ปลาวาฬมาถึงที่บ้านในเวลาต่อมาเธอจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่ลานจอดรถหน้าบ้านแล้วรีบเดินเข้าไปในบ้านทันที เพราะเธอจะต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวรอเฮียภูของเธอมารับ ใครจะว่าเธอใจอ่อนใจง่ายยังไงก็ช่าง เวลานี้บอกได้คำเดียวว่าเธอรักเขามากยอมได้ทุกอย่างแค่เขาทำดีด้วยตัวเธอนั้นก็ยอมทุกอย่างแล้ว
"อ่าวพ่อ น้าจิตตรี"
เธอเดินไปหาท่านทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงโซฟากลางบ้าน น้าจิตตรีมองเธอก่อนจะหรี่ตาเล็กน้อย
"ปลาวาฬร้องไห้มาเหรอลูก มีอะไรรึเปล่า"
สมแล้วที่หล่อนเลี้ยงเธอมาตั้งแต่ยังแบเบาะแค่เพียงเห็นหน้าเท่านั้นเธอมองออกทันทีว่าตอนนี้เด็กน้อยของพวกเธอเป็นอะไร
"เปล่าจ๊ะตอนขับมอเตอร์ไซค์มาแมลงบินมาชนจ๊ะปลาวาฬเจ็บมากเลย"
หญิงสาวเลือกที่จะพูดปดออกไปดีกว่าให้พวกเขารู้ว่าเธอร้องไห้เพราะใครและร้องทำไม เธอไม่อยากให้พวกท่านทั้งสองคนเป็นห่วงมาก
"เจ็บมั้ย ไหนขอน้าดูหน่อย"
ปลาวาฬลอบสังเกตพ่อกำนันของเธอกับน้าจิตตรีดูเขาสองคนเหมือนจะสนิทสนมกันมากขึ้นเกินกว่าที่เคย หรือว่าสองคนนี้คุยกันแล้วตัดสินใจกันแล้ว
"พ่อกับน้าจิตตรีคุยกันยังอ่ะ ปลาวาฬว่ามันแปลกๆไปน้า"
ปลาวาฬมองทั้งสองคนก่อนจะยิ้มอารมณ์แซวมากกว่า ท่านสองคนมองหน้ากันก่อนจะหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน
"ปลาวาฬพูดอะไรเนี้ย"
"ฮั่นแน่! แต่งเลยมั้ยพ่อ"
หญิงสาวชอบอกชอบใจที่ทั้งสองคนได้คุยกันแล้วลงเอยกัน เธอรอเวลานี้มานานแล้วเวลาที่ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนเช่นคนอื่น
"เอ๊ะไอ้นี่! แต่งเลยอะไรกันยังไม่ได้ไปขอเลย"
"พี่กำนันพูดอะไรเนี้ย ทั้งคู่เลยหยุดเลยนะ!!"
น้าจิตตรีเอ่ยอย่างเขินอายแทบอยากจะมุดหนีไปไกลๆเสียตอนนี้
"ไม่ต้องเขินหรอกน่ารู้มั้ยว่าปลาวาฬดีใจแค่ไหนที่น้าจิตตรีจะมาดูแลพ่อกำนันและจะมาเป็นแม่ให้ปลาวาฬด้วย ^^"
ปลาวาฬมองน้าจิตตรีด้วยสายตาที่อ่อนโยน คนโตกว่ายื่นมือมาลูบผมเด็กแสบยิ้มๆ
"น้ารักเรานะปลาวาฬไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตามน้าเลี้ยงปลาวาฬมาตั้งแต่เด็กๆน้ารักเราเหมือนลูกแท้ๆ"
"ปลาวาฬก็รักน้าจิตตรีเหมือนแม่คนหนึ่งเลยจ๊ะ รักที่สุดเลยมาเป็นแม่ให้ปลาวาฬนะ ^^"
น้าจิตตรีเงยหน้ามองพ่อกำนันท่านพยักหน้าเบาๆ หล่อนหันมามองหน้าปลาวาฬก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"ขอบคุณนะปลาวาฬที่ให้โอกาสน้าได้มาเป็นครอบครัวเดียวกับทั้งสองคน"
"ปลาวาฬสิต้องขอบคุณที่น้าจิตตรียอมจะมาอยู่เป็นคู่ชีวิตให้กับพ่อกำนันของปลาวาฬ คนแก่ขี้เหงาต้องการคนมาเอาใจนะ คิกคิก"
"ไอ้ปลาวาฬเอ็งนี่ย้ายข้างไวนะ"
"เอ้า! ปลาวาฬไม่เคยอยู่ข้างพ่อเลยนะรู้ๆกันอยู่จริงมั้ยจ๊ะแม่จิตตรีจ๋า"
ปลาวาฬกอดเอวแม่จิตตรีของเธอแน่นเงยหน้ามองพ่ออย่างล้อเลียน พ่อกำนันเขกกระบาลลูกสาวตัวแสบของเขาอย่างเอ็นดูสุดๆ
"นี่แน่! ไม่ทันไรก็เทพ่อเอ็งซะแล้ว"
"ลูกมันก็พูดถูก เป็นพ่อยังไงไม่เคยให้คำปรึกษาอะไรลูกได้เลย มีแต่ฉันเนี้ยที่ไอ้ปลาวาฬมันวิ่งแจ้นมาหาตลอดตั้งแต่ไหนแต่ไรนะ "
พ่อกำนันถึงกับพูดไม่ออกเพราะมันคือเรื่องจริง ปลาวาฬไม่ค่อยปรึกษาอะไรเขาเพราะตัวเขานั้นมัวแต่ทำงานไม่หยุดเรื่องหน้าที่ให้คำปรึกษาลูกนั้นเป็นของจิตตรีเขาอยู่แล้ว
"ก็พี่ต้องทำงานเอ็งเป็นผู้หญิงเหมือนกับไอ้ปลาวาฬคุยกันง่ายกว่าเยอะ"
"ข้ออ้างของคนมัวแต่ทำงานไม่สนใจลูก เชอะ!!"
"ไอ้นี่มันร้ายเว้ย!! ย้ายข้างซะแล้ว"
"อย่ามาดุปลาวาฬเชียวนะไม่อย่างนั้นจะฟ้องแม่จิตตรีให้จัดการพ่อจริงด้วย"
"เออเอาเข้าไป ดีเว้ย!!!"
ปลาวาฬและจิตตรีมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะร่า นี่คือครอบครัวที่เธอรอคอยมาตลอดตั้งแต่ยังเล็ก เธอแค่ต้องการให้พ่อมีความสุขและเธอมีคนที่ให้คำปรึกษาได้เช่นน้าจิตตรีคนที่รู้ใจเธอแค่มองตาเท่านั้น แค่นี้เธอก็มีความสุขมากแล้วในเวลานี้
"อย่าดุลูกสิ แล้วนี่ไปไหนมาลูก"
"ไปหาเฮียภูมาค่ะ ใช่สิ!! ปลาวาฬต้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเพราะเดี๋ยวเฮียภูจะมารับไปเที่ยว ^///^"
หญิงสาวเอ่ยอย่างตื่นเต้นก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบนทันทีอย่างไม่รอช้า จิตตรียื่นมือไปกุมมือสามีหมาดๆของเธอก่อนจะยิ้มหวาน
"ปล่อยลูกไปเถอะทุกอย่างเขาต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ^^"
พ่อกำนันยื่นมือมากุมมือภรรยาหมาดๆของเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เห้ออออ คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ"
ปลาวาฬรีบวิ่งขึ้นมาในห้องแล้วจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองทันที วันนี้เธอจะสวยที่สุดเลยให้เฮียภูของเธอตะลึงไปเลย >////////////<"