ตอนที่ 4 แขกคนสำคัญ

1332 คำ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าในมื้อแรกของการเป็นนายหญิงที่บ้านเศวตวิชัยชาญ พรพันวาวางตัวให้เป็นปกติเหมือนบ้านของตัวเอง และให้เกียรตินายหัวธาดาอย่างที่ควรทำ “นายหัวจะรับไข่ลวกกี่ฟองดีคะ” แม่บ้านอวบอ้วนผิวคล้ำตามฉบับคนใต้ถามด้วยภาษาไทยภาคกลางแต่สำเนียงทองแดง คนถูกถามลังเลไปครู่หนึ่งก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาถึงสามนิ้ว แล้วหันมามองเธอ “หยกล่ะจะเอากี่ฟอง” น้ำเสียงเขาฟังดูรักใคร่เอ็นดูเธอ แล้วยังสรรพนามที่เรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนมนั้นอีก พรพันวาจึงต้องยิ้มตอบเขาตามมารยาท “หยกไม่รับค่ะนายหัว ขอบคุณนะคะ” “นายหญิงไม่กินไม่ได้นะคะ ขาจะสั่นเอา” สำเนียงทองแดงที่พูดออกมาตามซื่อด้วยความหวังดี ทำเอานายหญิงวัยยี่สิบสองถึงกับสำลักข้าวต้ม แล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน “แข” ธาดาเรียกชื่อแม่บ้านของเขาเพื่อปรามคำพูดจา ไม่ได้ต่อว่าเพราะเห็นว่าเป็นคนเก่าแก่ที่อยู่มานานแล้ว แสงแขได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มแห้ง ก่อนจะถอยไปยืนรอรับใช้อยู่ที่ด้านหลัง แล้วไม่พูดอะไรรบกวนการรับประทานอาหารของทั้งคู่อีก เสียงฝีเท้าที่เดินฉับๆ เข้ามาอย่างรีบเร่งทำให้ธาดาเงยหน้าขึ้น ลูกน้องของเขาในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงสีดำที่ดูสุภาพเหมือนกันกับลูกน้องคนอื่นๆ ในบ้าน ยกเว้นว่าชายคนนี้มีเข็มกลัดติดหน้าอก “นายครับ คุณเรญามา เธอบีบแตรไม่หยุดจะเข้ามาในบ้านให้ได้” ณรงค์หัวหน้าบอดีการ์ดรายงานด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล พรพันวายังไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ ก็แค่ผู้หญิงที่มาติดพันเขาทำไมต้องเป็นกังวลกันขนาดนั้น นายหัวเอกชัยมีอิทธิพลก็จริงแต่ก็อยู่คนละพื้นที่และไม่น่าจะมีอำนาจมากกว่าเขาแท้ๆ “ให้เธอเข้ามา” ธาดาตัดสินใจตัดปัญหา แล้วมองหน้าภรรยาของตนแล้วส่งสัญญาณว่าเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งสองกินข้าวต้มทะเลตรงหน้าต่อ สักพักเรญาก็มาถึงแล้วเดินไปนั่งที่ด้านซ้ายมือของธาดา พร้อมกับมองหน้าพรพันวาด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ “มีข่าวลือว่านายหัวแต่งงาน จริงหรือเปล่าคะ” คำถามนั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่เอาแต่ใจ ทั้งๆ ที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน “คุณเรญาครับ นี่หยกภรรยาของผม” เขาแนะนำเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปทางภรรยาสาว “หยกครับ นี่คุณเรญา ลูกสาวนายหัวเอกชัย” น้ำเสียงที่อบอุ่นและนุ่มนวลต่างออกไปอย่างชัดเจน ทำให้แขกผู้มาเยือนถึงกับกำหมัดแน่นและทำตาแข็งกร้าวใส่ภรรยาเจ้าของบ้าน “สวัสดีค่ะคุณเรญา” พรพันวาเริ่มรู้สึกถึงความ ‘แรง’ ของหญิงสาวตรงหน้า เธอเข้าใจธาดาแล้วและไม่โทษที่เขาพูดถึงเธอลับหลัง เพราะเท่าที่ดูผู้หญิงตรงหน้าก็แรงอย่างที่เขาพูดเอาไว้จริงๆ “จะไม่ชวนเรย์กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอคะ” น้ำเสียงนั้นเปลี่ยนเป็นออดอ้อนแล้วทำสายตาขอความเห็นใจจากธาดาที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ “แขจ๊ะ ตักข้าวต้มให้คุณเรญาเพิ่มอีกที่ แล้วก็ขอไข่ลวกให้ฉันเพิ่มสองฟองนะจ๊ะ” พรพันวาหันไปบอกแม่บ้านวัยสามสิบ “ได้ค่ะนายหญิง” แสงแขรีบทำตามที่บอก สายตาของเรญามองมาอย่างไม่พอใจ หลังการเข้าหอแล้วขอเพิ่มไข่ลวก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการเข้าหอเมื่อคืนหนักหน่วงแค่ไหน “นายหัวจะเพิ่มไข่ลวกไหมคะ สามฟองพอหรือเปล่า” พรพันวาถามสามีด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย แสดงบทบาทภรรยาสาวที่รักใคร่กันอย่างแนบเนียน “พอแล้วครับหยก คุณน่ารักกับผมมาก” เขาพูดแล้วมองภรรยาด้วยแววตาที่อ่อนโยน เรญารู้สึกเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ ริมฝีปากแดงเรื่อเม้มแน่น แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ ความร้อนรุ่มในหัวใจตอนนี้แผดเผาจนอกเธอแทบจะระเบิดออกมา “คุณเรญารับไข่ลวกด้วยไหมคะ” แสงแขถามเผื่อว่าแขกต้องการบ้าง “ไม่เอา!” หญิงสาวพูดเสียงดังอย่างไม่รักษามารยาท พรพันวาเข้าใจแล้วว่าทำไมธาดาจึงไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้ว่าเป็นไบโพล่า โรคจิต หรือเป็นโรคคุณหนูเอาแต่ใจ ‘หรือโรคบ้าผู้ชาย เขาแต่งงานแล้วยังจะมาวอแวอีก’ หญิงสาวอดคิดหมั่นไส้ไม่ได้ มองสีหน้าของธาดาตอนนี้ก็คงอึดอัดกับแขกคนนี้ไม่น้อย “รีบกินสิคะ วันนี้เรายังมีอะไรต้องทำอีกเยอะแยะ” เธอเตือนสามีแล้วยิ้มให้เขา พร้อมกับตอกไข่ลวกที่แสงแขนำมาให้ใส่ข้าวต้มแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย “นายหัวจะเข้าไปบริษัทไหมคะ ฉันอยากจะคุยธุระด้วย เรื่องเส้นทางการเดินรถที่จะวิ่งร่วมกัน” เรญาเอาข้ออ้างเรื่องงานมาพูด เพื่อหาทางอยู่กับเขาเป็นการส่วนตัว “เข้าตามปกติค่ะ ถึงจะแต่งงานแล้วแต่เราก็ไม่ได้หยุดงาน และวันนี้ฉันเองก็จะเข้าไปดูงานที่ด้วย” พรพันวาพูดเจื้อยแจ้วตอบแทนสามีทั้งหมด ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้แก่สาวสวยวัยสามสิบต้นๆ ตรงหน้า ธาดารู้สึกว่าภรรยาสาวคนนี้ไหวพริบดีมาก แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็เล่นบทเมียเด็กได้สมบทบาท แล้วยังคำพูดคำจาที่ทำเอาเรญาพูดไม่ออกอีก ทำให้เขาพอใจไม่น้อย แขกผู้มาเยือนข่มอารมณ์พยายามไม่ตอบโต้ แม้จะหลุดเหวี่ยงวีนกับสาวใช้ไปบ้างแต่ก็เก็บอาการไม่ทำแบบนั้นกับพรพันวา ทั้งๆ ที่อยากตรงเข้าไปบีบคอระหงขาวเนียนให้เป็นรอยช้ำเต็มที ธาดามีบริษัทเดินรถขนส่งผู้โดยสารเส้นทางหลักในภาคใต้ที่เป็นเจ้าของสัมปทานการเดินรถ และเป็นเจ้าของบริษัทขนส่งสินค้าเอกชนรายใหญ่ พ่อเธอเองก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสัมปทานจากเขาให้เดินรถในเส้นทางสายหลักร่วมกัน แต่จะดีกว่านี้หากได้ร่วมเกี่ยวดองกับเขา ได้รวมธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเสริมความยิ่งใหญ่ และเธอก็จะได้สามีที่ทรงอำนาจที่สุดด้วย แต่ตอนนี้ทุกอย่างพังทลายลงเพราะหญิงสาวหน้าใสที่นั่งอยู่ตรงหน้า หากไม่มีพรพันวาสักคนธาดาอย่างไรก็ต้องแต่งงานกับตนแน่ “งั้นนายหัวจะว่างคุยกับฉันตอนไหนคะ ต้องนัดเอาไว้หรือเปล่า” เธอเขี่ยข้าวต้มไปมาไม่ยอมตักกินเสียที เอาแต่มองจ้องที่ธาดาแล้วแจกรอยยิ้มหวานให้แก่เขา ธาดาไม่อยากพูดไม่ดีกับอีกฝ่าย เขาพยายามรักษามารยาทให้มากที่สุด และดูเหมือนพรพันวาจะรู้ทันความคิดของเขาจึงเป็นฝ่ายออกตัวพูดแทนอีกครั้ง “ถ้าคุณเรญาจะคุยเรื่องงานจริงๆ ละก็นัดเอาไว้เลยค่ะ หยกเองก็จะได้เรียนรู้งานจากนายหัวและคุณเรญาไปในตัวเลย แต่วันนี้ยังก่อนนะคะ หยกอยากเรียนรู้งานก่อน” เธอหันไปบอกสามีในตอนท้าย “ยังไงก็ได้ครับ ผมแล้วแต่หยกเลย” น้ำเสียงนั้นแสดงความเอ็นดูต่อภรรยา เรญาได้แต่เข่นเขี้ยวอย่างขัดใจ ไม่เคยเห็นธาดาเป็นแบบนี้มาก่อน อย่างน้อยแต่ก่อนเขาก็ยังพูดคุยกับเธอบ้าง แต่พอมีผู้หญิงคนนี้เข้ามาก็เหมือนว่าจะให้ความสำคัญกับเธอน้อยลง ความริษยาของหญิงสาวบดบังหัวใจ แต่งงานไปแล้วทำไมล่ะ เธอไม่สนใจหรอก แต่งงานได้ก็เลิกได้เหมือนกัน! ************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม