เธอได้แต่ปลอบตัวเอง ถึงตอนนี้มัสลินเองพยายามสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันจิตใจของเธอและปกป้องลูกเธอ ไม่รู้ว่าระยะเวลาเกือบปีที่ผ่านมาหัสวีร์มีผู้หญิงคนใหม่หรือไม่ เขาอาจจะแค่ตื่นเต้นแล้วก็ดีใจที่ได้เห็นหน้าเด็กคลอดใหม่ก็เท่านั้น แต่เขาคงไม่ได้ดีใจสักเท่าไหร่ที่ได้พบเธออีกครั้งในเมื่อก่อนหน้านี้เขาเป็นคนสลัดเธอออกจากชีวิตของเขาเอง ขณะนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยนั้นและกำลังจะผลอยหลับก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อประตูห้องเปิดออก เธอหันไปและอุทานออกมาเบาๆ
“พี่วีร์” เสียงของเธอราวกับลอยหายไปในสายลมเมื่อร่างสูงใหญ่ของนายแพทย์หนุ่มก้าวเข้ามาในห้องนั้นด้วยความสงบและสุขุม เขาเดินมาหยุดที่ข้างเตียงระหว่างเธอและลูกกระต่ายตัวน้อยที่นอนหลับพร้อมรอยยิ้มแสนหวาน หัสวีร์ชะโงกหน้ามองลูกน้อยของมัสลิน รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนมุมปากของใบหน้าหล่อเหลา เขาหันกลับไปมองหญิงสาวและพูดขึ้นว่า
“ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่าลิน”
“ลินกินยาแล้วก็ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ ว่าแต่พี่วีร์เข้ามาในห้องนี้ทำไมคะ นี่คงไม่ใช่เวลาที่หมอขึ้นตรวจคนไข้หรอกนะคะเพราะพี่วีร์บอกกับลินว่ามีเวรที่จะขึ้นตรวจตอนเย็น แต่ตอนนี้มันค่ำแล้วและมันก็ไม่ใช่เวลาเยี่ยมไข้ด้วยค่ะ”
“พี่ลงเวรแล้วแต่ว่าแค่อยากจะเข้ามาดูลินกับลูกว่าเป็นยังไงบ้าง นี่น้ำนมน่ะออกแล้วเหรอ?”
“ลูกกระต่าย...เอ้อ...ยายหนูก็กินจนน้ำนมมาแล้วล่ะค่ะนั่นน่ะกินนม อิ่มแล้วก็หลับไป ลินเองก็กำลังจะหลับด้วยเหมือนกัน”
“อย่าเพิ่งหลับได้ไหม...คือว่าพี่มีเรื่องที่อยากจะคุยกับลิน”
“สำคัญหรือเปล่าคะ? ถ้าไม่สำคัญเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ วันนี้เหนื่อยมากกว่าลูกจะกินนมเสร็จก็ทำเอาลินเพลียไปเลย”
มัสลินพูดเหมือนไม่สนใจแต่แล้วหัสวีร์ก็ทำให้เธอพบกับความประหลาดใจอย่างที่สุดเมื่อจู่ ๆ เขาวางมือสากหนาเหนือมือเรียวบางที่วางอยู่บนหน้าท้องของเธอ เขาจับมันไว้และบีบเบา ๆ
“ลิน...พี่รู้ว่าพี่เคยทำอะไรกับลินไว้ และมันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ แต่ว่าตลอดระยะเวลาเกือบปีที่ผ่านไปพี่อยากบอกลินนะว่าพี่ยังไม่มีใครและก็...ยังคงคิดถึงเรื่องของเรา”
เธอเลิกคิ้ว “เหรอคะ?...พี่วีร์คิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอคะ”
“พี่ยอมรับนะว่าตอนที่พี่คุยกับลินวันนั้นมันอาจจะเกิดจากความคิดชั่วแล่นของพี่ที่พี่ยังกลัวการมีครอบครัวแล้วจะต้องมีพันธะสัญญา พี่อยากบอกลินว่า...พี่ขอโทษ” น้ำเสียงในตอนท้ายของนายแพทย์หนุ่มน้ำหนักและจริงจัง มัสลินจ้องหน้าเขาชั่วครู่แต่แล้วเธอกลับหยัดรอยยิ้มเหยียดที่มุมปากและตอบกลับไปว่า
“ไม่ต้องขอโทษหรอกนะคะ ลินอภัยให้กับผู้ชายที่เคยทำร้ายจิตใจและเคยทอดทิ้งลินให้ต้องอยู่อย่างเดียวดาย ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำอะไรเอาไว้ ในเวลานั้นรินเหมือนกับตกนรก เหมือนกับตายทั้งเป็น ดีที่ลินยังคงมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ มีพลังที่จะทำให้ตัวเองได้ยืนหยัดและมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออีกลมหายใจ ลินไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องให้อภัยใครอีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะว่าเรื่องนั้นมันจบไปแล้วและลินก็ไม่สามารถที่จะกลับไปยืนที่จุดเดิมได้อีก ไม่เป็นไรหรอกนะคะพี่วีร์ ไม่ต้องขอโทษลินเพราะว่าลินจะไม่ยกโทษให้พี่วีร์อีกเป็นครั้งที่สองค่ะ”
“ลิน...พี่รู้นะว่าพี่มันเลวมากแค่ไหนที่ทำร้ายลินกับลูกได้ถึงขนาดนั้น พี่รู้ตัวดีในตอนนี้ว่าพี่ไม่สามารถที่จะปล่อยลินกับลูกไป... ลินจ๊ะ...พี่อยากบอกอีกครั้งว่าพี่ขอโทษแล้วได้โปรดให้อภัยพี่ได้ไหม”
มัสลินสลัดมือจากการเกาะกุมนั้นและจ้องมองหัสวีร์ด้วยแววตาที่มีทั้งความเจ็บปวดเจ็บช้ำและยิ่งกว่านั้นก็คือเธอยิ่งคับแค้นใจที่เขามาพูดแบบนี้
“บอกว่ายังไงล่ะคะ ว่าลินอภัยให้พี่วีร์และการอภัยให้มันก็ผ่านไปแล้ว แต่ครั้งนี้ที่พี่วีร์เอ่ยขอโทษมันก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปลินไม่คิดจะให้ภัยใครอีกเป็นครั้งที่สอง ออกไปจากห้องนี้นะคะ ไปจากชีวิตของลินกับลูก ถ้าพี่วีร์คิดว่าจะไม่รับลินเป็นคนไข้ก็ไม่เป็นไรลินก็จะขอแจ้งกับนางพยาบาลว่าจะกลับไปอยู่ภายใต้การดูแลของหมอบวรและไม่ต้องการทำการรักษาต่อกับนายแพทย์ที่ชื่อว่าหัสวีร์อีกต่อไปแล้วค่ะ!”
“แต่พี่ต้องรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น” หัสวีร์ไม่ยอมละความพยายาม เขาดึงมือเรียวบางนั้นกลับมากุมไว้อีกครั้ง หากแต่ก็ต้องพบแววตาจริงจังของมัสลินที่จ้องมองเขาด้วยความคับแค้นเธอยิ่งกว่าเกลียด ยิ่งกว่าโกรธ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมามันประดังขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่ฝังใจของเธอติเดือนแลร้องบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
“พี่วีร์จะต้องรับผิดชอบอะไรคะ พี่วีร์ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีกแล้วล่ะค่ะเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาลินอยู่ด้วยตัวเองตามลำพังลินมีลูกและก็ต้องเลี้ยงดูเขาต่อไป พี่วีก็ใช้ชีวิตของพี่วีในโลกที่พี่วีไม่ต้องการมีพันธะผูกพันใด ๆ ลินไม่ว่าหรอกนะคะถ้าพี่วีร์อยากจะมีผู้หญิงคนใหม่ ลินไม่ว่าเลยเพราะตั้งแต่ที่พี่วีร์บอกเลิก ลินก็ทำใจไว้แล้วว่าคนดี ๆ ที่มีฝีมือ ทั้งหล่อแล้วก็รวยอย่างที่วีร์ก็คงจะหาผู้หญิงคนใหม่ได้ไม่ยาก อยากจะมีผู้หญิงสักกี่คนก็ได้ค่ะเพราะลินก็เป็นแค่ตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้พี่วีร์สนุกชั่วครั้งชั่วคราวก็เท่านั้น!”