กว่าสามชั่วโมงหลังจากที่ออกจากปั๊มน้ำมัน รถบัสก็มาจอดยังรีสอร์ทที่ทางรุ่นพี่จองเอาไว้สำหรับพักผ่อนและทำกิจกรรมรับน้อง นักศึกษาทั้งหมดช่วยกันขนของและอุปกรณ์ลงจากรถ เสร็จแล้วก็เอากระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองไปเก็บไว้ยังห้องพัก
“เทียน ทำไมที่พักของเรามันดูต่างจากของคนอื่นจัง” นับดาวเอ่ยถาม เมื่อสำรวจที่พักของตัวเองกับเทียนไขที่อยู่ด้านในสุดของรีสอร์ทแห่งนี้ และเป็นบ้านพักสองชั้นแยกออกมาจากส่วนอื่นอีกที ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากทีเดียว
“ผู้ชายสองคนนั้น ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ” และนั่นก็คือคำตอบของเทียนไข ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจความหมายเท่าไหร่ แล้วนับดาวก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะตอนนี้กำลังตื่นเต้นกับบรรยากาศรอบ ๆ รีสอร์ทมากกว่า
สองสาวเอากระเป๋าเสื้อผ้าเข้ามาเก็บไว้ในห้องเดียวกัน แต่สักพักก็มีผู้ชายตัวโตหน้ามึนคนเดิมเดินเข้ามา
“เทียน เทียนเอากระเป๋าไปไว้ห้องนู้นนะ” ม่านหมอกที่เพิ่งเข้ามาเอ่ยบอกกับเทียนไขที่กำลังจะเอาเสื้อผ้าของตัวเองออกจากกระเป๋า
“เอาน่าเทียน พี่มีเรื่องจะคุยกับเพื่อนเทียน” และนั่นก็คือประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยิน ก่อนที่เทียนไขจะรีบเก็บกระเป๋าตัวเอง แม้ว่านับดาวจะส่ายหัวขอร้องว่าอย่าออกไป แต่เทียนไขก็หันกลับมาบอกเพียงแค่ว่า
“เทียนขอโทษนะนับ แต่ไม่ต้องกลัวนะ คุณหมอกใจดี”
“ใจดีกับผีน่ะสิ” นับดาวตอบกลับออกไปทันที และแน่นอนว่าเทียนไขเองก็ไม่ได้หันกลับหลังมามองอีกเลย
เทียนไขออกไปแล้ว ม่านหมอกก็โยนเป้ที่ใส่เสื้อผ้าของตัวเองลงบนโซฟาที่อยู่ในห้อง แล้วเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงขนาดควีนไซส์ที่มีอยู่เพียงเตียงเดียว
“นี่นายจะมานอนห้องนี้ไม่ได้นะ ทำไมไม่ไปนอนกับพี่เมฆฝาแฝดนายล่ะ” เสียงเล็กบ่นขึ้นไม่หยุดพร้อมกับพยายามดึงเขาให้ลุกขึ้นจากที่นอน
“ทีกับเมฆเรียกพี่ ที่กับผัวตัวเองเรียกนาย ไม่ห่างเหินไปหน่อยหรือไง” ม่านหมอกไม่ตอบคำถามของเธอ และไม่ยอมขยับตัวไปไหน แถมยังพูดจาทำท่าน้อยใจใส่อีกต่างหาก
“ฉันไม่เคยยอมรับนายเป็นผัวสักครั้ง มีแต่นายที่พูดเองเออเองอยู่คนเดียว” เมื่อพยายามดึงให้เขาลุกจากที่นอนจนเหนื่อย แต่ม่านหมอกก็ไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว นับดาวจึงทำให้เพียงยืนเท้าสะเอวมองคนตัวโตอยู่ข้างเตียง
“ไม่ยอมรับเหรอ หรือต้องทำอีกสักรอบเธอถึงจะยอม” ไม่ทันได้ระวังตัว จบคำพูดของเขา มือหนาก็คว้าเอาแขนเธอแล้วดึงลงไปให้นอนลงบนเตียง แล้วม่านหมอกก็พลิกตัวเองมาคร่อมเธอเอาไว้
“จะ จะทำอะไร อย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ นะ” นับดาวดิ้นไปมา ในขณะที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกตรึงอยู่บนที่นอน
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของทั้งสองคนแทบจะประกบกัน นับดาวได้แต่หลับตาปี๋ไม่กล้าสบตา และไม่กล้ามองว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ชอบฝืนใจใคร แต่ฉันจะทำทุกอย่างให้เธอยอม ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม” และทันทีที่พูดจบ ริมฝีปากของเขาก็ประกบลงบนปากเล็กพร้อมกับดูดดึงเบา ๆ
“มัดจำไว้ก่อน เอาไว้เธอยอมเมื่อไหร่ฉันจะจูบเธอทั้งตัว” ม่านหมอกพูดเพียงแค่นั้นก็ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
นับดาวที่ยังนอนอยู่บนเตียงได้แต่ลืมตามองฝ้าเพดาน มือหนึ่งกุมอยู่ที่หน้าอกด้านซ้ายตำแหน่งหัวใจ ที่ตอนนี้เต้นแรงจนรู้สึกเหมือนจะทะลุออกมานอกเสื้อ อีกมือหนึ่งก็ลูบหน้าตัวเองเพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นไข้ เพราะความรู้สึกตอนนี้ ราวกับว่าอุณหภูมิในร่างกายมันสูงขึ้น
ในเมื่อไม่มีทางเลือก ก็คงต้องยอมนอนร่วมห้องกับผู้ชายคนนี้ไปก่อน และต้องหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้
เก็บของเสร็จเรียบร้อย พวกรุ่นพี่ก็เรียกรวมตัวเพื่ออธิบายเกี่ยวกับกิจกรรมล่องแก่งในวันพรุ่งนี้ และให้จับกลุ่มที่นั่งเรือยางด้วยกัน และแน่นอนว่ากลุ่มของนับดาวจะต้องมีผู้ชายหน้ามึนจากคณะวิศวฯ รวมอยู่ด้วย
“หิวข้าวแล้ว ไปกินข้าวกัน” และทันทีที่รุ่นพี่แจ้งตารางกิจกรรมเสร็จ ม่านหมอกก็รีบตรงดิ่งมาหานับดาวที่กำลังเดินอยู่กับเทียนไข
“หิวก็ไปกินสิ ขาก็ไม่ได้ติดกันสักหน่อย” นับดาวตอบกลับแล้วก็คว้าเอาข้อมือของเพื่อนเพื่อจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ม่านหมอกก็ดักเอาไว้
“ไม่เอา อยากจะไปกินด้วยกัน น่า นะ ถ้าเธอไม่อยากเป็นจุดสนใจไปมากกว่านี้ ฉันว่ายอมไปดี ๆ จะดีกว่านะ”
น้ำเสียงของเขานั้นฟังดูอ่อนหวานกว่าปกติ แพขนตากะพริบปริบ ๆ แต่แววตากลับฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“เอ่อ เทียนว่า เทียนไปทางนู้นก่อนดีกว่านะคะคุณหมอก ดูท่าทางคุณหมอกกับนับน่าจะมีเรื่องคุยกัน”
เทียนไขที่มองดูสองคนเถียงกันอยู่นาน เห็นท่าไม่ดีเลยขอปลีกตัวออกมาก่อน ปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันตามลำพังน่าจะดีกว่า
“เทียนไปแล้ว ตอนนี้ไปกินข้าวด้วยกันได้หรือยัง” ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว นับดาวจำยอมเดินตามเขามาบริเวณสำหรับรับประทานอาหารของรีสอร์ทท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ที่มองมา
และแน่นอนว่าเมื่อคนพวกนั้นเห็นม่านหมอก ก็รีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะชักปืนออกมายิงกลางวงกินข้าวอย่างไรอย่างนั้น
/////
ช่วงกลางคืน กิจกรรมรอบกอบไฟก็เริ่มขึ้น แต่นับดาวเป็นคนไม่ชอบกิจกรรมสังสรรค์พวกนี้เท่าไหร่นัก เมื่อเห็นว่าไม่ได้มีการบังคับให้เข้าร่วม เธอจึงเลือกที่จะกลับที่พัก
และแน่นอนว่า ทุก ๆ ฝีก้าวที่กำลังเดินอยู่ มีผู้ชายตัวโตตามหลังอยู่ไม่ห่าง เธอได้แต่เดินไปพลาง ถอนหายใจไปพลาง ตั้งแต่รู้จักเขามาจนถึงวันนี้ ชีวิตดูจะวุ่นวายไม่เคยจบสิ้น
ทันทีที่ประตูห้องปิดลง นับดาวก็หันหลังกลับมายืนกอดอกจ้องหน้าม่านหมอกเขม็ง
“ถ้านายอยากจะนอนห้องนี้ เราต้องทำข้อตกลงกันก่อน” เธอเอ่ยบอกกับคนที่อยู่ตรงหน้า
“ข้อตกลงเหรอ ได้สิ ถ้าฉันรับได้ ฉันก็ตกลง ถ้ารับไม่ได้ฉันก็จะปฏิเสธ” ม่านหมอกตอบกลับแล้วก็เดินไปเปิดกระเป๋าเป้ตัวเองเพื่อเตรียมชุดไปอาบน้ำ
“ข้อตกลงง่าย ๆ ตลอดระยะเวลาที่เราต้องค้างที่นี่ นายต้องนอนโซฟา ห้ามนอนบนเตียงกับฉัน และห้ามลวนลามฉันด้วย เข้าใจหรือเปล่า” เมื่อได้ยินรายละเอียดข้อตกลง เขาก็หันกลับมามองหน้าเธอ พร้อมกับหยักยิ้มมุมปาก
“เข้าใจ แต่ไม่รับข้อตกลง เพราะฉันจะนอนบนเตียงกับเธอ แล้วก็เรื่องลวนลาม อันนี้แล้วแต่อารมณ์ ถ้ามันแข็งขึ้นมาก็ช่วยไม่ได้”
สายตาคมหลุบลงต่ำไปยังกลางกายของตัวเองที่มีกางเกงยีนส์ขายาวห่อหุ้มท่อนล่างเอาไว้ เพื่อสื่อความหมายให้เธอรู้ว่า ส่วนแข็งที่ว่านั้นคือส่วนไหน
“ไอ้คนลามก”
“ไม่เถียง ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ” เขาลอยหน้าลอยตารับคำด่าอย่างกับทองไม่รู้ร้อน แถมยังเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ ประทับจมูกลงบนแก้มเนียนใสโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวอีกต่างหาก
นับดาวได้แต่เบิกตาโตอ้าปากค้างกับสิ่งที่เขาทำ แต่ไม่เพียงแค่นั้น เพราะมันมีสิ่งที่ทำให้เธอตาโตยิ่งกว่าเดิม
“นะ นายจะทำอะไร ถอดเสื้อผ้าทำไม” เสียงหวานถามออกมาเลิ่กลั่ก เมื่อม่านหมอกกำลังถอดเสื้อออกจากตัว และทำท่าจะปลดกางเกงเป็นลำดับต่อมา
“แก้ผ้าไง หรือว่าเธอจะให้ฉันอาบน้ำทั้งชุดแบบนี้เหรอ”
“แล้วทำไมนายไม่ไปถอดในห้องน้ำเล่า”
นับดาวรีบหันหลังกลับ สูดหายใจเข้าเต็มปอดรัว ๆ ผิวแก้มสาวแดงเรื่อเมื่อได้เห็นหุ่นที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามชัด ๆ อีกครั้ง เห็นทีไรก็รู้สึกปั่นป่วนในร่างกายทุกที
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็น”
“ก็ฉันบอกนายแล้วไงว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” เธอยังคงยืนเถียงกับเขาทั้งที่ยังหันหลังให้ ใครมันจะกล้าหันกลับไปมอง ขืนเขาเปลือยกายล่อนจ้อน ตรงกลางชี้โด่ชี้เด่ จะไม่หัวใจวายตายไปก่อนหรืออย่างไร
“ถ้าอย่างนั้นเรามาตั้งใจทำจริง ๆ จัง ๆ กันสักรอบดีไหม หรือว่าจะทำก่อนอาบน้ำก็ดีนะ เสร็จแล้วก็จะได้ไปอาบน้ำล้างตัวทีเดียว” ไม่ใช่แค่พูด แต่นับดาวรู้สึกได้ว่าม่านหมอกมายืนอยู่ด้านหลังเธอแล้วเรียบร้อย
“นายรีบไปอาบน้ำเลยนะ มัวแต่พูดมากอยู่ได้” คราวนี้เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เธอได้ยินเพียงเสียงหัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนที่ม่านหมอกจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
///////////////////////////////////////////////////////
น้องนับ จะรอดไปได้อีกกี่วันน้อออ