EP 03 ปล่อยปละละเลย

941 คำ
หลังจากประชุมเสร็จดิสนีย์และพ่อของเธอเตรียมตัวจะกลับ แต่หญิงสาวเกิดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาเลยให้พ่อของเธอไปรอที่รถก่อนแล้ว โดยที่เธอไม่ทันสังเกตว่ามีบางคนเดินตามมาดักรอเธอที่หน้าห้องน้ำ "ขอทางหน่อยค่ะ" ไม่นานหลังจากที่เธอทำธุระเสร็จก็เดินออกมา แต่ถูกขวางด้วยร่างแกร่งของไรเฟิล "ทำไมคุณถึงทำเป็นเหมือนว่าไม่รู้จักผมมาก่อน ทั้งที่เมื่อคืนเรา.." "ดิฉันไม่อาจที่จะเป็นเพื่อนกับนักธุรกิจอย่างคุณได้ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องร่วมงานกัน ขอตัวนะคะ" เธอเตรียมจะหมุนตัวเดินหนี แต่ยังไม่ทันพ้นไรเฟิลดึงแขนเสื้อเธอเอาไว้เล็กน้อย ไม่กล้าที่จะจับตัวของเธอ "ไม่ทราบว่าคุณไรเฟิลต้องการอะไรรึเปล่าคะ?" "ผมอยากรู้เหตุผล แค่เพราะผมเป็นประธานของที่นี่ ทำไมผมถึงเป็นเพื่อนของคุณไม่ได้?" ชายหนุ่มถามด้วยแววตาที่เศร้าลง "แค่กลัวว่าหากมีผลกระทบเรื่องงาน ความเป็นเพื่อนจะทำให้เราทั้งสองลำบากใจ และถ้าไม่เป็นการรบกวน ฉันขอตัวจริง ๆ นะคะ ท่านประธานรอฉันอยู่" สุดท้ายไรเฟิลก็ยอมปล่อยเธอไป เหตุผลที่แท้จริงคือดิสนีย์รู้ว่าการมาของเธอในวันนี้ พ่อของเธอต้องการอะไร เธอรู้ดีว่าหากเธอสนิทกับไรเฟิลมากกว่านี้ พ่อเธอจะใช้เธอเป็นเครื่องมือ และเธอไม่ใช่คนที่ชอบคบใครเพื่อหวังผลประโยชน์เพราะงั้นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า ก๊อก ๆ! ไรเฟิลกลับเข้ามาที่ห้องทำงานของตัวเองได้ไม่นาน จู่ ๆ เสียงเคาะก็ดังขึ้น เขารีบหยิบแว่นที่วางไว้มาสวมใส่และเอ่ยอนุญาตให้คนด้านนอกได้เข้ามา "นายครับ" การ์ดคนสนิทเดินมาหยุดที่ตรงหน้าพร้อมก้มหัวลง "มีอะไร?" "งานที่นายให้ผมไปทำ เรียบร้อยแล้วครับ" "ดี ฉันต้องการให้ผู้หญิงคนนั้นตายใจเรื่องฉันมากที่สุด" แววตาที่ดูใสซื่อในตอนแรกเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว เขาเหมือนเสือร้ายในมุมของคนที่รู้จัก "ผมว่าเรื่องนี้นายคุยกับคุณเบบี้หน่อยดีมั้ยครับ ไม่งั้นหากเธอรู้เข้าจะ..." "เบบี้ใจอ่อนให้กับเธอแต่ฉันไม่ ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าวันที่น้องฉันเจ็บ หัวใจคนเป็นพี่แบบฉันก็เจ็บไม่แพ้กัน เพราะงั้นเธอจะต้องชดใช้" ไรเฟิลขบกรามแน่นเหมือนคนที่กำลังจะระงับอารมณ์โกรธของตัวเองอยู่ "ผมขอตัวครับ" การ์ดเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายก็รีบขอตัวออกไปอยู่ด้านนอก "กูมีอีกอย่างที่จะให้มึงทำ" "ครับ" เขาก้มหน้ารอรับฟังคำสั่ง "ทำยังไงก็ได้ให้เธอต้องเจอกู ต้องเข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตของกู ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม" เขาพูดพลางเอนตัวพิงเก้าอี้และเคาะนิ้วที่โต๊ะ "สถานะไหนก็ได้งั้นเหรอครับ?" การ์ดทวนถามอีกครั้ง "ใช่ สถานะไหนก็ได้ ยิ่งทำให้เธอหลงรักกูในมุมเนิร์ดอย่างนี้ได้ยิ่งดี" "ผมไม่สามารถทำให้เธอมารักนายได้ เรื่องนี้นายอาจจะต้องใช้ความสามารถของตัวเอง แต่เรื่องที่ทำให้เธอเข้ามาอยู่ใกล้นายมากขึ้น ไม่เกินอาทิตย์นี้ผมจะจัดการให้" ชายหนุ่มถึงกับชะงักเมื่อได้ยิน เขาคิดไม่ตกกับคำคำนั้น ความสามารถของเขางั้นเหรอ แค่นึกถึงว่าทำให้ใครรักหัวใจแกร่งกลับปวดหนึบขึ้นมา "เฮ้อ" ไรเฟิลถอนหายใจและหลับตาลงเพื่อพักสมอง วันนี้เจองานหนักมากมาย อะไรที่ไม่สำคัญมากนักเขาก็อยากจะหยุดเอาไว้ก่อน ทางด้านดิสนีย์ หลังจากออกมาจากบริษัทของชายหนุ่มแล้ว เธอนั่งเงียบไม่พูดไม่จาสักนิด เพราะปกติเวลาอยู่กับพ่อ หญิงสาวก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เธอไม่เคยมีความสุขกับคำว่าครอบครัว "ฉันว่าคุณไรเฟิลเขากำลังสนใจแก" ในที่สุดพ่อของเธอก็เปิดประเด็นขึ้นมา "อะไรที่พ่อกำลังคิด หนูบอกได้คำเดียวว่าไม่ทำ" แววตาก้าวร้าวถูกใช้มองคนที่ขึ้นชื่อว่าผู้มีพระคุณ "แกไม่มีสิทธิ์ขัดฉัน โตมามีแต่เรื่องเสียหายหาเรื่องปวดหัวให้ฉันไม่เว้นวัน ถึงเวลาที่แกต้องทำอะไรเพื่อตอบแทนที่ฉันเลี้ยงแกให้โตมาซะบ้าง!" เขาตวาดลูกสาวดังลั่นรถ มันดูเป็นเรื่องปกติของคนขับรถไปแล้ว เพราะทั้งสองมักจะทะเลาะกันบ่อย ๆ หรือแทบทุกวันเลยก็ว่าได้ "คำว่าเลี้ยงของพ่อคือแบบไหนคะ เลี้ยงด้วยการปล่อยปละละเลย พอโตมาก็จะให้ไปจับผู้ชายรวย ๆ เพื่อเป็นหน้าปะ..." เพี้ยะ!! ฝ่ามือหนาฟาดเข้าหน้าของดิสนีย์เต็มแรง พ่อของเธอโกรธจนเส้นเลือดปูนขึ้นมา ใบหน้าของหญิงสาวเองก็ขึ้นรอยมือเช่นเดียวกัน "แกนี่ได้สันดานแม่แกไม่มีผิด เลี้ยงเสียข้าวสุก" "ค่ะ หนูเป็นแบบนั้น แต่มันก็เพราะพ่อไม่ใช่หรือไง" เธอเถียงกลับพร้อมน้ำตาที่คลอ แต่มันไม่ไหล อาจจะเพราะเจอเรื่องแบบนี้จนมันจุกไปหมด "แก!!" "หนูขอตัว" ได้โอกาสเมื่อรถติดไฟแดง ดิสนีย์เปิดประตูลงไปทันที เธอรู้ว่าอยู่ไปก็ทะเลาะกันเปล่า ๆ เลือกที่จะแยกตอนนี้ซะยังดีกว่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม