วันต่อมา…
แอด…
ประตูห้องนอนของเคลย์ตันถูกเปิดออกมาในช่วงสายของวันใหม่ ก่อนจะปรากฏร่างสูงในชุดนักศึกษาที่ไม่ถูกระเบียบเท่าไหร่นัก และทันทีที่เปิดประตูห้องออกมาก็ทำเอาเขาต้องถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เมื่อต้องเจอกับข้าวของที่วางระเกะระกะอยู่เต็มห้อง ไม่รู้ว่าเขาจะต้องเจอกับภาพบรรยากาศที่ขวางหูขวางตานี้ไปอีกกี่วัน ห้องเขาถึงจะกลับมาเป็นปกติดังเดิมได้
เหมียว~
เสียงร้องเบา ๆ ของแมวน้อยขนนุ่มดังขึ้น ทำให้เคลย์ตันต้องก้มหน้าลงมองทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงความนุ่มของขนสัตว์ที่บริเวณส้นเท้า
"ถ้าไม่อยากตายก็อย่ามายุ่ง" เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นพร้อมกับสะบัดเท้าออกอย่างแรง
เหมียว~
"น่ารำคาญทั้งคนทั้งแมว" เคลย์ตันเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างหงุดหงิดแล้วเดินออกจากห้องไปทันที
ไม่รู้ว่าเจ้าของมันไปไหนแต่เช้า และไม่รู้ด้วยว่าเมื่อคืนนี้เธอนอนตรงไหน แต่ถ้าให้เดาแบบโง่ ๆ ก็คงจะนอนบนโซฟา คงไม่มีใครปัญญาอ่อนนอนพื้นแข็ง ๆ ทั้งที่มีโซฟาเป็นอีกทางเลือก
เอพริลออกจากคอนโดของเคลย์ตันมาเรียนตามตารางเรียนปกติอย่างเช่นทุกวัน หลังจากที่เรียนเสร็จเธอก็รีบไปจัดการธุระเรื่องการทำบัตรทำเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่หายไป และไม่ลืมที่จะแวะดูหอพักที่ต่าง ๆ ที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้อย่างไม่ต้องหลบซ่อน แต่ก็ไม่มีหอพักในราคาที่เธอต้องการสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้เลย เพราะหอพักที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้นั้นราคาก็สูงขึ้นจากเดิมเกือบเท่าตัว
ฟุบ!
ร่างบางของเอพริลทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มอย่างแรง พร้อมกับเอนตัวลงนอนด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า วันนี้เธอเดินทั้งวันจนรู้สึกปวดขาไปหมด
"เหนื่อยจัง" เสียงเล็กบ่นกับตัวเองเสียงเบาพลางหลับตาลงช้า ๆ กะจะของีบสักพักแล้วค่อยลุกขึ้นมาทำรายงานของตัวเองที่ทำค้างไว้ต่อ ไหนจะรายงานของเพื่อนที่เธอรับจ้างทำก็ยังไม่เสร็จ
เพล้ง!
เหมียว~
เสียงของตกกระทบพื้นดังลั่นห้อง พร้อมกับเสียงของแมวน้อยที่ส่งเสียงร้องตามมาติด ๆ ทำให้เอพริลที่ตั้งใจจะงีบหลับสะดุ้งสุดตัวลืมตาโพลงดีดตัวขึ้นนั่งอัตโนมัติ
"ชีส!" ดวงตากลมโตเบิกกว้างเรียกชื่อแมวน้อยของตัวเองด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเจ้าแมวน้อยยืนอยู่บนชั้นวางทีวี ที่พื้นด้านหน้านั้นเกลื่อนไปด้วยเม็ดทรายละเอียดสีดำสนิท
"ตายแน่ ๆ พี่เคลย์ตันฆ่าเราสองคนตายแน่ ๆ เลยชีส" เสียงเล็กบอกอย่างร้อนรนอย่างเป็นกังวล มองแมวตัวเองสลับกับนาฬิกาทรายที่แตกกระจายอยู่บนพื้นอย่างเป็นกังวลไม่น้อย
แกร๊ก~
แอด…
ไม่ทันที่เอพริลจะได้รีบเก็บกวาดสิ่งของที่แตกกระจายเพื่อเก็บหลักฐาน เสียงปลดล็อกประตูห้องก็ดังขึ้นมาซะก่อน ก่อนจะถูกเปิดเข้ามาโดยเจ้าของห้องอย่างเคลย์ตัน
สายตาคมจ้องมองไปที่พื้นห้องทันทีที่ก้าวพ้นขอบประตูเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะมองเลยไปที่แมวน้อยที่ยืนอยู่บนชั้นวางทีวี
"เก็บข้าวของออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้" น้ำเสียงเรียบนิ่งที่แฝงไปด้วยความดุดันเอ่ยออกมาทันที เมื่อเห็นสิ่งของที่แตกกระจายอยู่บนพื้น โดยไม่ถามถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เพราะตัวต้นเหตุก็ยืนแทนที่อยู่ในตำแหน่งนั้นแล้ว
เอพริลถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจและหวาดกลัวกับน้ำเสียงที่ฟังดูน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนของเขา
"ออกไป" เคลย์ตันเอ่ยขึ้นอีกครั้งสั้น ๆ ตวัดสายตาหันกลับมาจ้องมองร่างบางที่ยืนก้มหน้าบีบมือตัวเองแน่นอยู่หน้าโซฟา
"พะ พี่เคลย์ตัน…"
"ฉันไม่ใช่พี่เธอ ออกไป!" เคลย์ตันแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน ก่อนจะตะคอกเสียงดังลั่นไล่ให้เธอออกไปให้พ้นจากห้องของเขา
"หนูไม่มีที่ไป …พี่อย่าเพิ่งไล่หนูนะคะ เดี๋ยวหนูจะชดใช้ค่าเสียหายให้" เอพริลรีบลนลานตอบออกไป เมื่อน้ำเสียงของอีกฝ่ายเริ่มฟังดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม จนตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงร่างกายของตัวเองที่สั่นเทิ้มไปหมด
"ถ้ามีปัญญาจ่ายก็จ่ายมา"
"เท่าไหร่คะ"
"สองแสน"
"สะ สองแสน!" ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันทีที่ได้ยินจำนวนเงินที่ต้องชดใช้ให้เขา แค่นาฬิกาทรายอันเดียวราคามันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ
"หนูไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น …ให้หนูชดใช้ด้วยวิธีอื่นแทนได้ไหมคะ" เธอบอกเสียงเบาด้วยสายตาวิงวอนขอความเห็นใจจากเขา
"ถ้าไม่มีจ่ายก็ไสหัวออกไปจากห้องฉัน" พูดจบเขาก็เดินเข้าไปในห้องนอนตัวเองทันที โดยไม่สนสายตาวิงวอนขอความเห็นใจจากเธอสักนิด
"ชีส~ เราจะทำยังไงดี" ร่างบางเดินไปอุ้มแมวน้อยของตัวเองลงจากชั้นวางทีวี พร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นห้องจ้องมองความเสียหายของนาฬิกาทรายมูลค่าหลักแสนบาทด้วยสายตาละห้อย
เธอจะมีปัญญาที่ไหนหาเงินมาชดใช้ให้เขาได้ แค่ลำพังตัวเองยังเอาตัวไม่รอดยังต้องมาอาศัยเขาอยู่ แถมยังมาทำข้าวของเขาเสียหายอีก
เหมียว~
"ชีสดื้อแบบนี้เราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ เมื่อกี้พี่เขาน่ากลัวมาก ๆ เลยนะ" เสียงเล็กตำหนิแมวน้อยของตัวเองที่ดื้อซนจนทำข้าวของเสียหาย ในหัวก็ครุ่นคิดว่าจะเอายังไงต่อจากนี้ดี
เวลาผ่านไปร่วมสิบนาทีที่เอพริลเอาแต่นั่งครุ่นคิดหาทางออก ก่อนจะลุกขึ้นเก็บกวาดเศษซากนาฬิกาทรายที่แตกกระจายอยู่บนพื้นห้องแยกกันไว้กับเม็ดทรายละเอียดสีดำ ทำทุกอย่างเสร็จเธอก็รีบเปิดแล็ปท็อปของตัวเองขึ้น แล้วส่งข้อความแชตหาเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทที่สุดอย่างยี่หวา เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเพื่อให้ตัวเองมีที่พักในคืนนี้
ก๊อก…
แอด…
มือเล็กที่ยกขึ้นเคาะประตูห้องนอนของรุ่นพี่หนุ่มหล่อได้เพียงครั้งเดียวก็ต้องชะงักมือค้างกลางอากาศ เมื่อประตูห้องถูกเปิดออกมาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง
"ขนข้าวของของเธอเข้าไปไว้ในห้อง" น้ำเสียงเรียบนิ่งของเคลย์ตันเอ่ยขึ้นทันทีที่เปิดประตูออกมาเจอเธอยืนอยู่หน้าห้องพอดี
"คะ?" เอพริลที่ตั้งใจจะมาขอโทษและขอบคุณที่เขาช่วยเธอไว้ ถึงกับขมวดคิ้วทำหน้าตางุนงงกับสิ่งที่ได้ยิน
"ถ้าไม่อยากให้ฉันแจ้งความจับเธอที่ทำของฉันเสียหายแล้วไม่มีปัญญาชดใช้ ก็รีบขนของของเธอเข้าไปไว้ในห้อง เดี๋ยวนี้!" เคลย์ตันบอกด้วยประโยคที่ยาวเหยียด ก่อนจะตะคอกเสียงสั่งในท้ายประโยคจนร่างบางตรงหน้าสะดุ้งตัวโยง
"ค่ะ ๆ " เอพริลที่เหมือนจะทำตัวไม่ถูกได้แต่พยักหน้าตอบตกลงรัว ๆ ก่อนจะรีบทำตามที่เขาบอกโดยการขนข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองทั้งหมดเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของเขาทันที ทั้งที่ยังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นและด้วยความกลัวว่าเขาจะแจ้งความจับเธอเข้าคุก ถึงได้ยอมทำตามอย่างว่าง่าย
"เธอมีแฟนไหม"
"คะ?" คำถามจากเขาทำให้เธอทำหน้างุนงงหนักกว่าเดิม เมื่อกี้ยังไม่ทันเคลียร์ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็มาทำให้เธอสงสัยเพิ่มกับคำถามของเขาอีกแล้ว
"ตอบ!"
"มะ ไม่ค่ะ ไม่มีแฟน"
"เก็บเสื้อผ้าข้าวของของเธอเข้าตู้ จัดทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในครึ่งชั่วโมง" เมื่อได้คำตอบเขาก็เอ่ยปากสั่งเธอต่อทันทีด้วยความเร่งรีบ
"เกิดอะไรขึ้นคะ" เสียงเล็กเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย ที่อยู่ดี ๆ เขาก็สั่งเธอทำนั่นทำนี่ด้วยความรีบร้อน โดยที่ไม่บอกให้เธอเข้าใจเลยสักนิดว่าทำไม
"ชดใช้ค่าเสียหายที่แมวเธอทำ แกล้งตบตาแม่ฉันว่าเธอเป็นแฟนฉัน" เคลย์ตันถอนหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะบอกถึงจุดประสงค์ให้เธอรู้ แล้วจะได้เลิกทำหน้าตาซื่อบื้อใส่เขาสักที เห็นแล้วทั้งหงุดหงิดทั้งรำคาญ
"ห๊าาา มะ ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ โกหกผู้ใหญ่มันบาปนะคะ" เอพริลร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินสิ่งที่รุ่นพี่หนุ่มหล่อตรงหน้าบอกมา
"งั้นก็เลือกเอาแล้วกัน ระหว่างติดคุกกับแกล้งตบตาแม่ฉันชั่วคราวเธอจะเอาอะไร" เคลย์ตันถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นทางออกสุดท้าย
"ฉันเลือกเป็นแฟนกับพี่ชั่วคราวค่ะ!"