ตอนที่ 3

1581 คำ
“แม่กำลังจะบอกผม ว่า นี่คือ ร่องรอยขโมย เจ้าขโมยมันจ้องจะขโมยของ งัดบานกระจกบ้านเราไม่ได้ เลยใช้ของแข็งทุบ ผมว่า น่าจะเป็นอย่างนั้นนะแม่ ” ดูจากรูปการแล้ว คำสันนิษฐานของธารนาถก็ไม่เลวเลยทีเดียวคุณชีลาพร พยักหน้าด้วย “แม่ก็คิดว่า อย่างนั้น แต่ไหน แต่ไรมา บ้านเรา ไม่เคยเกิดมีเรื่องแบบนี้ แล้ววันนี้กลับมามี ต่อไป ลูกต้องระมัดระวังนะลูก” ชีลาพรบอกกับลูกชายคนโต ยังไม่ทำลายหลักฐาน สั่งบอกคนใช้ทุกคน ไว้รอให้สามีเดินทางกลับมาจากที่ทำงานในตอนเย็น ให้ท่านมาดูอีกที จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร มันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเหมือนกัน ว่าบ้านเขาเริ่มจะมีโจรตีนแมวย่องเข้ามาในเขตบ้าน เมื่อคืนนี้ ธารนาถหลับสบายอยู่ชั้นสองโดยไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นถ้าขโมยเข้าบ้าน จำเป็นต้องคอยระมัดระวังตัวเองอย่างยิ่ง แถวนี้มีแต่บ้านจัดสรรด้วย สุดซอยเป็นคลองกับอีกด้านเป็นป่ากก แต่ถัดไปจากป่ากกติดบ้านร้าง ซึ่งทำลายทุบทิ้งไปแล้ว พวกเจ้าหัวขโมย ถ้าเข้ามาต้องเข้ามาตรงนี้ เพราะตรงนี้สามารถเชื่อมทะลุไปอีกซอยได้ ศิวันต์เองก็ได้รับคำพูดถ่ายทอดมาจากมารดาเองก็เช่นกัน แต่ศิวันต์ก็ไม่ห่วง เพราะมีมารดาคอยดูแล พวกคนใช้คอยเป็นหูเป็นตาให้ “ผม ไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ก็มีแม่อยู่บ้านทั้งคน” เขาพูดแบบนั้นเลย ชีลาพรบอกลูกว่า เมื่อคืนฝนตกหนัก ริมหน้าต่าง มาณวดีลืมปิดหน้าต่างห้องนอน เช้าขึ้นมาจึงเริ่มมีอาการเป็นหวัด ทำให้ไม่สามารถออกไปไหนได้ แม้แต่งานก็ต้องลาหยุด เมื่อรู้สึกตัวว่าไม่ไหวจริง เหมือนครั่นเนื้อครั่นตัว จนกระทั่ง เดือนมาลย์น้องสาวเพียงคนเดียวพร้อมด้วยมารดาคุณใจจวง พาเข้าไปตรวจที่คลินิกหน้าปากซอย หมอบอกว่ามีอาการไข้หวัดใหญ่จริงๆ พร้อมกับออกใบรับรองแพทย์ให้ และจากนั้นก็ให้กลับบ้านมาพักผ่อน พร้อมกับยาที่ให้รับประทาน เมื่อพี่สาวเป็นไข้ เดือนมาลย์ก็ไม่ยอมห่างหายไปไหน เอาตัวมาอยู่ใกล้ๆ คอยปรนนิบัติ อย่างใกล้ชิด ตามใจพี่สาวเป็นอย่างมาก จนตัวผู้เป็นคนไข้อย่าง มาณวดีเองก็แปลกใจ ที่ปกติ เดือนมาลย์ ไม่เคยทำถึงขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะพี่สาวอย่างหล่อน ล้มหมอนนอนเสื่อกระมัง แปลกดีเหมือนกัน ได้เห็นภาพน้องสาวกระวีกระวาดกระปรี้กระเปร่าที่จะช่วยเหลือเธอ หรือว่าเพราะเป็นแรงบังคับจากคำพูดของคุณใจจวงมารดาอีกทางหนึ่ง น่าจะมีส่วนร่วม แต่มาณวดีไม่ได้ว่าอะไร เห็นเดือนมาลย์ทำได้อย่างนี้ก็ดีใจเหลือเกิน เพราะน้องสาวกลัวว่าหล่อนจะเป็นจะตาย เป็นไข้มันไม่หนักหนาสาหัสเท่าใดหรอก ประเดี๋ยวก็คงหาย แต่ก็ซึ้งใจที่น้องสาวทำดีกับเธอ “ อะไรนะคะ วันจันทร์อาจะไปปราณบุรี ” ศุกุลยาพูดเหมือนคนตกอกตกใจ “ มันไกลมากนะคะ ” หลานสาวอย่างศุกุลยาว่า “ ไกลที่ไหนเล่า ออกไปจากกรุงเทพ ไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ เธอเคยไปหรือเปล่า ” เธอว่าอย่างนั้น จึงโดนอารามินดุเอา ที่หลานสาวตกใจอะไรไม่เข้าท่า “ ไม่เคยไปค่ะ ” ศุกุลยาเฉลยออกมา “ แต่ว่าเคยผ่าน ก็มันเป็นเส้นทางผ่านไม่ใช่หรือว่า กั้ง เคยไปเที่ยวกับเพื่อนที่ชะอำ หาดเจ้าสำราญ จำได้ว่ามันไกลค่ะ ” หลานสาวเอาความรู้มาตอบ “ แต่นั่นมันปีไหนมาแล้ว สิบกว่าปีได้หรือเปล่า เดี๋ยวนี้ถนนหนทางมันสะดวก เธออย่าห่วงอาเลย อาไปบ้านแฟน ” อาตัดสินใจบอก อามีแฟนแล้ว ศุกุลยาคิด “ อ๋อ แฟนของอาที่เป็นลูกสาวเจ้าของไร่สับปะรดน่ะหรือค่ะ ” เด็กสาวพอจะจำได้ แต่ว่าศุกุลยาไม่เคยเห็นใบหน้าของรดารสจริงๆ ใบหน้าเป็นๆที่อยู่ตรงหน้า นอกจากเห็นเพียงภาพผ่าน ก็สามารถบอกได้ว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง ไม่เหมือนผิวของลูกสาวชาวสวนชาวไร่ แต่มันไม่อาจบอกได้หมด เพราะว่ายังไม่เห็นตัวจริงนั่นเอง รูปภาพเพียงแค่สันนิษฐาน เดาได้ไปตามเรื่อง ศุกุลยาเองก็ไม่ได้เชื่อรูปภาพไปร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก มันอาจจะมีการตกแต่งทางคอมพิวเตอร์ได้ อาของเธอจะมีความรักมันก็ไม่ผิดหรอก วัยของเขามากโขแล้ว หนุ่มอายุสามสิบห้าปี เขาปล่อยตัวเองอยู่มาเป็นโสดมาหลายปี โดยยังไม่ตกร่องปล่องชิ้นกับใคร เพราะยังรักความโสดอย่างเหนียวแน่น บัดนี้เขาคงคิดได้แล้วล่ะ ว่าสักวันหนึ่งในข้างหน้าเขาไม่อาจอยู่ตัวคนเดียวได้ ต้องมีคนดูแล คอยเป็นเพื่อนใจ ปรับทุกข์ก็คือคนใกล้ชิดเขานั่นเอง คนคนนั้นจะเป็นภรรยา และลูกที่อยู่ใกล้ ศุกุลยา วาดหวังในสิ่งที่ดีงาม ที่ควรจะเป็น อาของหล่อนจะต้องเพียบพร้อมด้วยเรื่องเหล่านี้ เพราะเขาเป็นเพศผู้นำครอบครัว ศุกุลยายินดีและสนับสนุนอย่างมากด้วย ในเมื่ออาของเธอจะเป็นฝั่งเป็นฝา ในเมื่อเขาสามารถเอ่ยชื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้ว่าเป็นแฟน ผู้หญิงคนนั้นก็คงจะยอมรับอาของเธอแล้ว ท่าทางของรามินจึงภูมิใจอย่างที่เห็น เธออมยิ้มดีใจ ศุกุลยาคิดว่าเมื่อไหร่จะเป็นวันที่อารามินของเธอได้แต่งงานเสียที เขาจะเป็นเจ้าบ่าวที่โชคดีในอายุสามสิบห้าปีของเขา ศุกุลยาจึงกระเซ้าถามอา “อาก็แก่มากแล้วนะคะ รีบแต่งๆไปก็ดีแล้ว กั้งจะได้มีหลาน จะช่วยเลี้ยงหลานให้ค่ะ ” แต่กลับเห็นท่าทางของรามินนิ่งเงียบ เหมือนเขาครุ่นคิดเหมือนกัน “อา ไม่แน่ใจ ว่าจะให้คำตอบแก่เธอแบบนั้นได้นะ กั้ง อายังไม่รู้ใจเขา” “อ้าว ก็เขา มอบโอกาสให้อาเป็นแฟนแล้ว มันก็ต้องมีพัฒนาการสิคะอา มันต้องสำเร็จ ” “ขอบใจเธอมาก แต่ อาไม่สามารถเดาใจคุณด้าได้ถูก” หลานสาวคอยให้กำลังใจ รามินก็ยิ้มรับ เขาเป็นคนที่บางครั้ง ค่อนข้างไม่แน่ใจตนเอง มีความขลาดปนอยู่บ้าง ศุกุลยาถามอีก เพื่อช่วยเหลือน้าชาย “ มันมีอุปสรรคหรือไงคะ หรือเขามีผู้ชายคนอื่นอีก” “มันก็มีหรอกนะอุปสรรค แต่อาของเธอไม่รู้จริง ว่าเรื่องเหล่านี้หรือเปล่า คุณด้า ก็ดูเหมือนรั้งๆ ปล่อยเอาไว้ ไม่ยอมคิดถึงเรื่องนี้กับอา ทั้งๆที่อา อยากจะแต่งงานกับเธอจนใจจะขนาด ” “โอ ถึงขนาดนั้นเลยหรือคะเนี่ย ” หลานสาวสัพยอก พร้อมอมยิ้ม “ ถ้าไม่ได้ยินอาพูดก็ไม่รู้นะคะ ว่าอาอยากจะแต่งงานใจแทบจะขาด น่าสงสารอาจังเลย ” “ เมื่อสงสารอาแล้ว เธอไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่นิ่งอย่างเดียวก็พอ” รามินว่าพร้อมออกท่าทางฉุนหน่อยๆ กั้งหลานสาวก็ยังยิ้มหัวเราะคิกออกมา ขณะที่ใบหน้าของรามินบึ้งตึงเล็กน้อย อามีความหวังมากเลยนะคะ ที่บอกว่าอยากแต่งงานแทบใจจะขาด แสดงว่าอารักเขามากมายเลย” “ เด็กโง่ ถามมาได้ ก็อาบอกเธอไปเพียงนี้แล้ว อะไรที่มันควรเดาได้ ก็เดาซะ ศุกุลยา บางสิ่งก็ไม่ควรบอกตรงๆหรอก สำหรับเด็กสมัยใหม่ที่ฉลาดอย่างเช่นพวกเธอ” นอกจากฉุนตำหนิแล้ว รามินยังประชดให้นิดหน่อย กั้งพอจะรู้ว่า อาเริ่มโกรธเธอ “ งั้น กั้งไปก่อนนะคะ มีนัดกับเพื่อนไว้พอดี ขอให้อาโชคดีนะคะ ขอให้เดินทางไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ” เพราะเธอรู้ว่า อาของเธอขับรถไปเอง คงจะไปอยู่หลายวัน “ขอบใจที่เป็นห่วง” “แต่ถึงอย่างไร อาก็อย่าลืมกลับมาทำงานที่บริษัทนะคะ ที่บริษัทก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าไม่มีอา คุณพ่อก็แย่” รามินมีความสำคัญต่อธุรกิจของครอบครัวพี่ชาย อย่างที่หลานสาวบอก คุณวิรามบิดาของศุกุลยา ซึ่งเป็นพี่ชาย ต้องพึ่งพาน้องชาย ซึ่งเก่งในด้านการตลาด และบริหาร เสียอย่างเดียวอย่างที่คุณวิรามว่า พักหลังชักแผ่วๆไป อาของเธอคงจะลดคุณภาพฝีมือในการบริหารลงไปหรือเปล่า แต่เขาก็ใช้ให้ลูกน้องทำได้ เพราะฝึกปรือมาอย่างดี มันจึงทำให้เขาสบายใจเรื่องธุรกิจของพี่ชายจนสามารถโฉบตัวเองโบยบินไปไหนก็ได้เหมือนดั่งนก ถ้าต้องการโลกส่วนตัว อย่างเช่นเขากำลังมีความรักอย่างที่ศุกุลยาว่า เรื่องนี้ศุกุลยาไม่ได้โทษอา มันเป็นสิ่งที่ดีนักหนา สำหรับความรัก และครอบครัว ที่อาเลือกให้ตัวเอง อ้าว ไหง กลายเป็นอย่างนี้ล่ะ ฟังน้ำเสียงของอา แล้ว กั้งเองก็พลอยสงสาร “อา อย่าทำสีหน้าเหมือนคนไม่มีความหวังสิคะ ในเมื่อมาถึงเพียงนี้แล้ว อาของกั้งต้องสู้เขา สู้เขาลูกเดียว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม