แล้วต้องได้เท่านั้น” จิโอวาโน่พูดตามวิสัยดื้อดึงของตัวเอง จนมาร์โก้เองก็คร้านจะขัดแล้วเหมือนกัน ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีของตัวมันเองแล้วล่ะงานนี้ ที่สำคัญถึงจะห้ามก็คงห้ามไม่ทันแล้วล่ะ ก็พ่อคนหัวดื้อเล่นเดินตรงลิ่วไปหาสิ่งที่ต้องการซะแล้วในตอนนี้
“คุ้มกันคุณหนู” อิล ประกาศเสียงกร้าวให้บอดี้การ์ดทุกคนเตรียมพร้อม เมื่อเห็นบุคคลน่าสงสัยเดินตรงมายังพวกเขาแบบไม่น่าไว้ใจ
“เอ่อ! ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ตกใจ คือพวกผมมาดี จะว่าไปก็ไม่ดีเท่าไหร่” มาร์โก้ที่รับหน้าที่เป็นคนเปิดการเจรจาถึงกับพูดผิดๆ ถูกๆ เมื่อคนที่เขากำลังเจรจาด้วยเป็นผู้หญิง ที่สำคัญเธอสวย ถึงแม้จะไม่ได้สวยอย่างนายสาวของเธอ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่มีทรวดทรงองค์เอวที่น่ามองคนหนึ่ง “เอ๊ย! เอ่อ ผมหมายถึงเจ้านายของผม ต้องการเจรจาบางอย่างกับเจ้านายของพวกคุณน่ะครับ”
“มีเรื่องอะไร คุยผ่านพวกเราแทนได้เลยค่ะ อ้อ! และถ้าจำไม่ผิด ฉันคิดว่าพวกเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันก่อนแน่ๆ และที่มาอิตาลีในครั้งนี้ เราก็มาเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับธุรกิจ ดิฉันจึงไม่เห็นความจำเป็นที่เราจะต้องเจรจากันค่ะ” มาเรียพูดกันไว้ทุกทาง เพราะไม่อยากให้มีเรื่องยุ่งยากเข้ามาอีก แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ปวดหัวมากพอแล้ว
“ใช่ครับ เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน และไม่คิดจะมีด้วยครับ แน่นอนว่าทารอสโซ ไม่ต้องการมีปัญหากับชาร์ตันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นหมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลยครับ” แต่กังวลเรื่องอื่นน่ะไม่แน่ มาร์โก้เสริมขึ้นในใจ
“ถ้าอย่างนั้นมีเรื่องอะไร คุณพอจะบอกทางเราได้ไหมคะ” มาเรียถามด้วยสีหน้าลำบากใจ การที่จะให้คุณหนูของเธอไปคุยกับคนแปลกหน้า โดยไม่มีข้อมูลอะไรเลยนั้น มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะมันอาจจะเกิดอันตรายที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอย่างแน่นอน
“เอ่อ! เห็นทีเรื่องนี้ผมคงต้องรบกวนให้เจ้านายของคุณเป็นฝ่ายไปถามเจ้านายผมเองแล้วล่ะ ผมมีหน้าที่แค่มาเจรจาบอกความประสงค์ของเจ้านายเท่านั้นครับ” มาร์โก้เองก็มีสีหน้าลำบากใจไม่แพ้กัน
“ไม่เป็นไรมาเรีย ในเมื่อเขาอยากคุย ฉันก็จะคุย” ไอรดาที่นั่งฟังอยู่ห่างๆ พูดขึ้นบ้างในขณะที่กำลังรอคนของเธอจัดการเรื่องรถอยู่
ดังนั้นไอรดาจึงพาร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของตัวเองเข้าไปใกล้จิโอวาโน่อย่างต้องการสำรวจอะไรบางอย่าง ใกล้จนแทบจะรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทำเอาคนถูกสำรวจถึงกับยืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับไปไหน แค่นั้นยังไม่พอ มือบางแต่ทรงอานุภาพร้ายแรงในความคิดของเขา ยังเอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าของเขาแผ่วๆ พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อมองหน้าเขาให้ชัดขึ้นอีก สองมือเรียวจับใบหน้าคมเข้มหันไปมา ราวกับต้องการสำรวจให้แน่ใจ ส่วนเขาแต่ยืนเกร็งอยู่อย่างนั้น ไม่ต่อต้านใดๆ ทั้งสิ้น ทำเอาลูกน้องทั้งหลายที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไม่ห่าง ต่างพากันตกใจและแปลกใจ เอ๊ะ! หรือจะเรียกว่าประหลาดใจดีล่ะ ก็ไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างที่ผู้หญิงคนนี้ทำมาก่อนน่ะสิ ถ้าเป็นเวลาปกติล่ะก็ ผู้หญิงคนนี้คงถูกจับโยนออกไปแล้ว
“อืม” หลังจากสำรวจจนพอใจ ไอรดาจึงทำท่าใช้ความคิด “คุณนี่ก็หล่อเหมือนกันนะ” พูดจบเธอจึงปล่อยมือและถอยออกมาสองก้าว จนจิโอวาโน่อดที่จะรู้สึกเสียดายสัมผัสจากเธอไม่ได้ เพียงแค่สัมผัสเล็กๆ น้อยๆ จากเธอแต่กลับมีอิทธิพลต่อเขาไม่ใช่น้อย จนเขาเองยังรู้สึกหวั่นใจความรู้สึกแบบนี้ของตัวเอง “อืม! ทั้งหล่อ ทั้งหุ่นดี กล้ามก็เป็นมัดๆ เหมาะที่จะเป็นพ่อพันธุ์ของฉันที่สุด” ท้ายประโยคเธอหันมาใช้เป็นภาษาไทยเหมือนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เขารู้ความหมายด้วย แต่ผิดถนัด เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนผ้ชายคนก่อนๆ ที่เธอเคยผ่านมา นอกจากเขาจะเข้าใจสิ่งที่เธอพูดแจ่มแจ้งแล้ว เขายังสามารถพูดสื่อสารกับเธอได้ด้วย แต่เรื่องอะไรจะให้เธอรู้ล่ะ เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะว่ายังไงบ้าง จึงยืนฟังเงียบๆ อีกเหมือนเดิม แต่ประโยคต่อมาของเธอนี่สิ ทำเอาเขาแทบสำลักไปเลยทีเดียว
“รามาน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟให้ด้วยนะ” ไอรดาหันไปบอกรามานที่ยังยืนอึ้งอยู่ ก็เธอทำเหมือนผู้ชายคนนี้เป็นอาหารอันโอชะอย่างนั้นแหละ แต่สำหรับรามานมันคืออาหารมีพิษต่างหากเล่า
ไอรดาสั่งความเสร็จ ก็ตั้งใจจะผละจากไป เนื่องจากเสร็จภารกิจที่วางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทันที่เธอจะไปได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ก็ถูกมือใหญ่ของจิโอวาโน่คว้าแขวนเรียวเล็กของเธอเอาไว้ซะ และด้วยความไม่ทันระวังตัวด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้า ร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของเธอจึงตกอยู่ในอ้อมอกแข็งแกร่งของเขาเข้าอย่างจัง
“เดี๋ยว เรายังคุยกันไม่จบ ผมคิดว่าคุณกับผมเรามีเรื่องต้องตกลงกัน” จิโอวาโน่บอกเสียงเข้ม หลังจากที่ได้ฟังว่าเธอต้องการอะไร จึงคิดว่าทั้งเขาและเธอต่างก็มีความต้องการที่ตรงกัน แต่