“ใครสั่งให้พวกมึงไปกระทืบหมอหมา!?” เสียงตะคอกอย่างโกรธขึ้ง นายหัวสาดอารมณ์เกรี้ยวกราดพอได้เรื่องว่ามีคนทำงานเกินคำสั่ง ทั้งที่มันเคยเป็นเรื่องปรกติในฟาร์มแห่งนี้ งานประจบเอาใจเป็นที่หนึ่งยกให้วิทยา คนอื่นที่หวังโบนัสจากนายก็ไม่น้อยหน้า
“อ้าว.. นายบอกพวกผมเองว่าอย่าให้ใครมาแตะของเล่นนาย”
“พวกมึงจะทำอะไร ทำไมไม่มาถามกูก่อน! ไอ้ควาย มีสมองกันบ้างไหม?” นับครั้งได้ที่คนสุภาพร้ายกาจอย่างเมธพนธ์จะขึ้นกูมึง ลูกน้องสามคนโดนตบกบาลเรียงตัว ตามด้วยลูกถีบสุดจุกล้มลงไปกองกับพื้น ส่งเสียงครวญครางไปตาม ๆ กัน
เป็นที่รู้ว่านายหัวแต่เก่าก่อนเคยอยู่โรงโขน กระบี่กระบอง เขาก็ต้องเป็นวิชาป้องกันตัว ถึงไม่ค่อยจะได้ลงมือกันบ่อย ๆ แต่ถ้าได้โมโหแล้วล่ะก็ มือหนักตีนหนัก!
“อย่าสะเออะหาเรื่องให้กูอีก แค่นี้กูก็ปวดกบาลจะตายห่า!” ฝ่ามือหนาง้างขึ้นกลางอากาศเตรียมสาดโทสะอีกรอบ ลูกน้องคนสนิทเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาพอดี
วิทยาไปให้ปากคำกับตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวก่อเรื่อง กลุ่มนักเลงที่เจตนาไปสั่งสอนคุณหมอ แต่ดันถูกหมอหมาซ้อมเสียยับเยินสภาพดูไม่ได้ ไม่พอยังไปทำกร่างร้านเหล้าในเมืองควักปืนยิงเปรี้ยงปร้างเพื่อการแก้แค้นส่วนตัว
เจ้าของร้านอาหารกึ่งผับอย่างนายชินดนัยต้องเดือดร้อนและก็เอาเรื่องทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“นายหัว... พวกไอ้เปรี้ยวไปยิงเพื่อนนังตัวแสบ นายจะเอาไงครับ?”
“ช่างหัวแม่ง!” เสียงตวาดลั่นในความหมายว่าตัดหางปล่อยวัด เด็กวัยรุ่นแถวนี้เคยมาของานทำ เขาก็ให้ช่วยดูแลฟาร์มให้เงินไปใช้เพราะสงสาร
ตาคมสาดโทสะผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่จากห้องทำงานของเขาเอง วิทยาพยักหน้าบอกลูกน้องในสภาพสะบักสะบอมก็แบกหามกันออกจากห้อง
“คือนายจะไม่เอาพวกมันแล้วใช่ไหม?”
“เออ... จะให้เก็บไว้ทำซากอ้อยอะไรล่ะ ไอ้วิทย์ ถ้าพวกมันซัดทอดมาเรียกทนาย... ถ้ามันจะมาของานทำอีก โทรเรียกอเล็กซ์มาจัดการ ไม่ก็เรียกตำรวจละกัน” ตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม ร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำกระแทกเท้าปึงปังไปนั่งลงบนเก้าอี้โซฟา มือคว้าแก้วทรงสวยขยับไปมากลิ้งน้ำสีแดงสดให้มันไหลวน ฉับพลันกับที่เสียงหวาน ๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งผลุบเข้ามาในหัว
ไม่มีเหตุผลอะไรมาก...
ใครจะไปคิดว่ายัยเด็กกะโปกจะโตมาสวยขนาดนี้!
เมธพนธ์ยกยิ้มเบิกบาน ทอดสายตามองทิวทัศน์ขุนเขาที่มีลมเย็นสบายพัดผ่านเข้ามาในห้องจากช่องลมเล็ก ๆ ที่เขาจะเปิดมันทุกเช้าเพื่อรับโอโซนบริสุทธิ์ ลูกน้องคนสนิทมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ โซฟา
“นายหัว... ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
“ไม่นี่ สบายดีมากๆ”
“ผมจำได้นะว่านายบอกไม่สนตำรวจ... แล้วนายเพิ่งจะทุบพวกมันเรียงตัว นายยิ้มอะไร?” วิทยาเคยเป็นคนฉลาดรู้ใจนายไปเสียทุกอย่างกลับไม่เข้าใจ หนุ่มวัยสี่สิบเอี้ยวคอมองหาลูกน้องหน้าระรื่น
“ถ้าแกว่างมานั่งจับผิดฉันมากนะไอ้วิทย์ ไปโทรตามอเล็กซ์ให้กลับมาจากกาสิโน ฉันมีงานให้มันทำ”
หนุ่มอิตาลีวัยสี่สิบคนสนิทอีกคนเป็นทั้งลูกน้องและบางทีก็เป็นเพื่อนทางธุรกิจ ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันตั้งแต่ตัวเขาหัดเล่นไพ่ใหม่ ๆ ถ้าหากว่าไม่มีงานสำคัญอะไร อเล็กซ์จะอยู่กาสิโนในปอยเปตตลอด ไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลับมาเมืองไทยตอนนี้เลย
“ใครจะทำงานที่นู่นล่ะครับ?”
“ฉันเคลียร์กับหุ้นส่วนเรียบร้อย ไม่มีธุระอะไรมาก ฉันจะให้มันมาช่วยงานตรงนี้สักสองสามเดือน”
“ทำอะไรครับ?”
ชายหนุ่มพูดกับลูกน้องอย่างใจเย็นกว่าทุกวัน “ทำงานทุกอย่างที่แกทำ งานฟาร์มเผื่อว่ามันจะสนใจลงหุ้นในไร่องุ่นนี้ด้วยกันกับฉัน ส่วนแก... ตามขณิกาให้ฉันอย่างเดียว”
“ครับนาย... ท่าทางนายจะแค้นไอ้พิภพมาก ผมจะจัดการงานให้ดี ไม่มีผิดพลาด” นั่นคือสิ่งที่วิทยาเข้าใจด้วยว่าเขาต้องให้ความใส่ใจกว่าเดิม จึงต้องทำงานอย่างเดียวเป็นงานหลัก
“ขอบใจนะ... แกอยากได้อะไร บอกฉันละกัน แกเป็นเหมือนน้องชายฉันอีกคนนะ วิทยา”
คำขอบคุณไม่เคยหลุดจากปากเมธพนธ์ที่สั่งงานและให้เงินเดือนสูงลิบเป็นการตอบแทน ทว่าตลอดสิบปีที่ผ่านมาชายหนุ่มตรงหน้าเขาไม่ได้ทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว
วิทยาถึงกับทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างตื้นตัน ดวงตาสีดำสนิทเบิกกว้างด้วยความตกใจเท่า ๆ กัน “นาย... ไปหาหมอนะ... ผมขอ ผมเป็นห่วง”
“ห่วงอะไร?”
“นายเหมือน... โดนผีเข้า ไม่ใช่นายหัว นายเป็นใคร?”
“กูนี่แหละไอ้เมธพนธ์” น้ำเสียงดุดันแข็งกร้าวคลายความกังวลใจของลูกน้องคนสนิท ก่อนที่เขาจะต้องตกตะลึงอีกครั้ง
เมื่อร่างสูงลุกจากเก้าอี้ไป เปล่งเสียงออกมาจากลำคอเป็นทำนองไพเราะ ร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี คงจะแอบฝึกลูกคอเวลาอยู่คนเดียวเป็นประจำ วิทยาเดินตามนาย ด้วยความคิดว่าเจ้าตัวอาจต้องการการบริการพิเศษ
“เอ่อ... ผมให้แม่บ้านมารอทำความสะอาด ให้เข้ามาเลยไหม?”
“ไม่ต้องตามใครมา ไม่มีอารมณ์” ในชุดคลุมอาบน้ำ ผมเปียกกระเซิงอยู่น้อยๆ เขานั้นเพิ่งตื่นนอนและก็อยากนั่งจิบไวน์ก่อนแต่งตัวไปทำงาน ส่งยิ้มกว้างเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ให้ลูกน้อง ยกมือขึ้นตบบ่า
“แกไปส่งดอกไม้ไปให้คุณพายด้วยทุกวัน ไปจัดการเอง อย่าให้คุณเกศทำ”
เลขาฯ สุดร้อนแรงบริการเรื่องอย่างว่าให้เขาอยู่เป็นประจำ กิจกรรมเข้าจังหวะบนเตียงนั้นหล่อนเป็นที่หนึ่งเสมอ เขากลับเบื่อหน่ายไปเสียอย่างนั้น
สายตาและสมองของเขาหยุดอยู่ที่คนคนเดียว และดูเหมือนว่าเรื่องเล็ก ๆ ของหญิงสาวกลายเป็นเรื่องใหญ่ของเขาในตอนนี้
ขณิกาไม่ได้ปฏิเสธเขา ไม่มีท่าทีรังเกียจแม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขาเป็นใคร เธอหัวเราะ ยิ้มเหมือนที่เขาเห็นในรูปถ่ายนั่น วันแรกพบสบตาได้ยืนเคียงใกล้กันเขายังจำได้ว่าหน้าตาอึ้ง ๆ นั่นตลกแค่ไหน
บางทีเธออาจจะเป็น ‘ของใหม่’ เขาถึงได้ตื่นเต้น ตื่นตัวจนอยากจะจับแม่สาวหน้าใสมากดขี่บนเตียง!
“เวลามีสาวใหม่ก็อารมณ์ดีนะครับ แต่ไม่เคยอารมณ์ดีเท่านี้... คุณพายทำอะไรให้นะ ผมล่ะสงสัยจริง ๆ” วิทยาพูดขึ้นมาเพราะว่ายืนมองอยู่อย่างสงสัย ก่อนจะถูกไล่อีกครั้ง
“จะไปทำงาน ไปไหนก็ไปเหอะ”
ได้ยินเสียงปิดประตูจากคนที่เดินไปไว ๆ ร่างสูงคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปชำระล้างร่างกายให้จิตใจเย็นลง ค่อยหยิบเชิ้ตสีดำสนิทมาสวมในชุดพร้อมไปทำงานมาดผู้ดี ขยุ้มผมให้เป็นทรงยุ่งเหยิงหน้ากระจกบานใหญ่ ยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ
คงน่าจะถูกใจติ่งเกาหลี... คอยดูเถอะ พี่ยักษ์จะไปหาน้องพายทุกวัน!
ความคิดเป็นสุขหยุดลงเมื่อก้าวขาออกจากห้องน้ำแล้วพบว่ามีบางคนยืนอยู่ จะเป็นฝีมือใครถ้าไม่ใช่วิทยา...
“คุณเมฆ.. เกศเอาเอกสารมาให้ค่ะ”
สายตาเย้ายวนของหญิงสาวไม่เคยเก็บซ่อนความปรารถนาไว้ได้สักครั้ง เมธพนธ์แน่ใจได้ว่าไม่น่าจะใช่เรื่องเอกสาร ขณะเจ้าของร่างบางในมินิเดรสตัวจิ๋วแฝงความเรียบร้อยเวลางานไว้ในความยาวประเข่า ปลดกระดุมเสื้อสูทที่คลุมทับอยู่ออกวางไว้บนโต๊ะ เผยให้เห็นหน้าอกอวบอัดคับแน่นอยู่ในเสื้อผ่าอกลึก
ปรกติเขาจะเรียกหล่อนมาอยู่อาทิตย์ละสองถึงสามครั้ง ตลอดเดือนมานี้งานยุ่งเสียจนไม่ได้พาใครมานอนเล่น
ก็ไม่เป็นไร...
คนสนิทกันมักรู้ว่านายหัวไร่องุ่นแท้จริงแล้วเป็นผู้ชายใจดี ใจอ่อนให้ลูกน้องอยู่เสมอโดยเฉพาะสาว ๆ เขาคงจะยอมทำเรื่องสนุก ๆ กับหล่อนอีกสักวัน
เอกสารบนโต๊ะถูกหยิบขึ้นมาดูครั้งหนึ่ง เขาตั้งใจว่าจะอ่านให้ละเอียดอีกที มือคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาเปิดดู...