ตอนที่ 6 ลงโทษ

1528 คำ
คืนแรกผ่านไปอย่างปลอดภัย นับดาวตื่นนอนแต่เช้าแล้วรีบเข้าไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนที่ม่านหมอกจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน เมื่อคืนเขาไม่ได้ทำอะไรก็จริง แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาจะหน้ามืดขึ้นมาตอนไหนอีก “ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุก” แต่พอออกมาจากห้องน้ำ เสียงของคนที่เธอคิดว่าหลับอยู่ก็ดังขึ้น แถมสีหน้าที่กำลังมองมานั้น ราวกับว่าเธอทำอะไรผิด “ทำไมต้องปลุก ไม่ใช่หน้าที่” นับดาวตอบกลับ แล้วก็เดินเลี่ยงไปหยิบของจำเป็นสำหรับจะไปล่องแก่งวันนี้ “รอด้วย อาบน้ำไม่นาน เดี๋ยวออกไปพร้อมกัน” ม่านหมอกเอ่ยบอกพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว “แล้วทำไมฉันต้องรอนาย คณะเดียวกันก็ไม่ใช่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมอะไรสักอย่าง” “ก็ถ้าเธอไม่รอ ฉันสาบานได้เลยว่า ฉันจะเอาเธอให้ขาสั่นจนเดินออกจากห้องนี้ไม่ได้เลย ลองดูได้นะ อยากอยู่พอดี” นับดาวได้แต่เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น จะเถียงก็เถียงไม่ได้ เพราะดูจากสีหน้าของม่านหมอกตอนนี้ ถ้าเกิดเธอก้าวขาออกจากห้องไปแม้แต่ก้าวเดียว เขาคงทำอย่างที่พูดจริง ๆ แน่ “สิบห้านาที ถ้าเกินกว่านี้ฉันไม่รอ” “เวลาเหลือเฟือ” ม่านหมอกหยิบผ้าขนหนูพาดบนบ่าแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องอาบน้ำ ดีหน่อยที่วันนี้เขาไม่แก้ผ้าต่อหน้าเธอเหมือนเมื่อวาน ผ่านไปแค่สิบนาที ผู้ชายตัวโตก็ออกมา หุ่นล่ำ ๆ ที่สวมเพียงกางเกงขาสั้น ส่วนท่อนบนไร้ซึ่งเสื้อปกปิด จะว่าไปมันก็พาลทำให้สายตาของเธอจ้องไปยังร่างกายของเขาโดยอัตโนมัติ ทุกส่วนในตัวของเขามันดูดีไปเสียหมด จนยากที่จะละสายตา “จ้องขนาดนี้ อยากกินพี่เหรอจ๊ะ” เสียงกวน ๆ เอ่ยออกมาทำให้นับดาวได้สติ ใบหน้าสวยส่ายไปมาเร็ว ๆ เพื่อสลัดความคิดแปลกประหลาดที่แล่นเข้ามาในหัวเมื่อครู่ “แหวะ ไม่เห็นจะน่ากิน” เธอตอบสวนออกไปทันควัน ใบหน้าเชิดขึ้น แต่ก็ยังปรายหางตาไปมองเขาเป็นระยะ “ไม่น่ากิน แต่ก็เคยกินจนถึงเช้ามาแล้วนะ” “นี่นาย เมื่อไหร่จะเลิกพูดถึงเรื่องวันนั้นสักที” ม่านหมอกหัวเราะชอบใจที่แกล้งเธอให้อารมณ์เสียได้สำเร็จ ผ้าขนหนูที่อยู่ในมือยกขึ้นเช็ดผมที่ยังเปียกน้ำ พร้อมกับเดินไปหยิบเสื้อยืดมาสวม “เอาไว้มีครั้งใหม่ให้พูดเมื่อไหร่ ฉันก็จะเลิกพูดเรื่องคืนนั้นเอง” “กวนประสาท” เมื่อเห็นว่าเขาสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นับดาวก็เดินกระทืบเท้าปึงปังนำออกมาข้างนอก และม่านหมอกก็เดินตามหลังไม่ห่าง นักศึกษามารวมตัวกันที่จุดนัดพบครบทุกคน รุ่นพี่ชี้แจงรายละเอียดในการล่องแก่ง จากนั้นก็ปล่อยให้แต่ละกลุ่มไปขึ้นเรือยางที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้รอ ม่านหมอก ม่านเมฆ ขุนเขา นับดาว เทียนไขและลูกพีช นั่งลำเดียวกัน จากจุดสตาร์ท เรือยางล่องไปตามลำน้ำเรื่อย ๆ บางช่วงเชี่ยวกราก บางช่วงสงบนิ่ง สามสาวกรีดร้องเป็นระยะเมื่อเรือยางกระแทกกับผืนน้ำกระเด้งขึ้นลง บางทีก็คล้ายจะจมลงไปใต้น้ำ ส่วนหนุ่ม ๆ ก็ช่วยเจ้าหน้าที่อีกสองคนบังคับเรือกันอย่างแข็งขัน จนในที่สุดก็มาถึงจุดจอดเรือ “หมอกแยกตรงนี้เลยนะเมฆ เหนื่อย อยากกลับห้องละ ข้าวเที่ยง ข้าวเย็น เดี๋ยวหมอกจัดการเอง” ม่านหมอกเอ่ยบอกคู่แฝดตัวเอง แล้วก็หันไปคว้าข้อมือของนับดาวให้เดินตามตัวเองมาด้วย “นี่นาย ฉันยังไม่อยากจะกลับห้องสักหน่อย” “แล้วเธอจะปล่อยให้ฉันอยู่ห้องคนเดียวหรือยังไง” ก่อนที่เธอจะได้ตอบโต้อะไรกลับไปอีก นับดาวก็ถูกลากมาตามทางเดินจนมาถึงห้องพักแล้วเรียบร้อย “นี่ จะลากฉันกลับมาทำไม ฉันยังอยากอยู่เล่นกับพวกรุ่นพี่อยู่เลย” นับดาวถามขึ้น และดูเหมือนคำถามของเธอจะทำให้เขาโมโห “อยากอยู่เล่นกับผู้ชายคนอื่นมากกว่าผัวตัวเองหรือยังไง” สายตาคมตวัดมองเธออย่างคาดคั้น ซึ่งปกติม่านหมอกไม่เคยมองเธอแบบนี้ “บอกกี่ครั้งแล้วว่านายไม่ใช่ผัวฉัน” “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นตอนนี้แหละ” คนตัวเล็กเซถลาเข้ามาแนบชิดกับแผงอกตามแรงดึงของอีกฝ่าย แล้วเขาก็ดันตัวเธอไปติดริมผนังห้อง นัยน์ตาสีน้ำตาลแวววับไล่สำรวจร่างกายของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “นะ นายจะทำอะไร” “สร้างความคุ้นเคยกับเธอไง” ริมฝีปากหนาฉกจูบลงมาบนปากบางเล็กอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ข้อมือเธอทั้งสองข้างถูกเขาตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว ม่านหมอกบดขยี้จูบหนักหน่วงเข้าหา ราวกับว่าต้องการให้ริมฝีปากของเธอละเอียดเป็นผุยผง เขาดูดดึงเบา ๆ สลับกับรุนแรง จนสามารถแทรกเรียวลิ้นเข้ามาข้างในได้ ลิ้นร้อนชื้นปัดป่ายอยู่ข้างในโพรงปากนุ่ม เกี่ยวพันดูดดึงลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจ นับดาวได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงประท้วงอยู่ในลำคอ เขาทำเหมือนต้องการจะให้เธอขาดใจตายเสียให้ได้ “อื้อ” นับดาวส่งเสียงดังขึ้น เมื่ออากาศที่มีอยู่เริ่มจะหมดไป และคราวนี้ ม่านหมอกก็ยอมถอนริมฝีปากออกแต่โดยดี แต่เขายังตรึงแขนเธอเอาไว้กับกำแพงเช่นเดิม “อะไรที่เป็นของฉัน คนอื่นไม่มีสิทธิ์มาแตะต้อง เธอก็เหมือนกัน เป็นของฉันแล้วห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม” คำพูดรวมถึงสีหน้าของเขาจริงจัง ไม่มีคำว่าล้อเล่นอยู่ในนั้นแม้แต่น้อย “ปะ ปล่อยได้แล้ว” “ยังปล่อยไม่ได้ เธอต้องโดนลงโทษก่อน โทษฐานที่กล้าจะไปเล่นกับผู้ชายคนอื่น” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยผ่านใบหน้าที่เรียบเฉย ทำเอาขนอ่อนของเธอลุกชูชันไปหมด หัวใจที่อยู่ภายใต้หน้าอกด้านซ้ายก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ แวบหนึ่งที่เธอเห็นว่าเขาหยักยิ้มมุมปาก คล้ายกำลังพอใจที่เห็นอาการของเธอ “อ๊ะ” นับดาวสะดุ้งวาบ เมื่อฝ่ามือหนาข้างที่ว่างของเขาเริ่มลูบไล้ร่างกายเธอผ่านเนื้อผ้าที่เปียกชื้นแล้วมาหยุดอยู่ตรงเต้าอวบ เขาออกแรงบีบเคล้นจากแผ่วเบาแล้วเริ่มหนักขึ้น “นายทำแบบนี้ไม่ได้นะ” “ชู่ว อย่าดิ้น” และทันทีที่เขาพูดจบ ปากหยักก็กดจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้จูบของเขาราวกับต้องการกระชากวิญญาณเธอออกจากตัวเลยก็ว่าได้ มันหนักหน่วง ร้อนเร่า และเต็มไปด้วยความใคร่กระหาย ฝ่ามือที่บีบขยำอยู่ด้านบนเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดอ่อนไหวที่อยู่กลางกาย เขาเคล้นคลึงลูบไล้อยู่ภายนอก แต่เพียงแค่นั้นก็ทำเอาเธอต้องหลับตาปี๋ ความรู้สึกวาบหวามตีรวนอยู่ในร่างกาย จากที่เอ่ยห้ามก็กลายเป็นร่างกายโอนอ่อนไปกับเขา ม่านหมอกเห็นว่าเธอไม่ดิ้นแล้ว จึงปล่อยแขนของนับดาวให้เป็นอิสระ แล้วเปลี่ยนมารั้งเอวบางให้แนบชิดตัวเขามากขึ้น นับดาวหลังชิดอยู่กับผนังห้อง ปล่อยให้เขาสัมผัสเธอได้ตามใจ เมื่อเห็นแบบนั้น มือที่วนเวียนอยู่แค่ภายนอกก็สอดแทรกเข้าไปใต้กางเกงขาสั้นของเธอทันที “อื้อ...นาย” ความซ่านสยิวกระจายไปทั่วร่าง เมื่อปลายนิ้วของเขาบดบี้ลงบนติ่งเกสร เขาลูบวนเบา ๆ แล้วเร่งจังหวะระรัวเร็วขึ้น ม่านหมอกจ้องมองใบหน้าหวานแดงซ่านก็ยิ่งทำให้ท่อนเนื้อที่แข็งขืนเต็มที่ปวดหนึบไปหมด แต่มันยังไม่ใช่วันนี้ เขาจะทำให้เธอต้องการจนต้องร้องขอ “อ๊ะ...นาย” นับดาวเรียกม่านหมอกอย่างลืมตัว ลมหายใจถูกพ่นออกมาเบา ๆ ไม่รู้ว่าโล่งใจ หรือเธอกำลังเสียดายที่จู่ ๆ เขาก็ดึงมือออก แล้วปล่อยเธอให้อารมณ์ค้างเติ่งอยู่กลางอากาศแบบนี้ “วันนี้ลงโทษแค่นี้ก็พอ” เขาเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้มร้ายกาจที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา “นายแกล้งฉัน” “หืม...แกล้งเหรอ หรือว่าเธออยากจะให้ฉันทำต่อ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก พร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยที่เปลี่ยนเป็นสีแดงจนทั่วใบหน้า “ใครมันจะอยากให้นายทำกัน” นับดาวผลักม่านหมอกให้ออกห่างจากตัวเธอ แล้วรีบหยิบผ้าขนหนูเข้าไปในห้องอาบน้ำทันที /////////////////////////////////////////////////////// อีพี่มันร้ายยยย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม