มิริณทำงานเป็นเลขาฯ ให้เขาเก้าปีเต็ม มองจากมุมไกลต่อให้หญิงสาวหันข้างหรือหันหลังก็จำได้ว่าเป็นหล่อน เขาลาออกจากทุกตำแหน่งในบริษัทอินฟินิตี้เกือบสองปี เป็นเวลาสองปีที่ไม่ได้สนใจข่าวคราวของเลขาฯ ว่าหล่อนยังทำงานอยู่ที่เดิม หรือลาออกไปทำที่ใหม่
หล่อนไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ถูกขนาบข้างด้วยเด็กหนุ่มหน้าตาดีถึงสองคน ทั้งสองออดอ้อนออเซาะ แข่งกันป้อนเครื่องดื่มและขนมหวานให้หญิงสาว นั่งชิดติดตัวหล่อนจนเรียกได้ว่าเนื้อแนบเนื้อเห็นภาพ 3P
อยากเข้าไปทักทายตามประสาคนเคยร่วมงานกัน แต่หล่อนสนุกสนานอยู่กับเด็กหนุ่มทั้งสองอย่างประเจิดประเจ้อกลางวันแสกๆ จึงเปลี่ยนใจเดินหนีไป
“กาแฟไม่ดีต่อสุขภาพ มาเที่ยวไม่ได้มาทำงาน คูเปอร์ว่ากินน้ำอย่างอื่นดีกว่านะ กินของคูเปอร์ก็ได้ กาแฟของพี่ คูเปอร์กินให้เอง สำหรับพี่ คูเปอร์ยกให้ได้ทุกอย่าง”
คูเปอร์คว้าแก้วกาแฟออกจากมือเรียว นำแก้วเครื่องดื่มของตัวเองไปเปลี่ยน ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ขอร้องให้หญิงสาวยอมดื่มเครื่องดื่มที่เขายกให้ ตาใสแป๋วรอให้หญิงสาวดื่ม ถ้าหล่อนยอมดื่มเด็กหนุ่มจะมีความสุขมาก
เด็กหนุ่มอีกคนไม่ยอมให้เพื่อนคว้าหัวใจหญิงสาวไปครอง ใช้ช้อนตักเค้กไปจ่อริมฝีปากแสนสวย ตีหน้าเศร้าไว้ก่อน จะยิ้มได้ก็ต่อเมื่อหญิงสาวยอมกินเค้กที่เขาป้อน
“กินเค้กกับคอปเปอร์ดีกว่านะครับ เค้กเรดเวลเวตแสนอร่อยของชอบพี่ คอปเปอร์เรียนหนังสือไม่เก่ง ความจำไม่ดี แต่ถ้าเป็นความชอบของพี่ คอปเปอร์ไม่เคยลืมนะครับ กินนะ อ้าปากครับ”
“เสียมารยาทนะคอปเปอร์ ฉันเอาใจพี่มิริณก่อน ก็ต้องได้ก่อนสิ นายรอคิวไม่เป็นหรือยังไง” คูเปอร์โวยวาย
“ฉันก็อยากให้พี่มิริณสนใจฉันเหมือนกันนี่นา เรื่องอย่างนี้ต้องให้คนกลางตัดสิน ใช่ไหมครับพี่มิริณคนสวยของคอปเปอร์”
สาวสวยหนึ่งเดียวข้างกายชายหนุ่มวัยขบเผาะทั้งสองไม่เลือกใครคนใดคนหนึ่ง สอดมือเรียวเล็กควงแขนพวกเขา “มาจ้ะ พร้อมกันได้เลย ปากของพี่ กินพร้อมกันได้ทั้งสองคนเลยจ้ะ”
“โห น่ารักอย่างนี้ พวกผมก็ตายคาแทบเท้าพี่เลยสิครับ”
เด็กหนุ่มทั้งสองพร้อมใจกันวางแก้วเครื่องดื่มกับช้อนตักขนมเค้ก ทิ้งดิ่งศีรษะไปพิงกับพนักเก้าอี้ หญิงสาวรุ่นพี่ดาเมจแรงจนพวกเขาสามารถตายได้เลย ถ้าหากหญิงสาวจะเอ็นดูถึงขั้นปรายสายตามามองเด็กโฮสต์ตาดำๆ
“อะไร ไม่เอาใจพี่ต่อแล้วเหรอ กำลังเคลิ้มเลยนะเนี่ย”
“คอปเปอร์สู้ไม่ไหวครับ กลัวหลงรักพี่มิริณขึ้นมาแล้วจะอกหัก”
“คูเปอร์ก็ไม่ไหวครับ ยกให้พี่มิริณอยู่บนหิ้ง ไม่กล้าแตะต้อง”
“อาร๊าย! เมื่อกี้ยังกอดแขนพี่อยู่เลย ทีอย่างนี้ทำมาเป็นพูด เชอะ เจ้าพวกเด็กน้อยเอ๊ย” มิริณขยี้ลงที่ศีรษะของน้องชายทั้งสองคน หยิกแก้มแถมไปหนึ่งครั้ง เห็นมาตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยกเดียวจนจะเรียนจบระดับปริญญาตรี เหลือแค่ฝึกงานช่วงสั้นๆ ในโรงแรมบนเกาะสมุย
เจ้าเด็กแฝดในสังกัดของน้าหล่อนไม่มีครอบครัวคอยสนับสนุน ยอมทำงานที่ใครหลายคนดูถูก เพื่อมุ่งมั่นหาเงินเรียนหนังสือจนจบ เรียนจบแล้วต่อไปก็จะมีชีวิตที่ดี มีงานทำ มีผู้หญิงดีๆ เข้ามาในชีวิต แล้วจะไม่ให้มิริณภูมิใจในตัวเจ้าแสบทั้งสองได้ยังไง
ช่วงที่จิรัชหันหลังให้ มิริณเหลือบไปเห็นเขาพอดี ร่างกายหญิงสาวแข็งทื่อ อยากตามไปดูให้แน่ใจว่าใช่เจ้านายเก่าหรือเปล่า แต่ทางออกซ้ายและขวาถูกปิดไว้โดยเด็กแฝด กว่าจะผลักท่อนขาหนักๆ เหล่านั้นออกไปพ้นทางได้ชายคนดังกล่าวก็หายตัวไปแล้ว
มิริณมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดหรือคิดไปเอง ชายคนนั้นคือจิรัช และเขาได้มองเห็นหล่อนก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ไม่ยอมเข้ามาทักทาย มิริณหวิวๆ ในหัวใจ เพราะตั้งแต่เขาลาออกก็ไม่กลับมาที่บริษัทอีก
มันแปลกที่มิริณคอยเฝ้าฝันจะได้เจอกันอีกครั้ง เมื่อเขาไม่กลับมาหล่อนจึงลาออกจากงานในบริษัท ไปสมัครที่ใหม่เพื่อจะได้เลิกคิดฟุ้งซ่าน แต่สองปีมานี้มิริณลาออกจากงานไปแล้วถึงสามครั้ง ครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว น้ามีมี่ถึงกับออกปากขอร้องให้เลิกตระเวนหางานประจำ กลับมาช่วยน้าดูแลบาร์โฮสต์
มิริณคิดว่าก็ดีเหมือนกัน แต่ก่อนเข้าไปช่วยงานน้าเต็มตัว จัดทริป 5 วัน 4 คืนมาเที่ยวทะเลให้ฉ่ำปอด เพิ่งลงเครื่องที่เกาะสมุยเมื่อวานยามบ่าย ช่วงสายวันใหม่เด็กแฝดหยุดงานมาปลุกถึงที่พัก อ้อนขอเป็นไกด์นำเที่ยว หวังให้มิริณให้ทิป และเลี้ยงข้าวตามสไตล์เด็กในบาร์โฮสต์
‘พวกผมจำเป็นต้องหน้าด้านเพื่อความอยู่รอด มาฝึกงานที่นี่ เงินเดือนนิดเดียว คิดถึงเจ้มี่ อยากกลับไปทำงานจะแย่แล้วครับ’
หนุ่มๆ ลงทุนออดอ้อนถึงขนาดนี้ หลานสาวคนเดียวของเจ้มีมี่ สาวประเภทสอง เจ้าแม่บาร์โฮสต์อันดับหนึ่งในกรุงเทพฯ จะใจแข็งได้ยังไง หอบหิ้วกันขึ้นรถมาเลี้ยงข้าวจนอิ่ม ต่อด้วยเครื่องดื่มและขนมหวาน
เด็กสองคนอาจจะขี้ตื้อ พูดมาก จุ้นจ้าน ไปสักหน่อย แต่ก็เป็นเด็กดี ไว้ใจได้ มิริณคบหาพวกเขาเสมือนว่าเป็นคนในครอบครัวมานาน เกินสิบห้าปีน่าจะได้ เพราะตั้งแต่พ่อกับแม่เด็กทั้งสองคนเสียชีวิต ก็ได้น้ามี่คอยส่งเสียให้เรียนในชั้นมัธยม จนถึงมหาวิทยาลัยน้าให้ไปทำงานในร้าน เพื่อให้พวกเขามีรายได้นำเงินไปจ่ายค่าเทอมค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ต้องขอบคุณความจุ้นจ้านของเด็กพวกนี้ ที่ทำให้มิริณได้เจอเจ้านายเก่าอีกครั้ง แม้จะเห็นแค่ด้านข้างของเขาก็ตาม
สองปีมานี้ มิริณไม่ได้ข่าวจิรัชเลย เขาไม่ได้สมัครทำงานในบริษัทอื่น ไม่ได้ลงทุนทำธุรกิจเพิ่มเติม ธุรกิจที่เคยมีก็ยกให้เจนจิราไปหมด รวมถึงบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพฯ เขาไม่ออกงานสังคม หายหน้าหายตาไปเลย โซเซียลมีเดียต่างๆ ยิ่งแล้วใหญ่ เขารู้จักหรือเปล่าเถอะ ว่ามันเล่นยังไง มิริณค้นหาแล้วค้นหาอีกไม่เคยหาเจอ
หล่อนยอมทำถึงขั้นไปติดตามอินสตาแกรมเจนจิรา ลูกสาวขาวีนของเขา แต่คุณหนูจอมเอาแต่ใจคนนั้นไม่โพสต์รูป หรือลงสตอรี่คู่พ่อเลยสักครั้ง
ลงแต่รูปผัว!