วันนี้ไรเฟิลเลือกที่จะกลับคอนโดหลังจากส่งน้องสาวอย่างเบบี้เสร็จ เขานึกย้อนถึงแววตาของหญิงสาวที่เขาแสร้งเข้าหาทั้งที่ในใจขยะแขยงแล้วรู้สึกถึงความแปลก
“เฮ้อ ทำไมวันนี้มันเหนื่อยจัง” ชายหนุ่มค่อย ๆ ปลดเนคไทของตัวเองออกให้หลวมเพื่อความสบาย จากนั้นเอื้อมมือไปหยิบหนังสือในตู้โชว์ที่อยู่ในหมวดหมู่ของกฎหมายลงมาอ่าน แม้ว่าเวลานี้เขาควรนอนแล้วก็ตาม
ทางด้านของหญิงสาวหลังกลับจากคลับก็ต้องมุ่งตรงเข้าบ้าน เพราะพ่อบังเกิดเกล้าของเธอที่เพิ่งทะเลาะกันไปเมื่อกลางวันส่งข้อความมาบอกว่าพรุ่งนี้เธอจะต้องไปคุยงานที่บริษัทไรเฟิลแทนท่าน
แม้ว่าจะรู้ทันแผนการแต่แล้วยังไง ในเมื่อชีวิตเธอไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ไม่ทำเธอก็จะเจอแบบเมื่อตอนกลางวัน ทำไปคนที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือก็จะรังเกียจเธอไปเอง
“นายน่าสนใจจัง” ดิสนีย์พูดกับโทรศัพท์อยู่คนเดียวหลังจากที่เปิดรูปของคนบางคนที่ตั้งโปรไฟล์เอาไว้
“แต่คนอย่างฉัน แค่ได้รู้จักคนดี ๆ มันก็มากพอแล้ว” พูดประโยคนี้ทำเอาเธอถึงกับน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเอง เกิดมาในบ้านที่มีเงินทองให้ใช้ แต่กลับไม่เคยมีความสุข
เช้า
“กว่าจะลงมา ฉันนึกว่าต้องให้ฉันไปตาม”
“พ่อให้ดิสไปคนเดียว แล้วพ่อจะมารอดิสทำไมคะ?” เธอย้อนอย่างไม่เกรงใจ มันกลายเป็นเสียงที่ทุกคนในบ้านชินชาไปแล้ว
“ยัยดิส!”
“ขอตัวนะคะ ดิสจะไปคุยงาน ไม่ต้องถาม ไม่ต้องตาม อย่าสั่งให้ดิสทำอะไร ไม่งั้นดิสจะทำให้มันพังลงด้วยมือดิสเอง” หญิงสาวคว้ากุญแจรถสปอร์ตคันหรูที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าพ่อแล้วเดินออกมาเลย
“เฮ้อ” เธอถอนหายใจเพียงคนเดียวและขับรถมุ่งตรงไปยังบริษัทใหญ่ที่มีชายหนุ่มสวมแว่นหนาเป็นเจ้าของ
หลังมาถึงบริษัท ดูเหมือนว่าไรเฟิลจะสั่งให้คนรอต้อนรับเธอเป็นอย่างดี เพราะแค่เธอบอกฝ่ายประชาสัมพันธ์ชั้นล่างสุด เลขาคนเมื่อวานที่อยู่ติดกับเขาก็ลงมารับเธอด้วยตัวเอง
“คุณดิสรอท่านประธานก่อนนะคะ พอดีท่านประธานพาคุณเบบี้ไปโรงพยาบาล กำลังมาค่ะ” พูดจบเลขาสาวก็เดินออกไปทันที แม้จะอยากรู้ว่าเบบี้ที่เลขาคนนั้นพูดคือใคร แล้วทำไมไรเฟิลต้องเป็นคนพาเธอไป แต่ความคิดส่วนดีบอกเธอว่ามันไม่เหมาะสมอย่างแน่นอนที่จะถามออกไป
ครืด ครืด นั่งหย่อนก้นลงโซฟาได้ไม่นาน เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นพอดี หญิงสาวหยิบมารับอย่างไม่รีรอหลังเห็นรายชื่อที่แสดง
“ไงจี คิดถึงฉันเหรอ?” เธอเอ่ยทักทายชายหนุ่มปลายสายโดยไม่ทันสังเกตว่าผู้ชายอีกคนยืนอยู่ที่ด้านหลัง
“ได้สิ งั้นเย็นนี้ไปกินข้าวกัน ฉันคิดถึงนายจะแย่” ไรเฟิลไม่รู้หรอกว่าทางนั้นพูดอะไร แต่ดูจากการสนทนาที่เธอตอบไปแบบนั้น มองยังไงก็ไม่น่าจะใช่เพื่อนกัน และชื่อที่เธอเอ่ยเรียกก็ทำให้เขามั่นใจว่าคนคนนั้นคือคนเดียวกันกับที่ทำให้เขาอยากจะเข้าหาเธอ
“ดิส” ไรเฟิลแสร้งเรียกชื่อและทำเหมือนว่าไม่เห็นเธอที่กำลังคุยโทรศัพท์
“อ้าว สักครู่นะ แค่นี้ก่อนจี เย็นเจอกัน รักนายนะ” ประโยคแรกเธอพูดกับไรเฟิล แต่ประโยคหลังเธอบอกกับปลายสาย คำพูดเธอเมื่อครู่ทำเอาชายอีกคนกำหมัดแน่นและพยายามเก็บสีหน้าอารมณ์ที่จะระเบิดออกมา
“ขอโทษนะครับ เฟิลไม่เห็นว่าดิสคุยโทรศัพท์อยู่”
“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้ดิสเอาเอกสารที่ประธานแจ้งไว้เมื่อวานมาให้ดูข้อเสนอ พร้อมดูเลยมั้ย?” เธอก้มไปหยิบแฟ้มและเปิดหาเอกสารดังกล่าว ทันทีที่เจอหญิงสาวก็ยื่นมันไปตรงหน้าของชายหนุ่ม แต่เขาไม่ได้รับมันเดี๋ยวนั้นเพราะเหมือนกับว่าไรเฟิลใจเหม่อลอยไปชั่วคราว
“เฟิล!!”
“ฮะ! ว่าอะไรนะครับ ขอโทษที” ชายหนุ่มเริ่มรู้ตัวว่าทำพลาดที่เอาแต่คิดเรื่องอื่นอย่างใจจดใจจ่อ
“เป็นอะไรรึเปล่า?” เธอเอียงคอถามด้วยความสงสัย การกระทำนี้มันคงดูน่ารักถ้าไรเฟิลไม่รู้นิสัยแย่ ๆ ของเธอ แต่พอมีบางอย่างเขาก็กลายเป็นว่าอคติกับทุกการกระทำของเธอไปเลย โดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“ป่าวครับ ว่าแต่ดิสรีบกลับรึเปล่า เฟิลอยากจะชวนไปกินข้าวหน่อย”
“มันจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่มั้ง เอาไว้…”
“ไม่เห็นเกี่ยวเลยครับ หรือว่าดิสยังไม่หายรังเกียจผม” ไรเฟิลแสร้งทำหน้าน้อยใจ เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่เขาคิดออกตอนนี้
“ไม่ใช่แบบนั้น เฮ้อไปก็ไป” ไรเฟิลยกยิ้มร้ายโดยที่เธอไม่ทันสังเกตเห็นหลังจากที่เธอตอบตกลง