เช้าวันต่อมา…
คุณภวินเดินทางมาทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อคืนเขานอนไม่หลับมากเพราะผู้หญิงคนที่ชื่อหนูเล็กคนเดียว เธอทำให้เขาเสียหน้ามากที่มาปฏิเสธคนแบบเขา เพราะฉะนั้นเธอจะได้รู้จักภวินคนนี้ว่าสามารถทำได้ทุกอย่างถ้าเกิดว่าอยากได้อะไร
“คุณภวินเรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ”
“ไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้มาหน่อย แล้วก็ลองดูว่าครอบครัวเธอเป็นใครด้วย”
“ได้ครับท่าน”
ภวินส่งรูปถ่ายของเธอไปให้ริชพร้อมกับชื่อนามสกุลที่เพื่อนสนิทของเขาไปขอจากแฟนมาให้ ผู้ช่วยของเขาโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปทันที และไม่นานก็กลับมาพร้อมกับรายละเอียดที่เขาต้องการรู้
“ว่ายังไงเธอเป็นใคร”
“คุณหนูเล็ก ดาริกา สุขสิริกุล นามสกุลนี้ผมให้คนไปสืบมาแล้วเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณดาพงศ์ สุขสิริกุล คนที่เมื่อวานมาขอให้คุณภวินช่วยซื้อหุ้นของบริษัทเขาหน่อย เค้าสองคนเป็นพ่อลูกกันครับ อายุ 24ปี ยังโสดไม่มีแฟนแล้วก็ไม่ได้ทำงานอะไร”
“งั้นเหรอ…”
เขาเงียบไปอย่างใช้ความคิด ผู้ชายคนเมื่อวานมาหาเขาเพื่อขอให้ซื้อหุ้นบริษัทเพราะขาดสภาพคล่องทางการเงินกะทันหัน แล้วถ้าเกิดว่าเขายอมซื้อนั่นเท่ากับว่าเขาจะเป็นต่อในเรื่องนี้และสามารถเอาไปต่อรองกับหนูเล็กได้ด้วย ภวินยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี
“โทรศัพท์ไปบอกคุณดาพงศ์ว่าผมสนใจจะซื้อหุ้นบริษัทของเขา โทรมาตามมาตอนนี้เลยเอาสัญญามาด้วย”
“อะไรนะครับ…”
“ได้ยินไม่ผิดนี่ ผมจะซื้อหุ้น”
“ผมไม่เข้าใจว่าคุณภวินคิดจะทำอะไร เมื่อวานไล่เขาโดยไม่อ่านเอกสารด้วยซ้ำแต่วันนี้จะซื้อเฉยเล่นเอาผมงงไปหมด”
ผู้ช่วยของเขามองเจ้านายอย่างไม่เข้าใจว่าในตอนนี้กำลังคิดที่จะทำอะไรอยู่ เมื่อวานบอกไม่สนใจจะซื้อหุ้นบริษัทที่มีปัญหามาตอนนี้จะซื้อเสียอย่างนั้น
“ก็ธุรกิจเค้าก็ไม่มีปัญหาอะไรไม่ใช่เหรอ ก็แค่ขาดเงินหมุนเวียนนี่ผมกำลังช่วยทั้งเขาแล้วก็พนักงานอีกเป็นร้อยชีวิตเลยนะ คุณจะเอายังไงล่ะ”
คุณริชเงียบไปไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเจ้านายอีก ถ้าเขาหวังดีจะช่วยก็ถือว่าดีไปไม่ใช่ว่าคิดอะไรกับลูกสาวของฝั่งนั้นนะเพราะที่ยอมซื้อหุ้นไม่ใช่เพราะเหตุผลในการช่วยเหลือที่เขาบอกแน่นอนไม่อย่างนั้นคงยอมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แสดงว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ชื่อหนูเล็กแน่นอน
“ไม่เอายังไงครับผมเข้าใจแล้ว”
“เข้าใจก็ไปตามมา ผมจะซื้อวันนี้เลย”
“ครับ เดี๋ยวผมรีบไปโทรเลย”
ผู้ช่วยของเขาเดินออกไปจากตรงนั้นรีบโทรศัพท์ไปแจ้งข่าวให้คุณดาพงศ์ทราบ และเมื่อเขาได้รับข่าวดีก็ดีใจมากแล้วรีบเดินทางมาพบเขาเพื่อคุยรายละเอียดการซื้อขายหุ้นและแทบไม่ต้องคุยอะไรเลยเขาตกลงซื้ออย่างง่ายดายโดยไม่ถามอะไรเลยด้วยซ้ำ
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยต่อชีวิตบริษัทของเรา ผมสัญญาว่าจะทำให้มันกลับมามั่นคงเหมือนเดิม”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณน้า ถือว่าช่วยๆกันเมื่อวานผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่รีบปฏิเสธไป”
“ไม่เป็นไรเลยครับ แค่คุณภวินยอมเปลี่ยนใจแค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ”
เขายิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจก่อนจะเตรียมตัวไปจัดการผู้หญิงแรกคนต่อ เก่งนักใช่มั้ยมาลองดูกันสิว่าเธอจะชนะฉันได้…
สองวันต่อมา…
คุณภวินเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อตามไปเจอหนูเล็กที่ตอนนี้กำลังซื้อของอยู่ เธอเดินอยู่ในร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมคนเดียวหาชุดสำหรับใส่ไปช่วยงานคุณพ่อที่บริษัทเพราะท่านอยากให้เธอมาเรียนรู้งานและอนาคตเธอจะต้องมาทำงานแทนท่าน ดูแล้วก็คงถึงเวลาที่เธอควรจะทำงานสักทีเพราะจบมาสองปีแล้วจึงตัดสินใจช่วยท่าน
“เอาแค่นี้แหละค่ะ”
“เชิญที่เราเคาน์เตอร์ชำระเงินเลยค่ะ”
พนักงานเชิญหนูเล็กให้ไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ชำระเงินจากนั้นก็ถือถุงหลายใบเดินออกมาจากตรงนั้น เธอหยุดชะงักไปเมื่อเจอผู้ชายคนหนึ่งยืนขวางอยู่และถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนที่ก่อนหน้านี้มาขอเบอร์เธอ
“ขอทางด้วยค่ะ”
“คุยกันก่อนสิจะรีบไปไหนล่ะ”
เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองหญิงสาวอย่างเจ้าเล่ห์ เธอรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยน่าไว้ใจ เธอก็พลาดที่ไปปฏิเสธเขาวันนั้นใครจะคิดว่าเขาจะเป็นคนที่มีความพยายามมากขนาดนั้น
“ฉันบอกคุณไปแล้วนะคะว่าไม่อยากรู้จัก”
“แน่ใจเหรอ…”
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะหวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก”
เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะเดินผ่านเขาไปทันที ภวินมองตามเธอไปก่อนจะเอ่ยตามหลังเสียงเรียบ
“ก็แล้วแต่นะ ถ้าเธออยากจะให้บริษัทของพ่อเธอล้มละลายก็ตามใจ อยู่เป็นคุณหนูไม่ชอบอยากจะกลายเป็นคุณหนูตกอับก็เชิญ”
เขาเอ่ยออกมาเสียงไม่ดังมากนักแต่มันเพียงพอที่จะให้หญิงสาวหันกลับมามองอย่างสงสัยในสิ่งที่เขากำลังพูดออกมา
“คุณพูดเรื่องอะไรคะ”
“อ่าว… ไม่รู้เหรอว่าที่บริษัทของพ่อเธอกำลังแย่ โดนเพื่อนโกงแถมยังถอนหุ้นออกไปหมดจนตอนนี้บริษัทกำลังแย่ถึงได้มาขอให้ฉันช่วยซื้อหุ้นเพื่อให้บริษัทไปต่อได้”
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ”
เธอส่ายหน้าทันทีไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เขาพูด คุณพ่อยิ้มแย้มแจ่มใสในทุกวันและไม่เคยระบายเรื่องที่บริษัทให้ฟังเลย ท่านบอกว่าไปได้ดีไม่ต้องห่วงเธอจึงไม่สนใจและใช้ชีวิตแบบคุณหนูของบ้านมาตลอด
“โทรไปถามสิถ้าอยากรู้ความจริง”
“แล้วคุณต้องการอะไร”
เธอมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ บริษัทของพ่อกำลังแย่และเขาก็ไปซื้อหุ้นเองแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ หรือเพราะว่าโกรธที่เธอไม่ให้เบอร์และปฏิเสธที่จะทำความรู้จักกับเขา
“เธอน่าจะรู้นี่ว่าฉันต้องการอะไร”
“แต่ฉันไม่เกี่ยวอะไรเลยนะคะ คุณซื้อหุ้นของบริษัทพ่อเองแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”
เธอยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเขาจะมาวุ่นวายกับเธอทำไม มันเป็นเรื่องของธุรกิจและเธอไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ภวินขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยแก้มเธอแผ่วเบา
“ตอนแรกฉันก็ไม่ได้ซื้อหรอก แต่เพราะว่าเธอเป็นลูกสาวของเขาก็เลยซื้อ เหตุผลนะเหรอเพราะฉันอยากเอาชนะผู้หญิงแบบเธอไง ฉันให้เวลาตัดสินใจนะว่าจะมาเป็นผู้หญิงของฉันหรือว่าจะยอมเป็นคุณหนูตกอับบ้านล้มละลาย”
เขายื่นนามบัตรของตัวเองใส่ไว้ในมือของเธอก่อนจะเอ่ยกระซิบเสียงเบา
“ถ้าจะเลือกทางไหนก็โทรมานะ ฉันจะรอคำตอบจากเธอ…”
เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างอารมณ์ดีสุดๆ หนูเล็กยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างตกใจมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก ทำไมเธอจะต้องไปเป็นผู้หญิงของเขาด้วยและถ้าเกิดว่าเธอปฏิเสธอีกครั้งบริษัทของพ่อจะเป็นยังไง
“จะต้องกลายเป็นคุณหนูตกอับอย่างนั้นเหรอ…”
เธอส่ายหน้าทันทีอย่างรับไม่ได้ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งจะต้องกลายไปอยู่ในสภาพที่ไม่เหลืออะไร เธอเคยมีทุกอย่างและไม่เคยลำบากมาก่อนในชีวิต ถ้าต้องล้มละลายขึ้นมาเธอจะอยู่ยังไง มันเป็นการตัดสินใจที่ไม่มีแม้แต่ทางออก เขาเลือกที่จะช่วยเหลือพ่อเพราะว่าอยากเอาชนะเธอที่ไปปฏิเสธเขาในวันนั้น ผู้ชายอะไรเจ้าคิดเจ้าแค้นและอยากเอาชนะที่สุด
“เอายังไงดีหนูเล็ก….”