พรรธน์ยศปรายตามองกับข้าวสองอย่างในจานกับถ้วยตรงหน้าของตนเองที่โต๊ะกลางชุดโซฟาของห้องทำงาน มีแกงเขียวหวานปลากรายกับผัดผักรวมมิตรใส่กุ้งสด แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้ว ใช่...เขาเริ่มหิว เพราะตอนนี้มันเที่ยงกว่าแล้ว
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
“ทานเลยนะคะ เดี๋ยวจอมจะมาเก็บให้ค่ะ” เธอบอกเขาแล้วก็ลุกเดินไปยังมุมห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์ที่สั่นเตือนอยู่ออกมารับสาย พอเห็นว่าเป็นรเณศก็รีบรับสายทันที
“พี่เป๊ก จอมขอโทษนะคะ วันนี้คงกลับไปทานข้าวเที่ยงกับพี่เป๊กไม่ได้แล้วค่ะ” เธอบอกปลายสายอย่างรู้สึกผิดที่ผิดนัดรุ่นพี่หนุ่ม
“ฉันไม่ชอบกินข้าวคนเดียว” พรรธน์ยศเอ่ยเสียงดังพร้อมกับผลักจานข้าวตรงหน้าออกห่างแล้วมองไปทางคนที่สนใจโทรศัพท์มากกว่าตัวเองตอนนี้ ‘คงสำคัญมากสินะ คนที่โทรมาถึงได้โทรจี้กันขนาดนี้’ เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่พอใจ
จอมใจได้ยินที่เขาพูดจึงรีบคุยกับรุ่นพี่แล้วรีบตัดวางสายและเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวที่ว่างใกล้ๆ เขา
“ต้องให้จอมป้อนไหมคะ ถึงจะทานได้” เธอจับจานข้าวของเขามาตรงหน้าตัวเองพร้อมกับหยิบช้อนส้อมมาตักกับข้าวและข้าวใส่ช้อนให้พอดีคำแล้วยกขึ้นไปใกล้กับปากหนาที่เม้มเป็นเส้นตรง
“ทานสิคะ ไหนบอกไม่ชอบกินข้าวคนเดียว จอมก็จะป้อนค่ะ แต่จอมไม่กินค่ะ เพราะยังไม่หิว” เธอบอกเขาพร้อมกับรอให้เขาเปิดปากกินข้าวที่เธอตักป้อน
“ฉะ...อ่ะ...อื้อ” เพียงแค่เปิดปากจะพูด ข้าวที่จ่อตรงหน้าก็ถูกยัดเข้ามาในปากแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวจนต้องยอมรับและเคี้ยวเร็วๆ แล้วกลืนลงท้อง
“เธอทำบ้าอะไรของเธอจอม!” เขากระชากเสียงถามพร้อมคว้าจับมือเล็กที่จับช้อนในมือรั้งไว้
“ก็พี่แทคไม่ชอบกินข้าวคนเดียว จอมก็มานั่งด้วยและป้อนแล้วนี่ไงคะ แล้วยังต้องการอะไรอีก”
“ฉันไม่ได้ให้เธอมาป้อนข้าวสักหน่อย เธอฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องรึไงว่าไม่ชอบกินข้าวคนเดียวก็คือต้องมีคนมานั่งกินเป็นเพื่อน ต้องกินด้วยกันไม่ใช่มานั่งด้วยและป้อนฉันแบบนี้”
“แต่จอมไม่หิวนี่คะ?”
“ไม่หิวหรือหิ้วท้องไว้รอกินกับไอ้ชู้ที่โทรมากันแน่จอม?” เขานึกเคืองคนตัวเล็กที่ให้ความสนใจคนที่โทรมาหามากกว่าตัวเอง และตัวเองก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยเหมือนกันทำไมต้องหงุดหงิดแบบนี้ด้วย แค่หล่อนคุยกับผู้ชายเท่านั้น ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้รัก ไม่ชอบหล่อน ออกจะเกลียดจอมใจเสียด้วยซ้ำ
‘ทำไมพี่แทคพูดเหมือนหึงเราเลยนะ แต่ไม่ใช่หรอก พี่แทคเกลียดเราจะตาย ไม่มีทางหึงเราหรอก มีแต่เราคิดไปเองมากกว่ายัยจอม’ เธอคิดในใจแล้วก็ตอบกลับ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่แทคด้วยคะ ในเมื่อพี่แทคก็ไม่ได้สนใจอะไรจอมอยู่แล้วนี่คะ”
“ใช่! ไม่ได้สนใจ แต่ลืมไปรึเปล่าว่าเราแต่งงานกันเมื่อวาน และทะเบียนสมรสก็จดเรียบร้อยแล้ว”
“แล้วยังไงคะ? ก็ในเมื่อพี่บอกเองว่าไม่คิดจะยกย่องจอมอยู่แล้วนี่ แล้วจะมาสนใจอะไรคะ ถ้าไม่กินข้าวแล้ว จอมเก็บนะคะ จอมต้องรีบกลับไปร้าน”
“รีบกลับไปร้านหรือรีบกลับไปหาผู้ชายที่โทรมากันแน่จอม” เขารีบพูดตอบกลับและมือเล็กที่กำลังจะเก็บโต๊ะก็หยุดชะงักทันทีพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาสีทมิฬแข็งกร้าวของเขาที่มองมายังตนอยู่ก่อน
“รู้อะไรไหมคะ ตอนนี้พี่แทคเหมือนคนกำลังหึงจอมเลยค่ะ อย่าทำให้จอมนึกดีใจสิคะว่าพี่แทคกำลังหึงจอมทั้งๆ ที่ความจริงพี่แทคเกลียดจอมมาตลอด”
“อย่าสำคัญตัวเองผิดจอม ฉันไม่เคยนึกพิศวาสเธอแม้แต่น้อย แต่ที่พูดเพราะอยากให้เธอจำใส่สมองไว้ว่าตัวเธอมีผัวแล้วไม่ใช่สาวโสดอย่างเมื่อก่อน ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้นอนกับเธอก็ตาม แต่ยังไงเธอก็ใช้นามสกุลของฉันแล้ว”
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ พี่แทคไม่ต้องห่วงค่ะ จอมจำใส่สมองเป็นอย่างดีและก็จำเสมอว่าตัวเองเป็นเมียแต่งที่พี่เกลียดชังน้ำหน้าและไม่มีวันแทนที่พี่ขวัญได้”
“หึ! รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ และเธอก็น่ารังเกียจที่สุด ที่นึกอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง” เขาตอบสวนกลับ
“จอมขอถามหน่อยเถอะ ทำไมพี่แทคถึงรักจอมไม่ได้ ทำไมถึงต้องเป็นพี่ขวัญคนเดียวด้วย” เธอถามเขาอย่างสุดจะทนพร้อมกับยกมือปาดเช็ดน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอาบสองแก้ม
อึก!
“น้ำตามันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะจอม เธอร้องไห้เป็นสายเลือดหรือร้องจนตาย ฉันก็ไม่มีทางรักหรือชอบเธอได้หรอก เธอมันไม่ได้ครึ่งของขวัญเลยสักอย่าง ขวัญทั้งสวย ทั้งน่ารัก แต่เธอสิ สวยก็ไม่สวย มองตรงไหนก็น่าเบื่อ อย่าคิดเอาตัวเองมาเปรียบกับขวัญ จำไว้...วันไหนที่ขวัญกลับมา ฉันจะหย่ากับเธอเพื่อไปหาขวัญทันที” วาจาห้าวหาญเอ่ยเชือดเฉือนใจคนที่นั่งสะอื้นไห้อยู่บนโซฟาอีกตัว โดยไม่คิดจะตอบคำถามของจอมใจที่ถามตน
ฮึก! ฮือๆ
ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเจ็บยิ่งช้ำกับคำพูดของเขา คำพูดของพรรธน์ยศเปรียบเหมือนเข็มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงตำในอกของเธอและมันก็เหมือนมีดเล่มเล็กๆ ที่กรีดเฉือนใจเธอด้วยในตอนนี้ ทำไมกัน ทำไมเขาถึงมองเธอในแง่ร้ายแบบนี้ เธอไม่เคยคิดและนึกอิจฉาขวัญใจเลยสักครั้งที่ถูกเขาเลือก แต่เธอน้อยใจในโชคชะตาตัวเองมากกว่าที่ไม่เป็นคนที่ถูกเขาเลือก
“ใช่ จอมมันไม่สวย จอมมันไม่น่าดึงดูดแบบพี่ขวัญ แต่ยังไงตอนนี้พี่แทคก็เป็นของจอม เป็นสามีจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญ” เธอปาดเช็ดน้ำตากลืนก้อนสะอื้นลงคอพร้อมโต้ตอบกลับเสียงดังโดยไม่นึกกลัวสายตาสีทมิฬที่เพ่งมองมาทางตน
“น่าสมเพช! หึ!” พรรธน์ยศยิ้มเยาะเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพูดต่อ “เก็บโต๊ะแล้วรีบไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะทำร้ายเธอจอม ไปให้พ้นหน้าฉัน ผู้หญิงความคิดต่ำอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง”
“ถึงวันนี้จอมจะไป ยังไงเราก็ต้องเจอกัน เพราะเราคือสามีภรรยากัน จำไว้ว่าพี่แทคเป็นของจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญแล้วตอนนี้ พี่แทคเป็นของจอม” เธอฝืนความเจ็บปวดในอกตะโกนตอกกลับพร้อมกับคว้าหยิบกระเป๋าแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องทำงานใหญ่ไปทันที โดยไม่สนใจจะเก็บโต๊ะตามที่เขาสั่ง
ปึก!
พรรธน์ยศหันไปมองประตูที่ถูกกระแทกปิดเต็มแรงแล้วมองไปยังอาหารและจานข้าวตรงหน้าตัวเองแล้วก็นั่งลงเหมือนเดิม แม้จะโกรธมากแค่ไหน แต่กับข้าวที่ได้ทานไปแค่คำเดียวก่อนหน้านี้อร่อยและรสถูกปากเขาทีเดียว
“ยัยผู้หญิงน่าสมเพช!”
เขาพึมพำพร้อมกับดึงจานข้าวมาตักกับข้าวและข้าวพอดีคำทานต่อ พอคำข้าวเข้าปากก็รู้สึกว่าความขุ่นเคืองในใจได้มลายหายไปทันทีเมื่อได้สัมผัสกับรสชาติของแกงเขียวหวานปลากราย ก่อนหน้านี้ผัดผักรวมมิตรกุ้งสดว่าอร่อยแล้วพอได้กินแกงเขียวหวานปลากรายอร่อยยิ่งกว่า แถมเป็นรสชาติเผ็ดหวานมันที่เขาชอบด้วย
“อืม...อร่อยดี คงอาหารที่ร้านเธอสินะ” เขาพึมพำแล้วตักทานต่อคำที่สองที่สามโดยไม่รู้เลยว่ากับข้าวที่ทานเป็นฝีมือของจอมใจ ภรรยาแสนชังของตัวเองที่ตั้งใจทำมาให้สุดฝีมือ