สนามบินซางงี
ไม่รู้ว่าบุญเก่ายังมี หรือเพราะโชคเข้าข้างอยู่บ้าง ในที่สุดเธอก็ได้ตั๋วกลับประเทศไทย ด้วยความช่วยเหลือจากประชาสัมพันธ์ของทางสนามบิน ช่วยติดต่อกับที่ทำงานของเธอให้ ซึ่งแม้จะยังไม่ได้ทำงานครบเดือน แต่เมื่อคิดค่าแรงจากจำนวนวันทำงานแล้ว ก็ได้เงินพอสมควร ครั้นได้พูดคุยกัน เจ้าของร้านค่อนข้างตกใจและดีใจ แต่เธอก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดมากนัก ก่อนอีกฝ่ายจะรีบซื้อตั๋วเครื่องบินขากลับ ไฟลต์ที่เร็วที่สุดให้กับเธอ เป็นไฟลต์สุดท้ายของวันด้วย และเวลามันก็เฉียดฉิวมากๆ ทุกอย่างรวบรัดไปหมด
กว่าจะวิ่งมาถึงสนามบิน... กว่าจะติดต่อเรื่องซื้อตั๋วออนไลน์ เธอก็มีเวลาเหลือเพียงห้าสิบนาทีในการเช็กอิน และต้องรีบวิ่งไปเข้าเกตเพื่อขึ้นเครื่องให้ทัน
สนามบินซางงีได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคงหนีไม่พ้นแมกเน็ตใหม่ล่าสุดอย่าง จีเวลซางงี ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่ผสมผสานระหว่างสวนสาธารณะและห้างสรรพสินค้า ดูแปลกใหม่แต่ลงตัว อยู่ติดกับสนามบิน แต่เธอไม่มีโอกาสได้ชมความงดงามตระการตานั้น เพราะเมืองสวรรค์ที่ใครๆ ก็กล่าวขวัญ สำหรับเธอแล้ว มันคือนรก...
เป็นนรกบนดินอย่างแท้จริง...
เครื่องออกเวลาเที่ยงคืนยี่สิบนาที แม้ไม่ได้เป็นเที่ยวบินตรง แต่ต้องไปจอดเปลี่ยนเครื่องที่ฟิลิปปินส์อีกทอด แต่ก็ยังพอทำให้อุ่นใจ ว่าในที่สุดเธอก็หาทางกลับบ้านได้...
ภาพแสงสีของเกาะสิงคโปร์ขณะที่เครื่องบินโดยสารลอยอยู่บนฟากฟ้า เจิดจรัสยิ่งนัก ท้องถนน อาคารบ้านเรือนที่กำลังไกลออกไป ประดับประดาด้วยดวงไฟหลากหลาย
ยิ่งเธออยู่สูง... เบื้องล่างก็มองดูประหนึ่งทะเลดาว หญิงสาวละสายตาจากหน้าต่างแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตาลง... เผยรอยยิ้มแรก แม้ไม่ได้แสดงความสุขอย่างเต็มใบหน้า แต่ก็อุ่นอิ่มในใจเหลือเกิน...
เมื่อเครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อะควิโน่ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘สนามบินมะนิลา’ ก็เกือบตีสี่ของอีกวัน เธอต้องรออีกห้าชั่วโมงเพื่อต่อเครื่องกลับบ้านเกิด เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน... สำหรับคนที่ต้องใจจดใจจ่อ รออยู่หน้าจอแสดงตารางเที่ยวบิน ว่าเมื่อไหร่เคาน์เตอร์เช็กอินจะเปิดทำการ ทั้งต้องคอยหวาดกลัวว่าคนของการันต์จะตามหาเจอหรือไม่ เพราะเขาค่อนข้างกว้างขวาง มีสาขาของบริษัทอยู่ทั่วภูมิภาค
เก้าโมงสามสิบห้านาที... เวลาของอิสรภาพที่เธอรอคอยก็มาถึง เมื่อเครื่องบินโดยสารของสายการบินฟิลิปปินส์ทะยานขึ้นสู่ฟ้า อีกสามชั่วโมงกว่าๆ เธอก็ได้คืนถิ่นถึงแผ่นดินแม่แล้ว วาปีรู้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลที่ท่วมท้นอยู่ในใจ
“คุณพ่อ คุณแม่... พี่โพธิ์ วาวได้กลับบ้านแล้วนะคะ” น้ำตาไม่วายรินไหลเมื่อนึกถึงครอบครัวอันเป็นที่ยึดเหนี่ยว แม้จะไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แม้ครอบครัวไม่ได้มีโอกาสอยู่กันพร้อมหน้า แต่ประเทศไทย คือบ้านเกิดเมืองนอน คือจิตวิญญาณที่ทำให้เธอรู้สึกมีความกล้าในการใช้ชีวิตมากขึ้น