พรรธน์ยศขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงร้านอาหารไทยของเธอที่เป็นทางผ่านไปทางบริษัทของตนเองก็จอดเทียบรถกับหน้าร้านเธอเพื่อให้จอมใจได้ลงจากรถ ส่วนจอมใจก็เปิดประตูรถลงเงียบๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาลงไปเหยียบพื้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงกระด้างดังขึ้น
“ไม่คิดจะขอบคุณสักคำเลยรึไง?” เป็นคนที่บึ้งตึงเงียบตลอดทางนั่นเองเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณค่ะพี่แทค” เธอหันมาเอ่ยขอบคุณเขาแล้วก้าวลงไปยืนข้างรถเต็มตัว แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูรถ เขาก็ตอบกลับมาอีกด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ
“ถ้าฝืนก็ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ปิดประตูรถได้แล้ว เสียเวลาฉันมากแล้ว”
“ค่ะ ถ้าฝืนจะไม่พูดอีกค่ะ” แล้วจอมใจก็กระแทกปิดประตูรถยนต์คันหรูของพรรธน์ยศทันที
ตึบ!
“น่าเบื่อ!” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วก็ออกตัวรถไปทันทีด้วยความเร็วสูง ส่วนจอมใจก็ได้แต่เม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงมองตามหลังรถยนต์ที่แล่นจากไปด้วยแรงโกรธไม่พอใจของเจ้าของรถ เธอมองออกว่าเขาไม่พอใจเธอก่อนหน้านี้ หรืออาจจะไม่พอใจมาตลอดตั้งแต่รู้จักกันเลยก็ว่าได้
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
ยังไม่ทันได้เดินเข้าร้านอาหารก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาจนต้องล้วงกระเป๋าค้นหาโทรศัพท์ที่สั่นเตือนอยู่ออกมากดรับสาย พอได้โทรศัพท์มาในมือแล้วก็ไม่ทันเสียแล้ว สายที่โทรเข้ามาได้ตัดไปเสียก่อนจนต้องโทรกลับเมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ที่สนิทของตนเองโทรเข้ามา เมื่อโทรกลับก็รอไม่นานปลายสายก็กดรับสาย
“สวัสดีค่ะพี่เป๊ก”
“ทำอะไรอยู่ครับจอม” รเณศเอ่ยถามกลับมาในสายเสียงนุ่ม
“เพิ่งถึงร้านอาหารค่ะพี่เป๊ก”
“เหรอครับ งั้นพี่แวะไปทานข้าวเที่ยงด้วยที่ร้านนะครับ”
“แล้วงานที่ร้านทองไม่ยุ่งเหรอคะวันนี้”
“ไม่ครับ พี่ให้ผู้จัดการดูแลแทนได้”
“ดีจัง ลูกชายเจ้าของร้านทอง”
“ก็ไม่ได้ดีไปทุกอย่างหรอกครับ ถ้าดีจริงคงมีสาวมารัก” รเณศเฝ้ามองดูรุ่นน้องคนสนิทมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่สุดท้ายมันก็พังเมื่อเธอเป็นภรรยาของคนอื่นแล้วตอนนี้
“ได้สิคะ ถ้าพี่เป๊กมาเดี๋ยวจอมเข้าครัวทำมื้อเที่ยงให้เลยค่ะ”
“ครับ งั้นเจอกันนะครับ”
“ค่ะ พี่เป๊ก เดี๋ยวจอมเข้าร้านก่อนนะคะ ไปดูเด็กๆ ในร้านก่อนค่ะ เพราะอีกยี่สิบนาที ร้านก็จะเปิดแล้วค่ะ”
“ครับผม แล้วเจอกันนะครับ”
“ค่ะ แล้วเจอกัน” แล้วก็กดวางสายพร้อมกับยิ้มมุมปากให้กับสายที่เพิ่งวางแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเหมือนเดิมแล้วเดินเข้าไปในร้านที่กำลังเตรียมจะเปิดร้าน
เฮ้อ!
พอมาหยุดยืนหน้าห้องที่เพิ่งมาครั้งแรก และในมือก็ถือปิ่นโตสามชั้นมาด้วย ใช่...มันคือมื้อเที่ยงที่แม่สามีโทรมาบอกให้เธอทำมื้อเที่ยงมาให้เขา แม้ไม่อยากจะมา แต่ท่านก็ขอร้องให้มา แถมบอกอีกว่าเขาชอบทำงานจนลืมทานข้าวและปวดท้องกระเพาะบ่อยๆ และนี่แหละความเป็นห่วงและรักเขาถึงได้มาหยุดยืนอยู่ตรงนี้ พอมาถึงก็ไม่มีใครสงสัย เลขาหน้าห้องออกไปทานข้าวข้างนอก
“เอาน่า...ไหนๆ ก็มาถึงหน้าห้องทำงานพี่แทคแล้ว แค่เอามื้อเที่ยงมาให้แล้วก็กลับเองเนอะยัยจอม” เธอพึมพำกับตัวเองอยู่หน้าห้องเลยไม่ทันสังเกตว่าประตูห้องตรงหน้าได้ถูกเปิดดึงจากข้างใน
“เธอมาทำอะไรที่นี่” เขาถามทันทีเมื่อเปิดประตูออกมาเจอภรรยาแต่งตีทะเบียนของตัวเอง
“พะ...พี่แทค” เธอติดอ่างทันทีเมื่อได้ยินคำทักทายของชายที่เฝ้ารักมาตั้งแต่แรกเจอ
“ก็ฉันน่ะสิ มีอะไร มาทำอะไรที่นี่?” เขาถามพร้อมกับก้มมองปิ่นโตในมือเล็กที่ถืออยู่ ก็พอจะรู้ว่ามาทำอะไร แต่ก็ยังอยากถามให้ได้คำตอบ
“จอมเอาปิ่นโตมาให้พี่แทคค่ะ คุณแม่บอกว่าพี่แทคชอบลืมทานข้าวเวลามื้อเที่ยง”
“เลยอาสาเอามาให้ว่างั้น?”
“ไม่ค่ะ คุณแม่ขอร้อง จอมถึงมา” เธอตอบกลับตามความจริง
“เอากลับไปกินเองเถอะ ฉันไม่กินกับข้าวที่เธอนำมาให้หรอก” เขารู้สึกเคืองกับคำตอบของหล่อนจึงตอบกลับไปแบบนั้น
“ค่ะ งั้นกลับก่อนนะคะ” แล้วเธอก็หมุนตัวจะเดินกลับพร้อมกับเสียงสั่นเตือนโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นเตือนขึ้น เธอจึงนำปิ่นโตในมือไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานของเลขาหน้าห้องของพรรธน์ยศแล้วล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมากดรับสาย
“ค่ะพี่เป๊ก ค่ะ รอจอมที่ร้านเลยค่ะ เดี๋ยวจอมรีบกลับไปนะคะ” เธอกดวางสายทันทีพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพร้อมกับคว้าหยิบปิ่นโตที่วางตั้งไว้มาถือเพื่อจะกลับ ก็ในเมื่อสามีไม่ต้องการปิ่นโตที่นำมาให้จะเอาไว้ทำไมล่ะ ก็เอากลับไปกินเองสิ
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จะกินข้าวที่เธอเตรียมมา” พรรธน์ยศเอ่ยขึ้นเมื่อตอนนี้จอมใจไม่ได้สนใจตัวเองแล้วและกำลังจะเดินกลับไป
“คะ?” เธอเอี้ยวหน้าหันมากลอกตาไปมาอย่างสงสัยในประโยคของสามี
“ฉันหิว” เขาตอบสั้นห้วน
“แล้วยังไงคะ จะกินกับข้าวที่จอมเอามาเหรอคะ?” เธอถามกวนกลับพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นหน้านิ่งปกติ
“ก็เอามาให้ฉันไม่ใช่เหรอ เอามาแล้วก็เอาเข้าไปจัดใส่จานสิ ฉันจะได้กิน” เขาบอกสั่งเธอ
“ไหนบอกว่าไม่กินของที่จอมนำมาให้คะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากกินล่ะคะ”
“ถ้าจะให้กินก็ไปจัดใส่จานมา พูดมาก น่ารำคาญ!”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานพร้อมเปิดประตูทิ้งไว้ ส่วนจอมใจก็ได้แต่เบ้ปากเล็กน้อยแล้วเดินถือปิ่นโตไปยังห้องครัวที่เมื่อกี้เธอเดินผ่านมาทันที เพื่อจัดกับข้าวในปิ่นโตที่นำมาใส่จานนำไปให้ชายหนุ่ม แม้เขาจะปากร้าย แต่เขาก็ยอมทานกับข้าวที่นำมาให้และมันก็เป็นกับข้าวฝีมือเธอด้วยสิ