[08] เริ่มแล้วเหรอ

1489 คำ
บทที่ 08 เริ่มแล้วเหรอ ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มสามสิบนาที… ฉันขับรถมาจอดสนิทที่โรงจอดรถของ After You Pub แล้ว เพราะคืนนี้มีนัดดื่มกับพี่เอ็กซ์คิวเพื่อส่งพี่เขาไปฝึกงานต่างประเทศ ที่จริงฉันชวนสมายมาด้วยนะ แต่เธอกลับบ้านไปหาพ่อแม่จึงไม่ได้มา โดนเพื่อนบ่นด้วยว่าไม่บอกให้เร็วกว่านี้ แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอจะกลับบ้าน พี่เอ็กซ์คิวเพิ่งโทรบอกช่วงเย็นเอง แล้วฉันไม่ได้บอกเพื่อนช้ามากนะ เพราะหลังจากทำแผลให้พี่ฟารันเสร็จ กลับถึงห้องก็รีบโทรบอกสมายทันที LINE -XQ- Cinniar : ซินถึงผับแล้วค่ะ พี่เอ็กซ์คิวอยู่โต๊ะไหนคะ ฉันส่งข้อความไปถามพี่เอ็กซ์คิวพลางเปิดประตูลงจากรถ ไม่ถึงหนึ่งนาทีพี่เขาก็ตอบกลับมาราวกับรอข้อความจากฉันอยู่แล้ว XQ : เดี๋ยวพี่เดินออกไปรับ มือเล็กกดส่งสติกเกอร์รูปหมีทำสัญลักษณ์โอเค จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์ใส่ลงไปในกระเป๋าสะพาย ก้าวเดินไปรอที่หน้าผับ ไม่นานพี่เอ็กซ์คิวก็เดินออกมา “มาคนเดียวเหรอ?” “ใช่ค่ะ สมายกลับบ้านก็เลยไม่ได้มาด้วย” “เข้าไปข้างในเลยไหม?” “ค่ะ” ฉันพยักหน้าตอบจากนั้นก็เดินผ่านพี่เอ็กซ์คิวเข้าไปในผับเมื่อพี่เขาหลบทางให้เดินก่อน แต่ฉันไม่รู้ว่าพี่เขานั่งโต๊ะไหนจึงเอี้ยวหน้าไปมองหวังจะถาม ทว่าสายตาก็ไปปะทะกับพี่ฟารันที่กำลังเดินเข้ามาในผับซะก่อน ทำให้เราสองคนบังเอิญสบตากัน “โต๊ะสามสิบแปด อยู่ใกล้เวทีฝั่งนู่น” พี่เอ็กซ์คิวเลื่อนใบหน้าเข้ามากระซิบข้างใบหูเพราะสถานที่นี้คนเยอะมาก ไหนจะเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ฉันจึงดึงสายตากลับมาพยักหน้าตอบ จากนั้นก็พยายามเดินผ่านผู้คนไปที่โต๊ะ ฉันกับพี่เอ็กซ์คิวไม่ใช่ญาติพี่น้องกันจริงๆ นะ เราเพิ่งรู้จักกันเมื่อสามปีที่แล้ว เพราะพี่เอ็กซ์คิวเป็นหลานชายของคุณลุงหมอก สามีใหม่แม่ฉันหรือเรียกง่ายๆ ว่าพ่อเลี้ยง แต่เคยมีบางคนเข้าใจผิดคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันด้วย แม่กับคุณลุงหมอกแต่งงานกันตั้งแต่ฉันอายุสิบขวบ แต่ที่เพิ่งรู้จักพี่เอ็กซ์คิวเพราะก่อนหน้านี้พี่เขาอยู่ต่างประเทศ เพิ่งย้ายกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศไทย ส่วนเรื่องครอบครัวของฉัน พ่อแม่เลิกรากันตั้งแต่ตอนที่ฉันอายุห้าขวบ ต่างคนต่างแต่งงานมีครอบครัวใหม่ ทว่าทั้งสองไม่เคยละเลยฉันสักครั้ง ถึงฉันจะอยู่กับแม่ แต่ทุกปิดเทอมพ่อจะมารับไปอยู่ด้วยทุกครั้ง ฉันจึงสนิทสนมทั้งครอบครัวใหม่ของแม่และของพ่อ ทุกคนดีกับฉันมาก เวลาที่พ่อแม่เจอกันก็คุยปกติ ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงเลิกลากันแต่ตอนนี้ท่านทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ฉันไม่เคยถามเหตุผลพ่อแม่เลยนะ เพราะเคารพการตัดสินใจของพวกท่าน “ในที่สุดไอ้เอ็กซ์คิวก็พาคนที่มันบอกว่าเป็นน้องสาวมาเจอเพื่อนสักที” “ปากบอกว่าเป็นน้องสาวแต่หวงยิ่งกว่าแฟน” เมื่อเดินมาถึงโต๊ะเพื่อนพี่เอ็กซ์คิวที่นั่งดื่มอยู่ก็เอ่ยพูดด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ แต่พี่เอ็กซ์คิวไม่ได้ตอบโต้นอกจากส่ายหน้าไปมาเบาๆ ราวกับเอือมระอา แสดงว่าเพื่อนพี่เขาก็คงคิดว่าฉันเป็นแฟนหรือไม่ก็คนคุยของพี่เอ็กซ์คิวแน่ๆ ไม่แปลกใจหรอกที่คนอื่นอาจจะคิด เพราะเวลาที่ออกมาเจอพี่เอ็กซ์คิว พี่เขาดูแลดีมาก “ขอบคุณค่ะ” ฉันเอ่ยคำขอบคุณด้วยรอยยิ้มเมื่อพี่เอ็กซ์คิวขยับเก้าอี้ให้ แต่เมื่อนั่งลงพี่เขาก็ถอดเสื้อแจ็กเกตมาปกคลุมกระโปรง เพราะวันนี้ฉันใส่ชุดเดรสกระโปรงสั้น “ไม่เป็นไรค่ะพี่เอ็กซ์…” “โต๊ะข้างๆ เป็นผู้ชาย คลุมไว้หน่อยก็ดีครับ” “น้องสาว?” “ไม่จบนะ” พี่เอ็กซ์คิวนั่งลงเก้าอี้ข้างกายแล้วตวัดสายตาไปมองเพื่อนตัวเอง ก่อนจะแนะนำให้ฉันรู้จัก “มันชื่อไทก้า ส่วนไอ้นี่ชื่อโฬม” “ซินเนียร์นะคะ” ฉันโค้งศีรษะเล็กน้อยแล้วแนะนำตัวกลับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ฉันเพิ่งเคยเจอเพื่อนพี่เอ็กซ์คิว เพราะเราไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ถึงฉันจะรู้จักพี่เอ็กซ์คิวมานานถึงสามปีแต่เราไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย เจอกันแค่ที่บ้านคุณลุงหมอก เพิ่งมาดื่มด้วยกันก็ช่วงฉันอกหัก พี่เขาเองก็มีเรื่องเครียดมาระบายกับฉันเช่นกัน น่าจะเหตุผลนี้ที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน เพราะจู่ๆ ก็มาเจอกัน แต่ก็เจอไม่บ่อยนะ นับครั้งได้เลย ที่สำคัญช่วงนี้พี่เอ็กซ์คิวไม่ควงผู้หญิงคนไหนเลย แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะพ่อพี่เอ็กซ์คิวยื่นคำขาดในเรื่องนี้ พี่เขาจึงไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหน “พี่ขอถามตรงๆ นะ ไอ้เอ็กซ์คิวมันจีบน้องใช่ไหม” พี่ไทก้าเอ่ยถาม “ไม่ได้จีบค่ะ” “ที่ไม่ได้จีบเพราะเป็นแฟนกันแล้ว?” พี่โฬมถาม “พวกมึงยังไม่เลิกสนใจเรื่องนี้อีกนะ” พี่เอ็กซ์คิวตวัดสายตาไปเอ่ยพูดกับเพื่อนตัวเอง “มึงเข้าใจคำว่าน้องสาวไหม?” “ดูการกระทำมึงหน่อย” “แล้วแต่พวกมึงจะคิดก็แล้วกัน กูขี้เกียจอธิบายแล้ว” “เออๆ น้องก็น้อง ถ้างั้นกูขอจีบ…” “เลิกเหี้ยเมื่อไหร่ ค่อยมาจีบ” “มึงก็ว่าไอ้โฬมเกินไปปปป” พี่ไทก้าเอ่ยพูดด้วยท่าทางราวกับพึงพอใจ พลางยกเครื่องดื่มเข้าปาก “ว่าแต่มึงจะกลับมาตอนไหน ฝึกงานจบเลยเหรอ?” “ไม่หรอก ถ้ามีเวลาว่างก็อาจจะกลับมา” พี่เอ็กซ์คิวว่าจบก็เลื่อนสายตามามองที่ฉัน ซึ่งกำลังยกเครื่องดื่มมึนเมาเข้าปาก “อย่าดื่มเยอะนะ เดี๋ยวขับรถกลับไม่ไหว” “ค่ะ… ว่าแต่พรุ่งนี้ให้ซินไปส่งสนามบินไหม?” “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพ่อกับลุงหมอกไปส่ง” “เดินทางปลอดภัยนะคะ ถ้ากลับมาอย่าลืมซื้อขนมมาฝากซินด้วยนะ” “หึ… ถ้าเหงาก็เล่นกับตุ๊กตาที่พี่ซื้อให้รอนะ” พี่เอ็กซ์คิวใช้มือมาขยี้เส้นผมฉันด้วยท่าทางเอ็นดู ทำให้ฉันหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเลื่อนแก้วเครื่องดื่มไปชนกับพวกพี่ๆ เมื่อพี่โฬมชวนชนแก้ว ผับแห่งนี้นักศึกษามาเที่ยวเยอะมาก เพราะอยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยเอพริลกับมหาวิทยาลัยที่พี่เอ็กซ์คิวเรียน คนจึงเยอะทุกวัน บางครั้งผับปิดก็มีบางกลุ่มนัดไปชกต่อยกันด้วยนะ ฉันไม่เคยเห็นหรอกแต่รู้มาจากเพื่อนอีกที ระหว่างที่ฉันกำลังสนุกสนานกับการฟังเพลงและดื่มกับพวกพี่ๆ สายตาก็เลื่อนไปเจอแพรวากับเพื่อนของเธอพอดี ไม่แค่นั้นยังเจอพี่ทิคเกอร์นั่งอยู่อีกโต๊ะด้วย วันนี้วันอะไร… วันรวมตัวคนรู้จักของซินเนียร์เหรอ “ถ้ามันกล้าวอแว พี่จัดการเอง” พี่เอ็กซ์คิวเอ่ยพูด สงสัยเห็นพี่ทิคเกอร์เช่นกัน ฉันจึงยิ้มบางๆ แล้วดึงสายตากลับมา “กูไปดูดบุหรี่ก่อนนะ” พี่โฬมเอ่ยบอกแล้วดันตัวลุก ไม่แค่นั้นพี่ไทก้าก็ลุกตาม “กูไปด้วย” “พวกมึงจะกลับมาไหม?” พี่เอ็กซ์คิวถาม ทว่าพี่โฬมกับยิ้มมุมปากราวกับมีแผนการอะไร ทำให้พี่เอ็กซ์คิวพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ แล้วยกมือไล่ ฉันจึงยกเครื่องดื่มมึนเมาเข้าปาก ก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นพี่ฟารันกับเพื่อนพี่เขาทั้งสามคนกำลังเดินมา แก๊งของพี่ฟารันฉันรู้จักชื่อทุกคนนะ เพราะสมายเล่าให้ฟัง จังหวะนั้นพี่ฟารันก็จ้องมองมาทำให้เราสองคนประสานสายตากัน ไม่นานพี่เขาก็ดึงกลับแล้วเดินไปนั่งโต๊ะที่พนักงานเพิ่งเคลียร์ให้ ซึ่งโต๊ะนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างโต๊ะฉันกับโต๊ะแพรวา แต่ใกล้กับโต๊ะพี่ทิคเกอร์ที่กำลังมองฉัน “…” พี่เอ็กซ์คิวดันลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้ม ก่อนจะยกเครื่องดื่มเข้าปากอึกใหญ่ด้วยแววตาราวกับหงุดหงิด แต่เมื่อฉันมองไปที่พี่ฟารันอีกครั้งก็เห็นแพรวาเดินเข้าไปหาพี่ฟารันแล้ว เธอเริ่มแล้วเหรอ…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม