บทที่2(จบ)

1383 คำ
ยามเรียกหาหญิงสาวมารับใช้เป็นครั้งแรกของเจ้าชายหนุ่ม ตำหนักของพระองค์เองจึงเปิดรับให้นางห้ามจากฝ่ายในเข้าถวายงานแทนการเสด็จไปหายังฝ่ายใน เพราะนางห้ามยังไม่มีตำหนักส่วนตัว และตำหนักพิเศษก็ยังไม่ได้จัดเตรียมไว้สำหรับบุรุษอื่นนอกจากเจ้าผู้ครองรัฐ ห้องบรรทมของมกุฎราชกุมารจึงเนรมิตขึ้นให้เสมือนวิมานในพริบตา กลิ่นกำยานหอมเพื่อสร้างบรรยากาศ เทียนไขนำมาจุดแทนโคมกลางห้องยามต้องการเพียงแสงสลัว ภูษาลาดพระที่จากสีที่ทรงโปรดปรับเปลี่ยนเป็นสีขาวบริสุทธิ์เพื่อผลพิสูจน์ในเวลาต่อมา มัยมูนะห์ถูกนำไปชำระร่างกายเพื่อความพร้อมก่อนการถวายงาน อาจจะเป็นการเร่งด่วนไปเสียสักหน่อยเพราะไม่มีใครทราบล่วงหน้า เหมือนการรับนางห้ามของเชื้อพระวงศ์ฝ่ายชายองค์ก่อนๆ ที่ให้นางกำนัลได้มีเวลาประทินผิวหญิงผู้โชคดีเสียเป็นเดือน แต่สำหรับมัยมูนะย์นั้นมีรับสั่งในตอนค่ำ ล่วงดึกจึงขัดสีฉวีวรรณเสร็จ ชุดแพรบางเบาถูกนำมาสวมบนเรือนร่างสะพรั่งสมสัดส่วนของสาววัยสิบเจ็ด ซึ่งไม่อาจปกปิดเรือนกายด้านในได้ ชุดคลุมสีแดงถูกนำมาคลุมทับอีกชั้นก่อนจะพานางเข้าถวายงาน เมื่อมัยมูนะห์ไปยังห้องที่จัดไว้นั้น ปรากฏว่าเจ้าชายกาเบรียนบรรทมรออยู่ก่อนแล้วบนแท่นหลังม่านบาง หญิงสาวยิ้มกว้างภายใต้ผ้าคลุม วันที่รอคอยถึงไวเกินคาด เธอคาดว่าวัยสิบหกของกาเบรียนคงยังไม่ประสา แต่รับสั่งให้เธอเข้าถวายงานแบบนี้ก็คงมีอารมณ์บุรุษแล้ว ส่วนตัวเธอเองนั้น หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันอันเป็นธิดาของชีคอบดุลรอชีดนั้นออกเรือนไปเสียก็มาก ทั้งบางคนที่มีแม่ดูแลยังเสนอให้ลูกสาวเข้ารับใช้ถวายงานแต่เจ้าชายกาเบรียนไม่รับไว้พิจารณา น่าแปลกที่เรียกหาเธอ แต่มันก็ดีไม่ใช่หรือ ก็สิ่งนี้คือสิ่งที่เธอปรารถนาและต้องการมาตลอด จะหาชายใดรูปงามและจะทรงอำนาจในอนาคตเกินกาเบรียนเป็นไม่มี มัยมูนะห์เดินช้าๆ ไปที่เตียงเมื่อร่างที่บรรทมอยู่ไม่ขานเรียก หญิงสาวเข้าไปจนชิดม่านบาง ยื่นหน้าเข้าไปมองอย่างสงสัยเพราะเจ้าชายหนุ่มน้อยยังไม่กระดิกกระเดี้ยองค์ ภายใต้ผ้าบางที่กางกั้น เจ้าชายหนุ่มน้อยยังหลับพระเนตรพริ้ม แผงพระอุระสะท้อนสม่ำเสมออันแสดงถึงการบรรทมหลับ ไม่ใช่หลับพระเนตรพักสายตาเช่นที่ควรกระทำ เสียงกระแอมเบาๆ ออกมาจากลำคอมัยมูนะห์หวังปลุกบรรทมและก็ได้ผล เจ้าชายหนุ่มน้อยลืมพระเนตรขึ้น เมื่อเห็นเงาชิดม่านบางก็แย้มพระโอษฐ์ “มัยมูนะห์หรือ เข้ามาสิ” ทรงขยับพระองค์เข้าไปด้านใน เว้นที่ให้เธอนอนแล้วทำในสิ่งที่มัยมูนะห์แทบจะกรีดร้อง ทรงตะแคงหันพระขนองให้ สอดประสานท่อนพระกรไว้หว่างพระอุระแล้วหลับสนิทอีกครั้ง เรียกฉันมาทำไมนี่? มัยมูนะห์อยากกระชากพระพาหาให้หันมา เพื่อจะได้เห็นว่าเธอนั้นอยู่ในชุดวาบหวามพร้อมสำหรับการถวายงานแล้ว แต่มันคงทำได้แค่คิด มัยมูนะห์ลองเรียกเบาๆ อีกครั้ง “กาเบรียน” ไม่มีเสียงตอบให้เธอได้ใจชื้นว่าไม่ได้ถูกทิ้งให้นอนเฉยๆ ในวันที่เรียกเข้าถวายงานครั้งแรก จะบ้าตาย แล้วพรุ่งนี้จะทำยัง ใครเข้ามาเก็บห้องแล้วหาร่องรอยไม่เจอ เธอต้องถูกประณามว่าไม่เป็นที่พอใจ เอาละ เมื่อไม่ทำอะไร ฉันทำเอง มัยมูนะห์มองเจ้าชายหนุ่มที่เหมือนหลับเป็นตายอย่างตัดใจ ก่อนจะถอดผ้าคลุมสีแดงลงกองข้างเตียง แล้วทึ้งชุดแพรบางเบาให้มีรอยฉีกขาดก่อนจะทิ้งลงข้างๆ ผ้าคลุม บัดนี้ร่างกายหอมระรวยเปล่าเปลือยนั่งอยู่ข้างๆ องค์ที่บรรทมหลับ แม้อยากให้ชายหนุ่มลุกขึ้นมามองด้วยสายตาชื่นชมแต่ทำไม่ได้ ดึกสงัดเจ้าชายหนุ่มคงง่วงเสียจริงๆ ปลุกมาจะทำอะไรไหว แล้วประสาหรือยังก็ไม่รู้ มัยมูนะห์กัดริมฝีปากด้านในจนแตก รับรู้ถึงรสปร่าของโลหิต แล้วบ้วนลงส่วนกลาง ของที่นอนซีกที่เจ้าชายกาเบรียนเว้นไว้ให้เธอ ก่อนจะใช้มือเกลี่ยให้เป็นวง แค่นี้ก็เรียบร้อย มัยมูนะห์ทิ้งร่างเปล่าเปลือยลงนอนตวัดแขนไปโอบกอดบั้นพระองค์ไว้ ซุกหน้ากับพระขนองไม่กว้างนักยามยังเป็นเจ้าชายหนุ่มน้อยเพื่อซึมซับไออุ่น จากชายที่นับจากคืนนี้ใครๆ จะเข้าใจว่าเป็นสามีของเธอกันถ้วนหน้า แม้ความจริงจะรับรู้เพียงสองคน แต่เชื่อแน่ว่าไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาสอดรู้สอดเห็นหรือถามไถ่ หลักฐานที่เธอสร้างขึ้นนั้นปิดปากพวกมันได้สนิท ไม่เว้นแม้กระทั่งพระนมจอมจุ้นจ้านของเจ้าชายกาเบรียน เจ้าของร่างที่มัยมูนะห์โอบกอดกำลังพระองค์แข็งเพราะไม่ได้หลับ ทั้งพระขนองในภูษาทรงบางๆ รับรู้ถึงไออุ่นและเนื้อหยุ่นที่เบียดชิด จริงอยู่แม้อารมณ์บุรุษนั้นจะเกิดขึ้นบ้างแต่ไม่เคยได้ปลดเปลื้อง ไม่ประสีประสาและกลัวที่จะเริ่มต้น จึงทำได้แต่ข่มพระทัย นับแพะนับแกะเพื่อให้หลับและคลายความตื่นตัวของร่างกายที่ทรงร้อนผ่าว รับรู้ถึงการสูบฉีดรุนแรงของพระโลหิตในวรกาย ทำไมต้องนึกถึงแต่แพะนม แกะนม เต้านมใหญ่เบ่งบวมห้อยย้อยแทบติดดิน ไยไม่นึกถึงแพะเนื้อ แกะเนื้อ หรือแพะแกะภูเขาที่ผอมโซมีแต่หนังหุ้มกระดูกกันเล่า...เฮ้อ! เมื่อหลับไปตื่นใหญ่ เสียงด้านนอกก็ดังเป็นการปลุกบรรทม และเตือนให้นางห้ามที่เข้ามาถวายงานนั้นกลับออกมา เพราะเป็นกฎไม่ให้นางห้ามทั้งหลายนอนร่วมแท่น และร่วมห้องบรรทมถึงเช้า เจ้าชายหนุ่มน้อยลุกขึ้นนั่งงัวเงียเพราะกว่าจะนับแพะนับแกะจนหลับลงได้นั้นใช้เวลานาน ทั้งร่างเปล่าเปลือยเนื้อนุ่มนิ่มที่เบียดอยู่ด้านหลังก็อยู่ไม่นิ่ง ทำให้พระอารมณ์กระเจิดกระเจิงนับเลขผิดไปหลายช่วงกว่าจะบรรทมหลับได้ ครั้นมัยมูนะห์ลุกขึ้นนั่ง เรือนร่างเปล่าเปลือยนั้นอวดต่อสายพระเนตรเจ้าชายกาเบรียนชัดเจน จนรีบเบือนพระพักตร์หนี แล้วล้มองค์ลงนอนหลับพระเนตรอีกครั้ง “กลับไปได้แล้ว” พระสุรเสียงที่รับสั่งห้วนสั้น เหตุเพราะกำลังหวั่นไหวกับเรือนร่างของอิสตรี อันมีส่วนเว้าส่วนโค้งและโหนกนูน ไร้อาภรณ์ปกปิดของมัยมูนะห์ พานนึกพิโรธโกรธเกรี้ยว ผู้ที่ทำหน้าที่ปลุกบรรทมเตือนให้ส่งนางห้ามกลับไปยังฝ่ายในก่อนจะรุ่งสาง ถ้าไม่ปลุกขึ้นมาก็คงไม่เห็นเต็มๆ ตาแบบนี้ มัยมูนะห์ลอบถอนใจเบาๆ ก่อนก้มลงจุมพิตพระปรางที่แดงระเรื่อขึ้นของพระองค์ที่แสร้งหลับพระเนตร “ฉันรักเธอนะ กาเบรียน” เสียงนางบอกแนบชิดพระปราง ก่อนจะลงจากแท่นบรรทม สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ที่วางเตรียมไว้ ปล่อยชุดที่สวมเข้ามาในห้องไว้ตรงพื้นรอให้ผู้มีหน้าที่มาเก็บกลับไปเอง เมื่อมัยมูนะห์ออกไปจากห้องบรรทมแล้ว เจ้าชายหนุ่มน้อยก็ลืมพระเนตรขึ้น ทอดมองไปทางบานพระทวารด้วยพระเนตรเขินอาย พระหัตถ์ขาวนวลแนบอยู่บนพระปราง ตรงตำแหน่งที่มัยมูนะห์จุมพิตเมื่อครู่ คำรักของหญิงสาวนั้นไม่น่าตื่นเต้นเท่าการเห็นเรือนร่างเปล่าเปลือยใกล้ชิด และจุมพิตที่เต็มไปด้วยความหมายบนพระปรางซึ่งก่ำแดงขึ้นจนร้อนผะผ่าว ขอเวลาอีกนิดนะ มัยมูนะห์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม