ชั้นบนสุดของตึกใหญ่ เป็นพื้นที่เพนเฮ้าส์หรูของกันต์ธี ชายหนุ่มกำลังยืนมองห้องพักของตัวเองอย่างมีความสุข เขามั่นใจว่าอย่างไรเสีย พัสกรก็ไม่มีทางหาเงิน 200 ล้านมาคืนเขาได้ทันเวลา
"วิล นายให้แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องนอนที่ติดกับห้องของฉันที เปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอนและของตกแต่งทั้งหมดให้เป็นสีเทาดำ อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด"
"ครับเจ้านาย"
"เจค นายไปสั่งให้แต่ละแบรนด์ส่งเสื้อผ้าคอเลคชั่นล่าสุดมาให้หมด เลือกเป็นโทนสีและขนาดตามที่น้ำเพชรชอบ กระเป๋า เครื่องประดับ น้ำหอมเตรียมไว้ให้พร้อม"
"ครับเจ้านาย"
วิลเลี่ยมและเจคอปแยกย้ายกันไปจัดการงานตามที่ผู้เป็นนายสั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งคู่รู้จักน้ำเพชรไม่ต่างจากผู้เป็นนาย แม้จะไม่ชอบที่อีกฝ่ายมีนิสัยที่ค่อนข้างเย่อหยิ่ง แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เมื่อนั่นคือความต้องการของต้องการของผู้เป็นเจ้านาย
"1 ปีเท่านั้น กันต์จะทำให้เพชรรักกันต์ให้ได้" กันต์ธียืนพึมพำอยู่คนเดียวด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข เวลาที่เขาเฝ้ารอกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว
บ้าน ติณณภพ
"คุณพ่อพูดอะไรออกมารู้ตัวไหมครับ เพชรไม่มีวันยอมแต่งงานกับกันต์เด็ดขาด เพชรมีคนรักอยู่แล้วพ่อก็รู้"
น้ำเพชรปฏิเสธออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว เขาอึ้งจนตาค้างไม่ต่างจากมารดาเมื่อรู้ว่าบิดาเข้าบ่อนเล่นการพนันจนหมดตัว ถึงขึ้นที่มาร้องขอให้ลูกไปแต่งงานกับเจ้าหนี้เพื่อชดใช้หนี้สิน
"นิ..นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณพี่ ใช้หนี้อะไรกันตั้ง 200 ล้านภายใน 3 วัน พวกเราจะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหนกันคะ"
คุณนายเดือนแก้วแทบจะเป็นลมเมื่อได้ยินยอดหนี้สินก้อนใหญ่ที่สามีสร้างเอาไว้ เมื่อเธอถามหาโฉนดบ้านถึงได้รู้ว่าสามีได้เอาไปค้ำประกันเงินกู้จนหมดแล้ว
"เพชรช่วยพ่อหน่อยนะลูก ตากันต์ต้องการให้ลูกแต่งงานด้วย แค่ 1 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นลูกก็จะกลับไปเป็นอิสระ ทั้งบ้านแล้วก็บริษัทก็จะได้ไม่ต้องตกไปเป็นของคนอื่นด้วยนะลูก"
พัสกรร้องขอกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา ตอนนี้น้ำเพชรถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับทุกคน นอกจากหนี้สินจะหมดไป เขายังจะได้เงินก้อนอีกตั้ง 50 ล้านมาทำทุนอีกด้วย
"คุณพ่อ! คุณพ่อพูดเหมือนมันง่ายดีนะครับ ถ้าง่ายขนาดนั้นทำไมคุณพ่อถึงไม่แต่งเองล่ะครับ"
"นั่นลูกพูดอะไรออกมาน้ำเพชร ถือว่าช่วยพ่อเถอะนะลูก แค่ปีเดียวเอง"
แม้ว่าพัสกรอยากจะดุด่าบุตรชายแรง ๆ แต่เขาก็ไม่อาจทำได้ตามที่ต้องการ ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงทำให้บุตรชายใจอ่อนและยอมแต่งงานกับกันต์ธีเท่านั้น
"ไม่! ทำไมต้องเป็นเพชร เพชรมีแฟนแล้วนะครับพ่อ ถ้าเพชรทำแบบนั้นแล้วเพชรจะบอกพี่เควินว่ายังไง"
"ถ้าเพชรไม่ช่วยพ่อแล้วใครจะช่วยพ่อล่ะ ก็ตากันต์ระบุมาว่าต้องเป็นลูก"
"ลูก! ลูกอย่างนั้นเหรอครับคุณพ่อ" น้ำเพชรย้ำคำพูดของบิดาอีกครั้งก่อนที่จะมีความคิดอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว
"ใช่"
"งั้นคุณพ่อก็ให้วันใหม่ไปแทนเพชรสิครับ ยังไงคุณแม่ก็เลี้ยงมันเหมือนลูกตัวเองไม่ใช่หรอครับ ให้มันไปอยู่กับกันต์ 1 ปี ถือเป็นการตอบแทนที่ครอบครัวของเราเลี้ยงดูมันมาสิครับ"
คุณนายเดือนแก้วหน้าเสียทันทีที่ได้ยินลูกชายพูดแบบนั้น เธอรีบหันซ้ายหันขวาเพราะกลัวว่าวันใหม่จะกลับมาได้ยินสิ่งที่ครอบครัวของเธอกำลังคิดจะใช้ประโยชน์จากเจ้าตัว
"จริงสิ! พ่อลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ยังไง แต่ถ้าตากันต์รู้ว่าเราเปลี่ยนจากลูกไปเป็นไอ้เด็กนั่น ทางนั้นต้องตามมาเอาเรื่องเราแน่น ๆ เราจะทำยังไงกันดีลูก"
พัสกรกับลูกชายเริ่มคิดหาหนทางเอาตัวรอดไปพร้อม ๆ กับลูกชาย มีเพียงคุณนายเดือนแก้วเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่สองคนพ่อลูกกำลังคิดจะทำ
"จะบ้ากันไปแล้วรึยังไง! คุณจะทำแบบนั้นกับวันใหม่ได้ยังไง สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นคุณที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ แล้วทำไมต้องให้วันใหม่เป็นคนไปรับผลของการกระทำเหล่านั้นด้วย ลูกก็เหมือนกันนะเพชร น้องดีกับลูกขนาดนั้นทำไมลูกถึงคิดแบบนี้กับน้องได้"
คุณนายเดือนแก้วระบายออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าวันใหม่กำลังแอบฟังอยู่นอกห้องรับแขก เด็กหนุ่มพึ่งกลับจากมหาวิทยาลัยแล้วเดินเข้าบ้านหลังใหญ่มาเงียบ ๆ แต่เป็นจังหวะที่ได้ยินสองคนพ่อลูกคุยกัน
"แล้วยังไงล่ะคุณเดือนแก้ว ถ้าผมจะให้ไอ้เด็กนั่นไปอยู่ใช้หนี้ตากันต์ 1 ปี แล้วคุณจะทำไม หรือว่าคุณมีเงิน 200 ล้านมาให้ผมเอาไปใช้หนี้เขาก่อนไหมล่ะ"
"ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยครับคุณแม่ ถือซะว่าให้มันทำเพื่อทดแทนบุญคุณครอบครัวเราที่รับเลี้ยงดูแลมาตั้ง 10 กว่าปี ใช้เวลาแค่ 1 ปี ทดแทน 10 กว่าปีได้ ก็ดีแค่ไหนแล้วครับ หลังจากนั้นเราก็ปล่อยให้มันเป็นอิสระไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกก็ได้นี่ครับคุณพ่อ คุณแม่"
น้ำเพชรยุยงบิดาเพื่อให้หันเหไปที่วันใหม่เด็กชายที่มารดาของเขารับมาส่งเสียเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เพื่อที่ตนเองจะได้หลุดพ้นจากเรื่องบ้า ๆ ที่บิดาก่อเอาไว้
"ใช่ จริงอย่างที่ลูกพูดเลยตาเพชร แต่พ่อว่าทางที่ดีลูกควรจะหลบไปอยู่ที่อื่นก่อนสักเดือนสองเดือนนะลูก รอให้พ่อส่งไอ้เด็กนั่นให้ตากันต์ได้สักพักก่อนลูกค่อยกลับมาจะดีกว่า"
"เอาอย่างนั้นก็ได้ครับคุณพ่อ จริง ๆ วันนี้เพชรกะว่าจะมาขอไปต่างประเทศกับพี่เควินพอดีครับ"
เมื่อน้ำเพชรเห็นว่าผู้เป็นพ่อเห็นดีเห็นงามตามที่ตนเองเสนอจึงเอ่ยขอสิ่งที่ต้องการต่อเลย
"ไปยังไงกันลูกตาเพชร เราไม่ค่อยมีเงินนะ อีกอย่างแม่ก็ไม่เห็นด้วยที่เราเป็นลูกแท้ ๆ จะผลักภาระเรื่องนี้ไปให้วันใหม่รับผิดชอบ"
คุณนายเดือนแก้วเป็นคนเดียวที่เอ่ยคัดค้านจนสองคนพ่อลูกหันมามองด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
"คุณเดือนแก้ว การที่คุณขอรับไอ้เด็กวันใหม่มาเลี้ยงผมก็ไม่เคยว่าอะไร แต่ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำคุณต้องคะยั้นคะยอให้ลูกเราไปลำบาก ทั้ง ๆ ที่ให้ไอ้เด็กนั่นไปแทนก็ได้ หรือคุณรักมันมากกว่าลูกของเราอย่างนั้นเหรอ"
พัสกรเอ่ยถามออกมาอย่างเดือดดาล บ่อยครั้งที่ภรรยาของเขาปกป้องเด็กหนุ่มมากกว่าลูกแท้ ๆ ของตัวเอง
"มะ..ไม่ใช่นะ คุณพูดบ้าอะไรของคุณ ฉันแค่ไม่อยากให้คุณกับลูกทำเหมือนวันใหม่ไม่ใช่คนคุณเข้าใจไหม ที่ผ่านมาคุณยอมให้ฉันเลี้ยงดูวันใหม่ก็จริง แต่มีครั้งไหนที่คุณไม่พูดจาดูถูกเหยียดหยามหรือโยนความผิดที่น้ำเพชรทำให้วันใหม่บ้าง ทั้งคู่โยนความผิดให้วันใหม่รับมาตลอด ฉันเคยคิดว่า 10 กว่าปีที่ฉันรับวันใหม่มาอยู่ที่นี่ มันเป็นการทำร้ายวันใหม่มากกว่าการให้โอกาสเขาซะอีก แม้แต่ตอนกินข้าวคุณยังไม่ยอมให้วันใหม่นั่งร่วมโต๊ะอาหารเลย ไม่เคยมีสักครั้งที่คุณกับลูกจะปฏิบัติกับวันใหม่ให้ดี นี่ยังกล้าให้เขามานั่งรับผิดชอบหนี้สินมหาศาลที่คุณก่อเอาไว้อีกอย่างนั้นเหรอ อึก ฮึก "
คุณนายเดือนแก้วพรั่งพรูความในใจออกมาจนสองคนพ่อลูกต้องเงียบจนไม่กล้าพูดอะไรต่อ เมื่อสิ่งที่เธอพูดออกมาล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ทุกครั้งที่น้ำเพชรทำอะไรผิดพลาดหรือเสียหาย ต้องกลายเป็นวันใหม่ที่ต้องรับผลของการกระทำแทนอีกฝ่าย ทั้งที่พัสกรเองก็รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะทักท้วงสิ่งที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกระทำลงไป
"แล้วยังไงครับคุณแม่ เพราะสงสารมันคุณแม่เลยอยากให้เพชรไปเป็นเมียบำเรอของกันต์เพื่อปลดหนี้ให้คุณพ่ออย่างนั้นเหรอครับ ไม่มีทาง เพชรไม่ยอม!"
"น้ำเพชรอย่างคิดมากสิลูก เอาเป็นว่าลูกรีบเดินทางออกจากประเทศไปซะ เที่ยวให้สบายใจ รอพ่อติดต่อไปค่อยกลับมาดีไหมลูก ส่วนเรื่องทางนี้พ่อจะคุยกับไอ้เด็กนั่นเอง พ่อเชื่อว่ามันต้องยอมไปอยู่กับตากันต์แน่นอน พ่อจะยอมปล่อยให้มันเป็นอิสระไม่มีบุญคุณความแค้นอะไรต้องทดแทนกันอีกเมื่อครบกำหนด 1 ปีตามที่ตากันต์ขอไว้ "
"คุณพัสกร คุณเคยละอายใจกับสิ่งที่ทำลงไปบ้างไหม คุณยังจำเรื่องเมื่อ 2 ปีก่อนได้ไหม วันใหม่ไม่เอาเรื่องคุณก็ดีแค่ไหนแล้ว นี่คุณยังกล้าทำแบบนี้กับเขาอีกหรอ!"
"หุบปาก!"
พัสกรลูบหัวลูกชายเบา ๆ เพื่อปลอบประโลมความรู้สึกของอีกฝ่าย ก่อนจะหันมาตวาดภรรยาด้วยความโมโหที่กล้าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าลูก
วันใหม่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคงหนีไม่พ้นชะตากรรมนี้ ชายหนุ่มร่างบางก้าวขาเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเพื่อบอกให้เจ้าของบ้านได้รู้ว่าเขารับรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว
"วันใหม่!"
คุณนายเดือนแก้วน้ำตาไหลออกมาเป็นทางด้วยความรู้สึกผิดที่เด็กหนุ่มต้องมารับความอัปยศในครั้งนี้ หากเธอไม่รับเด็กหนุ่มมาจากบ้านเด็กกำพร้า บางทีชะตาชีวิตของเด็กหนุ่มอาจจะไม่ต้องเป็นแบบนี้ก็ได้
"แกได้ยินหมดแล้วใช่ไหม ไอ้ใหม่?" พัสกรเอ่ยถามสั้น ๆ เขามั่นใจว่าเด็กหนุ่มต้องได้ยินทุกอย่างที่เขาพูดไปแล้ว ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงไม่เดินเข้ามารับชะตากรรมแบบนี้
"ครับคุณท่าน" เด็กหนุ่มร่างบาง ผิวพรรณนวลเนียน ริมฝีปากกระจับ หากแต่ดวงตาของวันใหม่กลับหม่นเศร้าไร้ความสุขจนน่าเวทนา 10 กว่าปีในบ้านติณณภพ เขาต้องรับความผิดแทนบุตรชายของผู้เป็นเจ้าของบ้านตลอดมา เพื่อแลกกับการศึกษาและที่ซุกหัวนอน
"ดี แกก็รู้จักกับตากันต์มาหลายปีแล้วหนิ ไปอยู่กับเขา 1 ปี เพื่อทดแทนบุญคุณของครอบครัวติณณภพ หลังจากนั้นแกจะกลายเป็นอิสระ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเราอีก ฉันจะไม่เข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของแกอีก ตกลงไหม"
"ครับ"
"ดี น้ำเพชรรีบจองตั๋วเครื่องบินแล้วออกจากประเทศให้เร็วที่สุดเลยนะลูก หลังจากลูกขึ้นเครื่องไปแล้วพ่อจะได้พาไอ้เด็กนี่ไปส่งให้ตากันต์"
"ครับคุณพ่อ เพชรรักคุณพ่อที่สุดเลย"
สองคนพ่อลูกกอดกันอย่างมีความสุข ต่างจากคุณนายเดือนแก้วกับวันใหม่ที่นั่งหน้าเศร้าอยู่