ร่างสูงใหญ่ไหล่ผายกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาดูเศร้าหมอง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักเม้มแน่นขณะเข็ญรถพาน้องสาวที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเข้ามาในห้องพักศพของผู้เป็นแม่
“ฮือๆ ไม่จริง ..ไม่จริง แม่คะ แม่อย่าจากมิลไปแบบนี้ ฮือ ไม่จริงใช่ใหมคะพี่เลอสรร ฮือๆ”
มิลาวรรณนั่งร้องไห้คร่ำครวญเขย่าร่างไร้วิญญาณของมารดา เธอบาดเจ็บมีแผลถลอกตามตัวและศีรษะเล็กน้อย แต่ที่หนักสุดคงเป็นขาด้านซ้ายที่หักจนต้องเข้าเฝือก หมอบอกว่าเธอต้องนั่งรถเข็ญสักพักใหญ่จนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ
เลอสรรยืนนิ่งเงียบเก็บกลืนความเสียใจเอาไว้อย่างหนัก เวลานี้เขาจะต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นเสาหลักให้น้องสาวคนเดียว นับตั้งแต่วันที่เขาเรียนจบ จึงเข้ามาบริหารแทนมารดาเขาสามารถนำพาไร่เสอสรรผ่านวิกฤติจนกลายมาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ มีฟาร์มม้า ฟาร์มวัวนม ไร่ข้าวโพด ไร่กาแฟ และอื่นๆอีกมากมาย อีกอย่างที่เลื่องชื่อของไร่เลอสรร คงหนีไม่พ้นที่พักสุดหรูหรา ไปจนถึงแคมป์ปิ้ง พร้อมชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม จะมีการแข่งขันม้าและกิจกรรมสังสรรค์ทุกอาทิตย์จึงไม่แปลกถ้าที่นี่ติดโพลหนึ่งใน5 รีสอร์ทที่ดีที่สุด
ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี แต่วันนี้กลับต้องมาประสบข่าวร้าย แม่ของเขาต้องด่วนจากไปแบบไม่ได้ร่ำลา ไม่มีโอกาสได้ดูแลตอบแทนพระคุณท่านเลย แม้ว่าพ่อจะยังอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะญาติดีกันเสียเมื่อไหร่ พ่อนอกใจจนต้องหย่ากับแม่นานหลายปีไปมีครอบครัวใหม่และลูกสาวที่น่ารัก แม้จะพยายามติดต่อหาเขาและน้องสาวมาตลอดก็ตาม แต่พ่อจากเขาและแม่ไปนานเกินไป นานจนคิดว่า คงไม่มีความรู้สึกโหยหาความรักจากบิดาอีกแล้ว
“ฮึกๆ.. ใคร ใครมันทำให้เราเป็นแบบนี้คะ ฮืออ มิลเกลียดมัน มันฆ่าแม่มิล ฮือๆ”
เลอสรรโอบต้นคอน้องสาวมาแนบสีข้างพร้อมลูบผมนุ่มเบาๆเพื่อปลอบขวัญ หากแต่ในใจร้อนรุ่มดั่งไฟเผาเมื่อนึกถึงใบหน้ากำไล นังเด็กตัวต้นเหตุคนนั้น
.......................................
สาวร่างบางเดินตัวลีบสวมผ้าถุงกับเสื้อยืดสีดำเข้าไปกราบขอขมาเสี่ยชัชชายถึงงานศพพร้อมด้วยพ่อแม่และสายป่านที่ยื่นพวงหรีดให้กับชัชวาลลูกชายของเสี่ยชัชชายซึ่งออกมาต้อนรับพวกเธอ พิธีสวดอภิธรรมในวันนี้มีนักข่าวประจำท้องถิ่นขอเข้ามาเก็บภาพบรรยากาศในงานการเสียชีวิตของลูกสาวผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งเป็นข่าวสะเทือนขวัญดังไปทั่วจังหวัด เสี่ยไร่กาแฟจำต้องตีสีหน้าเป็นผู้ใหญ่อบอุ่นพร้อมที่จะให้อภัยและลูบหัวเด็กสาวเบาๆเพื่อสร้างภาพ
แต่พอมาถึงงานศพคุณโฉมฉายมีแขกเหรื่อมากมายไม่แพ้กับงานลูกสาวเสี่ยชัชชาย หากแต่ว่า เลอสรรขอพื้นที่ส่วนตัวไม่อนุญาตให้สื่อเข้ามาสัมภาษณ์หรือมาเก็บภาพใดๆทั้งสิ้น ปราณีดันหลังลูกสาวเบาๆเพื่อเดินไปยังโซฟาตัวใหญ่ซึ่งมีคุณเลอสรรและน้องสาวนั่งอยู่
กรวลัยเดินก้มหน้าค่อยๆทรุดนั่งลงบนพื้นแล้ววางพานกรวยขอขมาที่มีธูปเทียนแพ ดอกดาวเรืองและพวงมาลัยวงเล็กคล้องยอดกรวย ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งไม่เอ่ยอะไรในขณะที่น้องสาวจ้องหน้าเธอเขม็ง
กรวลัยโน้มตัวลงไปข้างหน้าแขนทั้งสองข้างติดพื้นตั้งฉากกับข้อศอก มือเรียวเล็กพนมไว้ปลายนิ้วแทบจรดรองเท้าสีดำขัดมันวาววับ หญิงสาวหลับตารำลึกถึงใบหน้าคุณโฉมฉายด้วยความรู้สึกผิด หน้าผากมนก้มลงจนชิดปลายนิ้วโป้ง ตามด้วยน้ำใสๆไหลลงมาอาบ แต่ทว่า.. เขากลับยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นไขว่ห้างแหงนหน้าเชิดเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ ท่ามกลางเสียงฮือฮาของแขกที่อยู่ในงาน เมื่อเลอสรรเจ้าของไร่ผู้เด็ดเดี่ยวไม่ยอมให้อภัย คาดว่าเรื่องนี้ไม่จบลงง่ายๆแน่นอน
“กำไล ป่ะ กลับกัน” สายป่านที่เห็นเหตุการณ์เช่นกันรีบเดินเร็วมาพยุงกายเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเลอสรรที่ส่อแววว่าจะไม่มีวันยอม
“ฮึกๆ หนู หนู ขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” เธอนั่งพนมมือแต้เอ่ยคำขอโทษทั้งน้ำตา
"หึ.. ตายแทนแม่ฉันสิ กรวลัย"
ร่างใหญ่ผลุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินอาดๆไปเตะพานธูปเทียนกระจัดกระจาย กางเกงสแล็คสีดำเฉียดแก้มเนียนผ่านออกไปต้อนรับแขกผู้มาใหม่อย่างไม่ใยดี
...แค่นี้มันยังน้อยไป สำหรับฆาตรกรอย่างเธอ
...............................................
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา291 ตามพระราชบัญญัติกฏจราจรทางบก การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นกฏหมายบทที่มีการลงโทษหนักที่สุดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา90 จำคุก4ปี และปรับ 15000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดลงกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา78 คงจำคุก2ปี และปรับ 7500 บาท..
สิ้นเสียงผู้พิพากษา กรวลัยพยักหน้ารับผลกรรมทั้งน้ำตา เธอและครอบครัวตกลงกันแล้วว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์ใดๆทั้งสิ้นเพราะพ่อแม่ห่วงความปลอดภัยของหล่อน กลัวว่าเลอสรรจะลอบแก้แค้น ปราณีและบุญมีจำต้องยอมห่างลูกสาวสุดที่รักสักสองปี ยังจะดีกว่าต้องเอาชีวิตจนๆมาเสี่ยงกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
กำไลหันหน้าซีดเซียวส่งรอยยิ้มเจื่อนให้กับพ่อแม่และเพื่อนสาวสุดที่รักที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ สายป่านพยักหน้ารับแทนการรับปากว่าจะดูแลพ่อแม่เธอเป็นอย่างดี
หญิงสาวในชุดนักโทษสีส้มขับผิวขาวอมชมพูใบหน้าหวานเรียวสวยหมดจดนั่งตัวลีบในรถเคลื่อนย้ายไปยังเรือนจำ เธอหันไปโบกมือลาพ่อแม่ที่ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจตาย
“ฮืออ นังกำไลเอ้ย ฮือๆ รักษาตัวดีๆนะลูกนะ”
แม้จะรู้ดีว่าลูกจะต้องเข้าคุก พอเอาเข้าจริงๆ ทั้งสองกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ไม่ต้องห่วงนะกำไล ฉันจะดูแลพวกท่านเอง” สายป่านตะโกนร้องบอกเพื่อนสาวทั้งน้ำตา โดยมีคุณภูผายืนโอบไหล่ภรรยาไม่ห่าง
เมื่อดวงตาหันเหไปมองร่างท้วมของเสี่ยชัชชวาลแสดงสีหน้าไม่พอใจยืนพูดคุยเคียงข้างร่างทะมึน ใบหน้าหล่อเหลาสวมแว่นตาดำ เอียงคอมองมายังเธอ ใช่ เธอมั่นใจว่าเลอสรรคงมองมาที่เธอ พร้อมเหยียดยิ้มอย่างสาแก่ใจ ดีแล้วที่แว่นดำปกปิดดวงตาดุน่ากลัวนั้น เธอกลัวเขาจริงๆ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะไม่กลัวผู้ชายที่ชื่อเลอสรร
..ลาก่อน ชีวิตอิสระ...