ตอนที่ 4

1463 คำ
ทุกคนจะดีใจเหมือนกันที่อาเป็นฝั่งเป็นฝาได้ มีครอบครัวของเขา ทุกคนรอคอย อยากให้เขามีพร้อมเหมือนคนอื่น ดุจเช่นหลานสาวอย่างเธอ ที่นึกห่วงใยอาเหมือนกัน ในเรื่องที่ว่า กลัวได้ผู้หญิงที่ไม่ดีมาเป็นคู่ครอง แต่ถึงอย่างไรก็ตามที ศุกุลยาไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินชีวิตของอาได้เลย “ งั้น อาไปก่อนนะ เธอก็เหมือนกัน เมื่ออาไม่อยู่ ก็ช่วยดูแลบริษัทแทนอาหน่อย แล้วสุขภาพก็ดูแลตัวมากหน่อยนะ เดี๋ยวนี้กรุงเทพเรา ไม่รู้เป็นหน้าไหน หน้าร้อนหน้าหนาว ฝนก็ตกหนักได้ตลอดปี เธอจะเป็นไข้ ” “ขอบคุณค่ะ อา ขอให้อา ห่วงสุขภาพเหมือนกัน ” จากนั้นรามินลงไปข้างล่าง ไม่นานนักก็ขับรถคันหรูปร๋อออกไปข้างนอก กั้งยังนิ่งฟังเสียงรถอยู่เลย และชะโงก มองทางหน้าต่างอีกครั้ง เมื่อรถแล่นเลยประตูรั้วใหญ่ไปแล้ว ศุกุลยาจึงค่อยหันมาจัดการกับธุระส่วนตัวของตัวเอง หล่อนอาจจะเข้าบริษัทช้าหน่อยวันนี้ แต่ก็ยังดีที่มี พุกิม ซึ่งเป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนสนิทที่สามารถไว้ใจได้ เพราะพุกิมเรียนจบจากที่เดียวกับเธอ เขามีปัญหาเรื่องการหางานจึงมาขอความช่วยเหลือกับศุกุลยา หล่อนเห็นว่าทางบริษัทกำลังต้องการคนพอดี พุกิมเข้ามาถามหล่อนถูกช่วงเวลาพอดี จึงรับเขาเข้าทำงาน หล่อนทราบข่าวว่า พุกิมเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ทุกคน ก็รู้สึกสบาย ในบริษัทของบิดามีพนักงานเก่าๆ รุ่นอาวุโส ที่อยู่มานาน ไม่กี่คนหรอก นอกจากอารามินของเธอจะเป็นคนหนึ่ง และท่านเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทร่วมกับบิดาอีกคน คุณแววนภาพนักงานบัญชีอาวุโส คุณสุพัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายภาคอาวุโส ดูแลกิจการของบริษัทที่ต่างจังหวัดหมดแทบจะทุกภาค ถือว่าเป็นงานที่หนักพอสมควร แต่ท่านเหล่านี้ก็ทำให้บริษัทมีความไว้วางใจตลอด มีส่วนผลักดันให้บริษัทเกิดความพัฒนาแล้วก้าวไกลอย่างในปัจจุบันนี้ เป็นฝีมือของทุกฝ่ายที่ร่วมแรงร่วมใจกัน อุทิศลมหายใจทั้งทุ่มเทเพื่อบริษัท นับว่าทุกคนเป็นบุคลากรชั้นเยี่ยมของบริษัท อดห่วงไม่ได้ เมื่ออาของหล่อนมีความรัก เขาใช้ลูกตื้อกับคนรัก ถึงแม้ศุกุลยาไม่เคยเห็นหน้าตานอกจากรูปถ่าย แต่ก็อยากจะเห็นสักครั้ง เพราะดูเหมือนว่า อาของหล่อนไม่เคยควงไปในงานต่างๆเลย มีแต่คนที่คุ้นหน้ากันเท่านั้น ซึ่งเห็นมานานแล้ว อย่างรัชนีพลอย นพนิภา ซึ่งดูๆแล้ว บรรดาสาวเหล่านี้ไม่ใช่ตัวจริงของอาหนุ่มหล่อน คบกับมานานแล้ว แบบธรรมดา เหมือนเพื่อนสนิทมากกว่า บางคนก็เป็นคู่นอน อย่างรัชนีพลอย ความจริงรัชนีพลอยต้องการจับอาของหล่อน แต่ไม่สำเร็จเมื่ออาของหล่อนให้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น รัชนีพลอยยังเฝ้าหวังไปกว่านี้อีกหรือเปล่า หลายปีแล้วที่หล่อนพยายามแต่ก็ไม่สำเร็จ อาของหล่อน ไม่ใช่ผู้ชายที่หญิงสาวคนไหนจะจับได้ง่าย ถ้าหากเขาไม่ชอบและยินยอมเอง และเขาไม่เคยจีบผู้หญิงคนไหนอย่างเป็นจริงเป็นจัง นอกจากสาวชาวไร่ที่ว่านี้ศุกุลยาจึงมั่นใจว่าต้องเป็นคนนี้แน่ เพราะอาของหล่อนส่วนมากผู้หญิงจะเป็นฝ่ายมาจีบมากกว่าเขาจะจีบผู้หญิง ด้วยสิ่งเหล่านี้เองที่ศุกุลยาว่ามันแปลก ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นอาชายสนใจใครอย่างจริงจังขนาดนี้ แสดงว่าหญิงสาวคนนี้ เป็นคนที่มีอิทธิพลในใจของอาหนุ่มได้มากทีเดียว อาหนุ่มจึงคล้ายกับมีอาการพร่ำเพ้อละเมอหา เหมือนคะนึงหาหญิงสาวผู้อยู่ไกลคนนั้นเสมอ ศุกุลยามองเห็นภาพ ทุกครั้ง พยายามคิดตาม อารามินของหล่อนคิดอะไรกันอยู่หนอ ทำท่าเคลิ้มฝัน ฝันหวาน เหมือนหนุ่มน้อยริเริ่มหาคู่ แล้วก็พบคู่ที่ถูกใจ สีหน้าสดชื่น บนฝีปากก็มีรอยยิ้ม เห็นแล้วศุกุลยาก็เดาว่า อาหนุ่มเริ่มจะมีความรักแหง๋ และก็คงเป็นรักแท้ด้วย เพราะถ้าเป็นรักเทียม คงไม่ใส่ใจ ถวิลหาถึงเพียงนี้ สุขอย่างที่ไม่เคยสุขมาก่อน พุกิม เพราะการได้มีงานทำ และมีเงินใช้ เงินเดือนเดือนแรกออกแล้ว เป็นจำนวนเงินที่เขาพึงพอใจ เพราะมาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ต้องขอขอบคุณ ศุกุลยา ที่มีน้ำใจตอบแทน เพื่อน ที่หลังจากเรียนจบแล้ว ก็ได้ทำงาน เพราะเพื่อน ไม่ต้องเดินย่ำเท้าหางาน จนร้องเท้าสึกไปเหมือนหลายคน ถือว่าโชคดีแล้วที่รอดตัว เพราะเศรษฐกิจของชาติประเทศทุกวันนี้ก็รู้ๆกันอยู่ ค่าเงินบาทแข็งตัว จำนวนหลายแสนที่ตกงาน ล้วนแต่ระดับบัณฑิตที่จบการศึกษา ทั้งใหม่เก่าปะปนกัน เมื่อเก่ายังหางานทำไม่ได้ จบใหม่ก็มาซ้ำ กลายเป็นคนไร้งาน ล้นประเทศ บริษัทพากันปิดตาย เพราะไม่มีปัญญาจ้าง ค่าเงินบาทแข็งตัว เกิดจากต่างประเทศพ่นพิษ ทั้งค่าราคาน้ำมันในตลาดโลก มีผลพวงกระทบกันเป็นลูกห่วงลูกโซ่ ทุกประเทศ ไม่เพียงเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ที่ตกอยู่ในห้วงวิกฤติเช่นนี้ ยุคนี้โจรกลางเมืองมีเพียบ ล้วนแต่มาจากคนที่แต่งกายหน้าตาดีๆทั้งนั้น คนสิ้นไร้ไม้ตอก อับจนหนทางแล้วในที่สุด ก็ก่อความชั่ว ยุคนี้เป็นช่วงกลียุคกลางๆ หลวงพ่อหลวงน้าที่วัดก็เคยสอน หนังสือก็มีอ่าน พ.ศ.สองพันห้าร้อยห้าสิบปี จากที่เริ่มกาลกลียุคมาตั้งแต่พ.ศ.สองพันห้าร้อย นี่บวกเพิ่มอีก ห้าสิบปี จึงถือว่าเข้ากลียุคกลางๆ คนในศาสนาเริ่มเสื่อม ตัวศาสนาเองไม่เสื่อม ต่อไปจะเสื่อมไปครึ่ง เพราะทุกวันนี้ บุญบาปแทบไม่เห็นกัน ทำบุญมากกว่าบาป เห็นบาปน่าทำมากกว่าบุญสะสมแต่ความขุ่นมัวกิเลสความชั่วอกุศลเข้าครอบงำ อย่างที่บอกว่า เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นผิดเป็นชอบนั่นเอง ดังนั้นพุกิมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในช่วงกาลกลียุคแห่งนี้ เพราะช่วยไม่ได้ ที่เขาดันเกิดมามีชีวิตอยู่ในช่วงวัยนี้ พ.ศ.นี้ อายุของเขายี่สิบสองปี ยังเด็ก แต่ว่าเรื่องบวชเรียน คร่ำเคร่งในการศึกษาธรรมะ และอยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของพ่อแม่ ที่พูดอะไรเขาก็เชื่อ ทำตามท่าน เพราะอยากให้ท่านมีความสุข และถือว่าแสดงความกตัญญูด้วย คนไทยเราในอดีตมักแสดงตนเช่นนี้กับบุพการี มันเหมือนกับเป็นประเพณีเป็นสายเลือดเชื่อมเชื้อสายต่อกันมา เพราะเป็นคนเมืองพุทธ ประการอีกนั่นแหละ ทำอะไรก็มีศีลมีธรรม เป็นกฎเกณฑ์ครอบครอง หวงห้าม กั้นตัวเองเอาไว้มิให้ประพฤติชั่ว เป็นเสมือนกฎหมายทางธรรม เพียงเท่านี้ที่พุกิมบอกว่าเขาดีใจ เพราะได้งานทำ ที่สำคัญ เพราะว่าได้เกิดแล้ว มาเป็นคนนั่นเอง เพราะทางตำราทางธรรมบอกกกล่าวเอาไว้ว่า คนที่จะเกิดมาเป็นคนได้ ยากเย็นแสนเข็ญนัก ต้องสร้างบารมีอย่างล้นพ้น ทำบุญมากกว่าบาป ดังนั้นส่วนมาก คนเมื่อตายลงไปแล้ว จะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือเป็นสัตว์ นรกเป็นส่วนมาก โชคดีที่ใจของเขาอยู่ในธรรมมาตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ รู้จักใส่บาตรพระสงฆ์ตั้งแต่เล็ก เดินตามยายต้อยๆไปวัด ซึมซาบจากคำให้พรที่เรียกว่าศีลจากหลวงพ่อเสมอ จนดื่มด่ำ ในทุกๆวันธรรมสวนะหรือวันพระ บัดนี้ภาพเหล่านั้นก็ยังอยู่ในใจ มิเคยลืมเลือน จนแม้เมื่อเป็นหนุ่มแล้วก็ตาม การใส่บาตรพระ ไม่น่าอาย ได้บุญด้วยซ้ำ ปฏิบัติกระทำจนเนืองนิตย์เป็นนิสัย ทำเพื่อเมื่อไปสู่ปรภพเบื้องหน้าแล้วจะสุขสบายเพราะไม่ต้องอด เหมือนคนที่ไม่เคยทำบุญให้ทาน การเรียนทุกวันนี้ มุ่งให้คนเรียนเพียงอย่างเดียว แต่งานไม่รับรอง ชีวิตคนทุกคน หนุ่มสาว มีเวลาเอาแต่เรื่องเรียนๆ เรียน ไปจนเกือบครึ่งชีวิตเข้าแล้ว ระหว่าง ประถม มัธยม ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก แต่ก็มีข่าวเสมอว่า คนระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ฆ่าตัวตาย จบเป็นด.ร. จากเมืองนอกเมืองนา ถึงขนาดคิดสั้นฆ่าตัวเองตาย เรื่องส่วนตัว ปัญหาครอบครัว ก็ไม่น่าถึงกับต้องทำถึงเพียงนี้ ฟังแล้วเศร้าใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม