ริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
เสียงออดหน้าห้องของศิริยาดังขึ้น ในขณะหญิงสาวกำลังจัดโต๊ะอาหารรอธนาและสุภามาทานข้าวเย็นด้วยกันในค่ำคืนนี้ เพื่อเป็นการเลี้ยงส่งเธอ
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
“จ้า ๆ ไปแล้วจ้า...” เมื่อได้ยินเสียงออดดังอีกครั้ง ศิริยาเลยร้องออกมาด้วยความเร่งรีบพร้อมกับวิ่งไปเปิดประตูให้ผู้มาใหม่
“พี่หมอมาเร็วจังเลยนะคะ” เมื่อเปิดประตูออกเห็นว่าเป็นใครก็เอ่ยถามทันที เพราะตอนนี้มันเพิ่งจะทุ่มครึ่งเอง กว่าจะถึงเวลานัดก็เหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมง
“พี่ตรวจคนไข้เสร็จก็มาเลยจ้ะ พี่กลัวว่ารถจะติดเลยมาเร็ว”
“งั้นเข้ามาข้างในห้องก่อนค่ะ ตอนนี้ก็รอแค่ยัยภามาเท่านั้นค่ะ ส่วนอาหาร ศิทำเสร็จแล้วค่ะ คิก ๆ” เอ่ยชวนธนาเข้ามานั่งรอในห้องก่อน
“จ้า” แล้วธนาก็เดินตามศิริยาเข้ามานั่งลงที่ห้องรับแขก
“พี่หมอจะรับอะไรไหมคะ เดี๋ยวศิจะไปเอามาให้รองท้องก่อน กว่ายัยภาจะมาค่ะ” เมื่อเห็นธนานั่งลงแล้วหญิงสาวจึงเอ่ยถามว่าเขาจะทานอะไรก่อนไหม เพื่อที่จะได้ไม่หิวในระหว่างรอสุภามา
“พี่ขอน้ำเปล่าเย็น ๆ สักแก้วแล้วกันนะ”
“จ้า รอแป๊บนึงนะคะ” แล้วก็เดินหายออกไปจากห้องรับแขก เพื่อจะไปเอาน้ำมาให้ธนาทาน ไม่นานนัก ศิริยาก็เดินกลับเข้ามาในห้องรับแขกอีกครั้งพร้อมกับน้ำเปล่าเย็น ๆ หนึ่งแก้วตามที่หมอหนุ่มขอ
“มาแล้วค่ะพี่ธนา”
“อืม...มาเร็วดีจัง” ธนาเอ่ยด้วยท่าทางยิ้มแย้ม
“พี่หมอดูอารมณ์ดีมาก ๆ เลยนะวันนี้” ศิริยาเอ่ยแซวธนาด้วยความสงสัยก่อนจะนั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้ามกับเขาเพื่อจับผิด "มีอะไรดี ๆ เหรอคะ"
“มะ...ไม่นี่! พี่ก็อารมณ์ดีแบบนี้ทุกวันนะ” ธนาหลบตาเวลาตอบ
“ฮะ ๆ เสียงสูงเชียว แบบนี้ไม่มีไม่ได้แล้วค่ะ” มีหรือที่ธนาจะปิดพิรุธของตัวเองให้พ้นสายตาของน้องสาวคนนี้ไปได้
“เอาน่า...พี่บอกไม่มีก็ไม่มีนะน้องรัก” จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ไง ก็ในเมื่อตอนบ่ายของวันนี้เขาได้รู้ใจตัวเองหลังจากศิริยาขอตัวกลับ เขาเลยนั่งคิดทบทวนคำพูดของเธอก่อนที่จะกลับอยู่หลายครั้งต่อหลายครั้งจนรู้แล้วว่าคน ๆ นั้นที่ว่าป็นใคร ธนาจึงดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แทนที่จะเศร้าเรื่องโดนปฏิเสธในรักที่เขามอบให้ แต่กลับดีใจที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ เพราะมันจะทำให้เขารู้ใจของตัวเองมากขึ้นว่าแท้จริงแล้วนั้นไม่ได้รักหญิงสาวอย่างที่เธอว่าจริง ๆ เพราะความรักที่หมอหนุ่มมีให้ศิริยานั้นมันเป็นแค่ความรักแบบพี่น้องเท่านั้นเอง
“ไม่มีแล้วทำไมหลบตาศิล่ะ” เอ่ยถามด้วยเสียงแข็ง
กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!
ขณะธนากำลังคิดหาคำตอบศิริยาอยู่นั้นก็มีเสียงระฆังดังช่วยเขาขึ้นมาทันเวลาพอดี เลยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“เฮ้อ!"
“ถือว่าพี่รอดตัวไปนะคราวนี้”
ศิริยาเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องให้ผู้มาใหม่
“ภาเข้ามาเลยพี่หมอมารอก่อนแล้ว” เมื่อเปิดประตูออกเห็นว่าเป็นสุภาหญิงสาวก็รีบชวนเข้าห้องทันที
“จ้า ภายิ่งกลัวมาช้าอยู่ คิก ๆ”
สุภาเร่งรีบสุด ๆ ตอนที่ออกเวรจนลืมเปลี่ยนชุดก่อนออกมาเลย
“เอ้า...พี่หมอมานานแล้วเหรอคะ” เมื่อเดินเข้ามาในห้องรับแขกสุภาก็ทักธนาทันทีเหมือนทุกครั้งที่เคยทัก แต่ครั้งนี้กลับแปลกที่ธนาหันมามองเธอ ยิ้มหวานให้ไม่หุบเลยจนเธอเขิน
“อะแฮ่ม! จะยิ้มหวานให้ภาอีกนานไหมพี่หมอ” สังเกตเห็นความผิดปกติของธนาได้ชัดจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ “ภา เธอก็จะอะไรนักหนายืนเขินอยู่ได้ไปนั่งเร็ว”
เมื่อแซวธนาเสร็จ ศิริยาก็หันมาแซวเพื่อนรักของตัวเองอีกคนที่เอาแต่ยืนเขินม้วนอายไม่ยอมไปนั่งสักที
เผียะ!
“อุ๊ย! เจ็บนะยัยภา” เอ่ยแซวสุภายังไม่ทันขาดคำดีนักสุภาก็ตีต้นแขนหญิงสาวทันที
“ก็ใครใช้ให้เธอแซวฉันยัยศิ” สุภาเอ่ยพร้อมกับเดินไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามธนา
“เอาละ ๆ อย่าพูดกันอีกเลย พี่ว่าเรากินข้าวกันเถอะนะ พี่หิวแล้ว” เมื่อออกมาจากวังวนความรักได้แล้วก็หันมาห้ามสองเพื่อนซี้ พร้อมกับเอ่ยชวนไปทานข้าว
“งั้นก็ไปทานกันได้เลยค่ะ ศิตั้งโต๊ะรอแล้ว” แล้วก็เดินนำทุกคนไปที่โต๊ะอาหาร เมื่อทุกคนตามมานั่งลงเรียบร้อยแล้ว เจ้าของห้องก็ตักข้าวให้ทุกคนก่อนที่จะไปนั่งที่ของตัวเอง
“ว้าว! หมูผัดผงกะหรี่ของโปรดภาเลยศิ ขอบคุณนะ” เมื่อนั่งลงเห็นอาหารตรงหน้า สุภาก็ร้องออกมาด้วยความปลื้มใจที่ศิริยาทำของโปรดให้ทาน
“ฉันรู้ว่าแกและพี่หมอชอบ ฉันเลยอยากทำอาหารมื้อสุดท้ายนี้ให้แกกับพี่หมอทาน” ศิริยาเอ่ยด้วยเสียงเศร้าสร้อย
สุภาสะดุดกับคำว่าอาหารมื้อสุดท้ายของเพื่อนรักจึงชะงักมือที่กำลังจะตักอาหารลงทันที “แกหมายความว่าไงศิ?”
“ก็คือว่า...”
“ภาชอบหมูผัดผงกะหรี่เหมือนพี่เลย” ศิริยาเอ่ยยังไม่ทันจบประโยค ธนาก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อนด้วยความดีใจที่เขาและสุภามีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพลงก็ชอบฟังเพลงของ Bodyslam เหมือนกันกับเขา ไหนจะอาหารโปรดอีก
“พี่หมอหยุดพูดก่อนได้ไหมคะ ภาจะคุยกับศิให้รู้เรื่องก่อน” สุภาเอ่ยห้ามธนาด้วยความขัดใจ
“ครับ” แล้วธนาก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวอย่างเงียบ ๆ โดยที่สองสาวร่วมโต๊ะนั้นมัวแต่คุยกัน จนตอนนี้เขาอิ่มสองสาวก็ยังคุยกันไม่เสร็จเลย
“ศิ แกคิดดีแล้วเหรอ?” สุภาเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความใจหายที่ศิริยาจะไปนิวยอร์กปันจุบันทันด่วนแบบนี้
“อืม...ศิคิดดีแล้วภา อีกอย่าง ข้อเสนอของเขาก็ดีนะ เราเลยตัดสินใจไป” ศิริยารู้ว่ามันเร็วไปจนสุภาตั้งตัวแทบไม่ทัน อย่าว่าแต่สุภาเลยที่ตั้งตัวไม่ทัน เธอก็ยังตั้งตัวไม่ทันเลย แถมเวลาตัดสินใจก็ไม่มี เธอจึงรีบตกลงคว้าโอกาสนี้ไว้ก่อนที่มันจะหลุดมือไป
“ถ้างั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะถามอีกแล้ว ฉันขอให้เธอโชคดีนะศิ และติดต่อมาบ้างนะ ฉันคิดถึง แล้วเธอไปแบบนี้ ใครจะทำกับข้าวอร่อย ๆ เลี้ยงฉัน” สุภาเอ่ยจากใจจริงของเธอ หญิงสาวทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่ง จนกระทั่งตอนนี้ได้มาทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกันจึงทำให้ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาก
“จ้า ฉันจะโทร.หาเธอทุกวันเลย และพี่หมอด้วย” ศิริยารู้ว่าสุภาเอ่ยออกมาจากใจจริง ๆ
“อย่าเศร้ากันเลยนะ กินข้าวเถอะ คุยกันนานจนพี่กินข้าวอิ่มแล้ว” ธนาเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง สองสาวยังไม่ทานข้าวเลย ส่วนเขานั้นอิ่มเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ” ศิริยาเป็นคนเอ่ยขึ้น
“ศิพรุ่งนี้พี่กับภาจะไปส่งเราที่สนามบิน กี่โมงบอกพี่ด้วยล่ะ” ธนาเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกจากโต๊ะอาหารเพื่อที่จะปล่อยให้สองสาวทานข้าวกัน
“จ้า” ศิริยาร้องไล่หลังธนาไป
“เราทานกันเถอะศิ” สุภาชวนศิริยาลงมือทานข้าว ตอนนี้อาหารทุกอย่างเย็นหมดแล้วแต่ก็ไม่ทำให้ความอร่อยของอาหารลดลง
ธนาจะรู้ไหมว่าคำพูดทิ้งท้ายของเขาที่จะเดินออกไปนั้นมันทำให้สุภาเจ็บแค่ไหนที่เห็นคนที่ตัวเองแอบรักเป็นห่วงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ แต่หญิงสาวก็รู้ว่าธนารักเพื่อนสาวของเธอ จึงพยายามเก็บงำความรู้สึกนี้มาตลอดเวลาสี่ปีเต็ม
“ภา...ศิรู้นะว่าภาคิดยังไงกับพี่หมอ” ศิริยาเอ่ยขึ้นในขณะสุภากำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนมือของสุภาต้องชะงักกับคำพูดที่ได้ยิน ซึ่งตอนนี้ทั้งสองทานข้าวอิ่มแล้ว
“คิดอะไรศิ” สุภาพยายามทำหน้าตานิ่งขรึมไม่ให้ถูกจับพิรุธได้ แต่ก็ปิดไม่มิดอยู่ดี
“ก็รักพี่หมอไงภา” เอ่ยเพียงสั้น ๆ ได้ใจความจนทำให้สุภานิ่งอึ้งไปเลยกับสิ่งที่ได้ยิน
“ศิอย่าพูดดังไปนะ เดี๋ยวพี่หมอรู้” สุภารู้ว่าปิดยังไงก็ปิดไม่มิดจึงเลือกห้ามไม่ให้ศิริยาพูดเสียงดังไป
“จ้า ภาไม่ต้องกลัวนะ ศิเอาใจช่วย ระหว่างที่ศิไม่อยู่เมืองไทย จีบพี่หมอให้ติดนะ”
“เอ้า! ศิไม่โกรธภาเหรอที่ภาแอบชอบพี่หมอ?” สุภากลัวว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเพื่อนขาด เธอจึงได้แต่เก็บงำความรู้สึกมาตลอดจนกระทั่งวันนี้ที่ศิริยารู้ทัน
“จะโกรธทำไม เราไม่ได้คิดอะไรกับพี่หมอสักหน่อย อีกอย่าง เราก็รู้ด้วยว่าภาแอบชอบพี่หมอมานานแล้ว” อธิบายความจริงให้สุภาได้รับรู้ว่าเรื่องระหว่างเธอกับธนานั้นสุภาคิดไปเอง