สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าเธอไม่สามารถคลอดลูกเองได้โดยธรรมชาติเพราะเด็กตัวโตมากและเธอต้องได้รับการผ่าตัดคลอดอย่างฉุกเฉินซึ่งในเวลานั้นมัสลินรู้เพียงแต่ว่าเธอจะต้องปกป้องลูกน้อยด้วยการแสดงความยินยอมให้แพทย์และพยาบาลทำการผ่าตัดคลอด และในช่วงเวลาขณะที่หมอทำการผ่าตัดเธอก็แทบไม่รู้สึกตัวเพราะความเจ็บและความเหนื่อยล้า แต่ชั่วแวบหนึ่งของความรู้สึกที่ยังตื่นตัวเธอรับรู้ได้ถึงเสียงของเด็กน้อยเมื่อออกมาจากท้องของเธอได้ยินเสียงนางพยาบาลและหมอพูดคุยกันในห้องผ่าตัดอยู่ตลอดเวลา เธอไม่ได้รับยาสลบแต่เป็นการฉีดยาชาเข้าที่ไขสันหลังหรือเรียกสั้น ๆ ว่าการบล็อกหลังนั่นเอง ตอนแรกคิดว่าเธอจะสามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างง่ายดายแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องพึ่งหมอให้ช่วยผ่าตัดคลอดออกเพราะเธอไม่มีความสามารถที่จะเบ่งให้เด็กตัวโตน้ำหนัก 3 กิโลกรัมกว่า ๆ ออกมาตามธรรมชาติได้ หลังจากได้ยินเสียงลูกน้อยร้องไห้ก็ได้ยินเสียงนางพยาบาลบอกว่าลูกสาวของเธอแข็งแรงดีแล้วร้องไห้เสียงดัง ก็แน่ล่ะเธอได้ยินชัดเจนอยู่แล้วว่าลูกของเธอร้องเสียงดังขนาดไหน มันเป็นความปลื้มปริ่มในหัวใจและในเวลาเดียวกันมันก็เป็นความเจ็บปวดที่แลกมาด้วยความสุขอย่างที่ไม่เคยสุขเช่นนี้มาก่อน มัสลิมลืมตาขึ้นและเอียงหน้าไปทางนางพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างเตียง เธอเห็นเด็กน้อยนอนอยู่ในรถเข็นเด็กหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู และเมื่อรู้สึกตัวตื่นเต็มที่มัสลินจึงส่งเสียงแหบเบาออกมาว่า
“ก็...เริ่มเจ็บนิดหน่อยแล้วล่ะค่ะคุณพยาบาล”
“ยาชาคงจะเริ่มหมดฤทธิ์แล้วล่ะค่ะ ถ้ายังไงคุณแม่ต้องกินยาพาราทุก ๆ 4 ชั่วโมงนะคะ อย่าปล่อยให้เจ็บมากไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวจะเป็นไข้เอาได้นะคะ แล้วเดี๋ยวคุณหมอก็จะให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อช่วยรักษาแผลผ่าตัดด้วยนะคะส่วนลูกของคุณมัสลินเป็นลูกสาว ปลอดภัยดีค่ะน้ำหนักเกือบ 4 กิโลกรัมเลยนะคะ จ้ำม่ำมากเลยค่ะ”
บทที่ 3
นางพยาบาลกล่าวด้วยรอยยิ้ม มัสลินขยับตัวแล้วก็ต้องนิ่วหน้าเพราะเธอรู้สึกเจ็บหน่วงที่หน้าท้องจากรอยแผลผ่าตัดใหม่ ๆ ยาชาเริ่มที่จะหมดฤทธิ์แล้วอย่างที่นางพยาบาลบอกไว้ทำให้เธอขยับตัวได้ไม่ค่อยสะดวกนัก เมื่อมัสลินแสดงอาการเจ็บปวดออกมาทำให้นางพยาบาลรีบเข้ามาถามว่า
“เริ่มเจ็บแผลมากแล้วอย่างนั้นเหรอคะ ไม่ทราบว่ามีคนมาอยู่เฝ้าไข้หรือเปล่าคะเนี่ย?”
“มีค่ะ...เป็นเพื่อนของดิฉันเอง แต่ว่าตอนนี้เขายังมาไม่ถึงโรงพยาบาลเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกนะคะ ถ้าอย่างนั้นแล้วเดี๋ยวดิฉันจะอุ้มเจ้าตัวเล็กให้มากินนมแม่บนเตียงซะก่อนเพราะว่าเด็กเพิ่งคลอดเขาก็จะเริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ ดูสิคะ...รู้สึกว่าลูกสาวของคุณมัสลินจะเริ่มหายใจแรง คงจะหิวแล้วแน่เลยค่ะ”
ว่าแล้วพยาบาลสาวก็หันไปอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นจากรถเข็นแล้วมาวางไว้ที่ข้าง ๆ ตัวของมัสลินซึ่งเธอต้องนอนตะแคงตัวหลังจากนั้นนางพยาบาลก็ช่วยดึงเชือกบนชุดของผู้ป่วยให้หลุดออกก่อนที่จะพูดว่า
“คุณแม่ต้องหัดให้นมลูกตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ จะต้องให้ลูกดูดนมให้เยอะ ๆ แต่ว่าจะมีปัญหาอย่างหนึ่งนะคะว่าคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดน้ำนมอาจจะมาช้าสักหน่อยเพราะฉะนั้นเจ้าตัวเล็กก็จะต้องใช้เวลาดูดนมนานขึ้น ก็อาจจะทำให้เจ็บที่หัวนมได้เพราะว่ายิ่งเด็กดูดมาก ๆ ถ้าน้ำนมยังไม่มาหัวนมก็จะเป็นรอยแตกนะคะคุณแม่”
“ค่ะ...แล้วดิฉันต้องทำยังไงบ้างคะ?”
“ก็ต้องให้เขาดูดจนน้ำนมออกจากเต้าของคุณแม่นั่นแหละค่ะ แต่ไม่เป็นไรนะคะถ้าเจ็บมาก ๆ แล้วน้ำนมยังไม่มาก็สามารถที่จะบอกกับนางพยาบาลได้นะคะ เราก็จะได้เตรียมนมผงเอาไว้ให้เจ้าตัวเล็กเพราะไม่อย่างนั้นแล้วก็คงจะหิวแย่เลย ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณมัสลินจะมาถึงตอนไหนคะ?”
“ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เขาบอกว่าเขาจะมาให้เร็วที่สุด”
“ได้ค่ะ...ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวคุณมัสลินก็ลองให้เจ้าตัวน้อยดูดนมจากเต้าไปก่อน ค่อย ๆ เปิดเสื้อออกนะคะแล้วก็เวลาให้นมลูกคุณมัสลินก็จะต้องระมัดระวัง อย่าเผลอหลับไปนะคะเพราะจะมีบางกรณีที่ลูกดูดนมแม่แล้วแม่เผลอหลับทำให้เต้านมไปเบียดกดที่จมูกทำให้ลูกหายใจไม่ออก อันตรายมากเหมือนกันค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณพยาบาลสำหรับคำแนะนำ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แล้วเดี๋ยวอีกสักครู่คุณหมอที่ทำการผ่าตัดคลอดให้กับคุณมัสลินก็จะเข้ามาตรวจดูและสอบถามว่าอาการคุณมัสลินเป็นยังไง ก็บอกกับคุณหมอไปตามที่คุณมัสลินเป็นอย่างนั้นนะคะ อย่าปิดบังคุณหมอ ไม่สบายตรงไหนก็บอกคุณหมอได้เลยค่ะเพราะคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดอาจจะต้องพักฟื้นนานกว่าคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ ถ้ายังไงดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อนางพยาบาลออกไปแล้วมัสลินจึงหันมาสาละวนอยู่กับการให้นมลูก เธอพลิกตัวเข้าหาและพยายามจัดท่าให้ทารกน้อยได้ดูดนมเธอในท่าที่เหมาะเจาะและสบายที่สุดซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากพอดูสำหรับคุณแม่มือใหม่ ดูเหมือนว่านางพยาบาลก็พยายามให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการให้นมลูกจนกระทั่งสามารถที่จะให้เจ้าตัวเล็กดูดนมในท่าที่เหมาะสมที่สุดซึ่งก็ค่อนข้างทุลักทุเลพอดู และในเวลานั้นมัสลินก็ก้มมองลูกสาวที่อ้าปากดูดนมจากเต้า เธอรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หากทว่าชั่วแว่บของความคิดใบหน้าของใครคนหนึ่งกลับปรากฏขึ้นมาในมโนนึกอีกครั้งใบ หน้าของใครคนนั้นผู้ให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยที่เธอนอนคิดอยู่ชั่วครู่ใหญ่ หรือว่าลูกสาวของเธอควรจะชื่อว่า
มะลิ...นายหนูชื่อมะลิก็แล้วกันนะ น้องมะลิของแม่ น้องมะลิคนสวยของแม่มัสลิน