เช้าวันต่อมา
"จะไปไหนแต่เช้าลูก?" แม่ของชายหนุ่มเอ่ยถามหลังจากเห็นลูกชายที่แสนจะเรียบร้อยในมุมนักธุรกิจ
"วันนี้ผมมีประชุมครับ"
"งั้นมาดื่มกาแฟก่อน เดี๋ยวแม่เตรียมให้" ครอบครัวของไรเฟิลค่อนข้างที่จะอบอุ่นมาก พัคพ่อของไรเฟิลดูแลและเลี้ยงดูเขามาอย่างดี อะไรที่เขาต้องการพ่ออย่างพัคไม่เคยขัด แต่อย่างหนึ่งที่ทำให้พ่อและแม่ของร่างแกร่งแปลกใจมากที่สุดคือจู่ ๆ วันหนึ่งลูกชายก็กลายเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องความรักหลังจากกลับมาจากออสเตรเลียในวันที่รู้ว่าน้องสาวอย่างเบบี้เจ็บปวด
"ขอบคุณครับ" เขาเลือกที่จะไม่ปฏิเสธและเดินตามแม่ของตัวเองมายังห้องนั่งเล่น
"อายุลูกก็เริ่มเข้าสู่ช่วงที่ควรมีครอบครัวแล้ว แม่ไม่เห็นเฟิลจะ..."
"ผมอยากเต็มที่กับงานมากกว่าครับแม่ในช่วงนี้ อีกอย่างผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจด้วย" ทันทีที่พูดประโยคนั้นหน้าของหญิงสาวที่เขาพูดคุยด้วยในคลับเมื่อคืนลอยเข้ามาดื้อ ๆ ไรเฟิลสะบัดหน้าไล่ความคิดที่เป็นไปไม่ได้ออกจากหัว
"เฮ้อ งั้นแล้วแต่ลูกแล้วกัน เห็นทุกวันนี้คอยแต่ตามหวงน้อง แม่คิดว่าเราจะทำให้น้องขึ้นคานและขึ้นตามน้องไปซะอีก" น้องที่แม่ของเขาพูดถึงคือเบบี้ ใคร ๆ ก็รู้ว่าไรเฟิลหวงเบบี้จะตายไป แม้น้องของเขาจะเป็นเสือสาว แต่ยังไงเธอก็คือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในสายตาคนเป็นพี่เสมอ
"แม่ก็พูดไปครับ ผมไปก่อนนะครับ" ก่อนที่คนเป็นแม่จะวนมาเรื่องสร้างครอบครัว ไรเฟิลก็รีบชิงหนีเสียก่อน
บริษัทส่งออก
"ท่านประธานคะ ลูกค้าที่นัดไว้มาแล้วค่ะ พร้อมเลขาคนใหม่ของท่านด้วย" เลขาส่วนตัวของไรเฟิลรายงานให้เจ้านายหนุ่มรู้หลังจากที่เขามาถึงเธอก็เดินตามเข้ามา
"ขอบใจมากคุณเล เตรียมเอกสารให้พร้อม ผมไม่อยากให้มีปัญหาแล้วให้ใครมาว่าได้ว่าเราไม่มืออาชีพ" เลขาสาวก้มหัวรับและเดินจากไป กับเรื่องงานไรเฟิลค่อนข้างที่จะจริงจัง เรียกว่าผู้ชายบ้างานดี ๆ นี่เอง แต่ก่อนเขาไม่ใช่แบบนี้ มันถึงยังเป็นเรื่องที่ทำให้พ่อและแม่ของชายหนุ่มคาใจมาเสมอ
9 โมง เมื่อถึงเวลาประชุม ไรเฟิลเดินมาห้องประชุมใหญ่พร้อมเลขาที่เดินตามมาด้วย ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไป เสียงในห้องที่เคยดังกลับเงียบสงัดลง
"สวัสดีครับ" ลูกค้าของเขาลุกขึ้นเอ่ยทักทายและยื่นมือมาเพื่อจับ แต่ที่ทำให้ไรเฟิลแปลกใจคือการที่ได้เห็นหน้าเลขาคนใหม่ที่เขาได้รับรายงานมา ซึ่งเธอคือผู้หญิงคนเมื่อคืน
"สวัสดีครับคุณบูม" ชายหนุ่มแค่ทักกลับแต่ไม่ได้จับมือ เขาไม่ชอบการสัมผัสตัวของใคร
"นี่ดิสนีย์ ลูกสาวของผมและเลขาของผมครับ" เขาแนะนำเธอให้ชายหนุ่มได้รู้จัก ก็เพื่อหวังที่จะให้ไรเฟิลสนใจในตัวลูกสาวของตัวเอง ดิสนีย์เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มที่เธออยากจะเป็นเพื่อนเมื่อคืนคือลูกค้าของพ่อ เธอไม่แสดงอาการอะไรออกมา พร้อมทำเหมือนว่าจำเขาไม่ได้ด้วย
"ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณดิส ผมเรียกแบบนี้ได้รึป่าว" เขาถามอย่างสุภาพและใช้รอยยิ้มที่ดูจริงใจส่งไปให้เธอ นั่นมันสร้างความพอใจให้พ่อหญิงสาวอย่างมาก ที่ดูเหมือนว่าเจ้าของบริษัทอย่างไรเฟิลดูจะสนใจในตัวลูกสาวของเขา
"ตามที่คุณไรเฟิลสะดวกค่ะ" เธอตอบพรางก้มหน้าลง
"งั้นเราเริ่มประชุมกันเลยดีกว่าครับ" ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องประชุม การทำงานเต็มไปด้วยความเครียด ไรเฟิลกำลังวางแผนที่จะขยายสาขาในการส่งออก เขาบอกแผนงานในการประชุมทั้งหมด และมันดูเหมือนว่าแผนนี้จะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่น
แต่สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จมานับครั้งไม่ถ้วนอย่างเขาแล้ว ยิ่งยากมันยิ่งท้าทาย ยิ่งคนอื่นบอกว่ามันทำไม่ได้เขาก็อยากจะทำมันให้ได้และตลอดเวลาที่ชายหนุ่มนั้นพูดเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ สายตาของดิสนีย์กลับมองการกระทำนั่นด้วยความหลงใหล
"คุณดิสคิดว่าแผนที่ผมพูดเป็นยังไงบ้างครับ?" จู่ ๆ ในขนาดนี้เธอเผลอเขากลับเอ่ยถามเธอขึ้นมา
"คะ?" ดิสนีย์ทำหน้างงที่เธอกลายเป็นคนที่ถูกเลือกให้ออกความคิดเห็น
"ผมอยากทราบมุมมองของคนที่ไม่เคยทำงานกับผม ว่าคิดเห็นอย่างไรบ้าง คุณพอจะตอบได้มั้ย?" ไรเฟิลเลิกคิ้วสูงถามทำให้ทุกคนจับจ้องไปที่เธอ
"ดิฉันคิดว่าดีนะคะ การที่เราทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ แน่นอนว่าหากทำได้สำเร็จ ยากมากที่คนอื่นจะทำตามได้" คำตอบของเธอดูเหมือนจะเป็นที่พอใจ ลุคของเธอที่ดูร้ายไม่ตั้งใจทำอะไรเอาแต่จ้องหน้าเขา มันทำให้น่าแปลกใจอย่างมากที่คำตอบของเธอทำให้ไรเฟิลยิ้มออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ผมชอบทัศนคติคุณมาก หากเป็นไปได้ผมชักอยากจะได้คุณมาเป็นเลขาของผมอีกคน"
"!!!!"