“เขาหล่อขนาดนั้นนี่นะ ไม่ชอบจริง ๆ เหรอ บอกพี่ได้นะปิ๊งเผื่อพี่ให้คำปรึกษาอะไรได้”
“ขอบคุณค่ะแต่หนูไม่ได้ชอบจริง ๆ”
“หึ ๆๆ โอเค~ ไม่ชอบก็ไม่ชอบครับ”
“หนูไม่ได้ชอบเขาจริง ๆ นะพี่พฤกษ์ หนูจะชอบเขาได้ยังไงก็หนู...ชอบพี่มากขนาดนี้”
“...พูดว่าอะไรนะ?” พี่เขานิ่งไปพักใหญ่ก่อนจะถามออกมา ถามเหมือนเขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“พูดว่าปิ๊งชอบพี่มากไงคะ” ^^
ฉันย้ำบอกอีกครั้งแล้วก็แถมรอยยิ้มให้ด้วย ยิ้มจนตาหยีเลยล่ะและสิ่งที่ได้คือสายตา...
“ฮ่า ๆๆ หนูล้อเล่นค่ะ อย่าทำหน้าบึ้งขนาดนี้สิคะ หนูจะไปชอบพี่ได้ยังไงล้า~” ^^
ฉันรีบบอกแล้วก็ยิ้มจนตาหยีมากกว่าครั้งแรก ยิ้มจนตาปิดเลยด้วยซ้ำ ยิ้มให้เยอะ ๆ จนตาปิดเพื่อไม่ให้เขาเห็นแววตาเจ็บปวดของตัวเอง
สายตาพี่เขาตอนที่ฉันย้ำเป็นครั้งที่สองว่าชอบเขาคือสายตาที่เหมือนคนกำลัง...โกรธ
“เล่นไม่เข้าท่า”
“...หนูขอโทษค่ะ” ^^ ฉันยิ้มอ่อนขอโทษพี่เขา ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ไม่เคยโดนเขาต่อว่าแบบนี้เลย ว่านิ่ง ๆ ไม่ได้เสียงแข็งหรือตะคอก พูดเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา พอโดนเข้าแถมยังเป็นเรื่องที่อ่อนไหวก็รู้สึกแย่อยู่ข้างในมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
“พี่ขอตัวไปพักก่อนแล้วกัน”
“ค่ะ” ^^
ฉันยิ้มรับพี่เขาก็แค่มองหน้าฉันแล้วพยักหน้ารับนิดหน่อยก่อนจะเดินไป แต่เดินได้ไม่ไกลพี่เขาก็หันมาหาอีกครั้ง
“ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อพี่นะ”
“ค่ะ” ^^
ฉันยังคงยิ้มรับเหมือนเดิมพร้อมกับคำพูดในใจ
...ไปเลยค่ะ รีบไปเลย
พี่พฤกษ์เขา...แอบใจร้ายเหมือนกันนะคะ คนที่อบอุ่นใจดีมาตลอดพอเขาใจร้ายขึ้นมามันก็ดูใจร้าย...สุด ๆ ไปเลย
“...” ฉันมองแผ่นหลังกว้างที่เห็นทุกวันจนเขาลับตาไปก็หันหลังแล้วเดินไปหามุมสงบพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบ ๆ ขอบคุณนะน้ำตาที่แกเพิ่งไหลออกมาตอนนี้ ขอบคุณที่ไม่ร้องไห้ต่อหน้าเขาให้เขารู้ว่าความจริงแล้วแกไม่ได้ล้อเล่นเลย
อย่าให้เขารู้เชียวนะปิ๊งว่าความจริงแล้วแกชอบเขามากแค่ไหน อย่าให้รู้เด็ดขาดเพราะเมื่อกี้สายตาคู่นั้นของเขามันทำให้แกเจ็บปวดมากเกินไป อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการบอกให้คนคนหนึ่งรับรู้ความรู้สึกดี ๆ ของแกเด็ดขาด
-หลายวันต่อมา-
“ไงเรา”
“ค่ะ” ^^ พี่พฤกษ์ที่กลับมาถึงบ้านช่วงเย็นยิ้มทักทายฉันเหมือนปกติ ตั้งแต่วันนั้นเช้าของอีกวันพี่พฤกษ์ก็ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นฉันก็แอบโล่งใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วทำตัวให้เป็นปกติเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันจะอึดอัดแทบจะกรี๊ดให้ได้ทุกทีที่อยู่คนเดียวก็ตาม เป็นคนที่ไม่มีสิทธิ์ชอบนี่มันลำบากจริง ๆ นะ ^_^
“ทำกับข้าวรึยัง”
“กำลังจะทำค่ะ”
“ถ้างั้นขอกับแกล้มได้ไหม”
“กับแกล้มเหรอคะ”
“อื้ม วันนี้พี่อยากดื่มหน่อย ถ้าไม่รบกวนนะแต่ถ้าเหนื่อยก็ไม่เป็นไร”
“ได้สิคะ เดี๋ยวจะทำกับแกล้มแซ่บ ๆ ให้เลยค่ะ” ^^
ฉันไม่เหนื่อยหรอกถึงเหนื่อยก็ยินดีจะทำให้ ก็พี่เขาขอมานี่คะ เจ้านายทั้งคนจะไม่ทำให้ได้ยังไง
“โอเค ถ้างั้นพี่รบกวนด้วยนะเดี๋ยวขอขึ้นไปอาบน้ำก่อน เสร็จแล้วเรียกพี่หน่อยนะพี่จะทำงานต่ออีกนิดหน่อยระหว่างรอมื้อเย็น”
“ได้ค่ะ” ^^
ฉันยิ้มแล้วก็ยืนมองพี่พฤกษ์เดินขึ้นข้างบนไป เงินเดือนของเดือนนี้เข้าแล้ว เข้าเมื่อเช้าสด ๆ ร้อน ๆ เลย เห็นเงินหนึ่งแสนแล้วใจเต้นแรงมาก สองเดือนแล้วปิ๊งรัก อีกแค่เดือนเดียวก็จบงานแล้ว ใจเต้นแรงสุด ๆ ไปเลยเพราะเวลาที่ฉันจะได้แอบตักตวงความสุขเหลือน้อยเต็มที...
ฉันทำกับข้าวสองอย่างแล้วก็กับแกล้มอีกสามอย่าง พี่เขาจะดื่มเขาคงไม่กินข้าวหรอกฉันเลยไม่เน้นกับข้าวเพราะตัวเองกินอะไรก็ได้ เวลาที่ไม่มีจริง ๆ กินมาม่ากับข้าวสวยยังอิ่มและอร่อยมากเลย
ตื๊ดดดด ตื๊ดดด
...แม่
จัดโต๊ะกินข้าวเสร็จกำลังจะเดินไปเรียกพี่พฤกษ์โทรศัพท์ก็ดังขึ้น แค่เห็นหน้าจอก็ต้องกรอกตามองบน หลายอาทิตย์แล้วที่แม่ไม่โทรมาหาฉัน ทั้งพ่อทั้งแม่นั่นแหละ โทรมาแบบนี้ความหมายมีแค่อย่างเดียว คิดถึง...ต้องการเงินด่วน เฮ้อ~ จะบอกว่ามีพ่อแม่เมื่อพร้อมก็ไม่ได้ด้วยสิเพราะไม่รู้ว่าตอนนั้นที่ยังเป็นแค่สเปิร์มคงจะไม่มีสิทธิ์เลือก
ติ๊ด!
ไม่รับ = จบเรื่องปวดสมอง
ไม่ ๆๆ ไม่รับอย่างเดียวไม่ได้ต้องปิดเครื่องไปเลยต่างหากที่จะจบของจริง
ติ๊ด!
ขอโทษนะแม่แต่หนูไม่พร้อมรับเรื่องไม่สบายใจของคุณอื่น ขอหนูอยู่กับเรื่องสุขปนเศร้าของหนูก่อนเถอะนะจะด่าว่าหนูเป็นลูกทรพีทรพาอะไรหนูก็ยอม
ฉันเดินขึ้นไปเคาะห้องพี่พฤกษ์เพื่อตามเขา คนในห้องเปิดประตูออกมาพร้อมชุดอยู่บ้านสบาย ๆ และความหล่อ หลงอีกแล้วแต่ต้องรีบถอนสายตาแล้วเดินนำลงมา
“หนูไม่รู้พี่พฤกษ์ต้องการกับแกล้มแบบไหน ถ้าไม่ถูกใจบอกเลยนะคะเดี๋ยวทำให้ใหม่” พี่เขามาถึงโต๊ะอาหารยังไม่นั่งก็มองกับข้าวกับกับแกล้มบนโต๊ะฉันเลยรีบบอก
“ถูกใจสิ เราทำอะไรก็ถูกใจพี่หมดนั่นแหละ” พี่พฤกษ์ยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงฉันก็เลยจัดการชงเหล้าให้เขาซะ อยู่ด้วยกันสองเดือนรู้แล้วค่ะว่าเขาชอบดื่มเหล้ามากกว่าเบียร์หรือไวน์แล้วก็รู้ด้วยว่าชอบรสชาติประมาณไหน ประมาณเข้ม ๆ เกือบจะไม่ต้องพึ่งโซดาไง
“ขอบคุณครับ”
“ค่ะ”
“เราดื่มไหมล่ะ พรุ่งนี้วันหยุดดื่มเป็นเพื่อนพี่สิ”
“อืม...โอเคค่ะ เครียดเหรอคะ”
“เปล่าหรอกพอดีวันนี้มีบอลตอนหัวค่ำ ทีมโปรดด้วยพี่เลยอยากดื่มตอนดู”
“อ้อ โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูดื่มเป็นเพื่อนพี่พฤกษ์เอง” ^^
ก็นึกว่าเครียดเรื่องงานไม่ก็เครียดเรื่องคนคนนั้นซะอีก โล่งอกไปทีค่ะ ฉันตกลงแล้วจัดการชงเหล้าให้ตัวเองบ้างส่วนพี่เขาก็เปิดดูบอลแต่นั่งดื่มพร้อมกับดูบอลในห้องอาหารมันไม่ได้อรรถรสเลยชวนพี่เขาไปดูที่ห้องโฮมเธียเตอร์ซึ่งพี่พฤกษ์ก็เห็นดีเห็นชอบเลยช่วยกันขนย้ายอาหารไปที่นั่น
“ดูบอลเป็นใช่ไหม”
“โห~ ไม่อยากจะคุยว่าตอนอยู่มัธยมปิ๊งดูบอลกีฬาอบต.ทุกแมตช์เลยล่ะค่ะ” ^^
“กีฬา...อบต.?”
“ใช่ค่ะ” ^^
“หึ ๆๆ ตลกว่ะ แล้วสองทีมนี้รู้จักไหม” พี่เขาชี้ไปที่ทีวีขนาดใหญ่เท่าผนังห้องนอนของบ้านฉัน กำลังจะเริ่มรายการพอดีเลยค่ะ ฉันมองแล้วก็พยักหน้า
“รู้จักค่ะ”
“แล้วชอบทีมไหนมากกว่ากัน”
“ไม่ชอบทีม XXX ค่ะ” เขาถามว่าชอบทีมไหนมากกว่ากันแต่ฉันตอบอีกอย่างพี่พฤกษ์ก็จ้องหน้าฉันนิ่งเลย
“พี่ถามว่าชอบทีมไหนมากกว่ากัน ไม่ได้ถามว่าไม่ชอบทีมไหน” ดูพี่เขาจะอารมณ์เสียนิดหน่อยนะเนี่ย หน้าตาเหมือนคนไม่สบอารมณ์กับเพื่อนในวงเหล้าประมาณนั้นเลย
“ก็ไม่ได้ชอบทีมนี้ไงคะเลยตอบว่าชอบทีมไหนมากกว่ากันไม่ได้ เพราะถ้าบอกว่าชอบทีม XXXมากกว่าแสดงว่าหนูต้องชอบทีมนั้นบ้างนิดหน่อยใช่ไหมล่ะ แต่นี่หนูไม่ชอบไง ไม่ชอบสุด ๆ ไปเลย” ^^ ฉันตอบตามความรู้สึกพี่พฤกษ์ก็พยักหน้ารับแต่หน้าตอนนี้คือตึงสุด ๆ ไปเลย
“อืม”
“แล้วพี่พฤกษ์ชอบทีมไหนคะ” ^^ ฉันถามพี่พฤกษ์ก็มองหน้าฉันนิ่ง
“...ทีมที่เราไม่ชอบสุด ๆ ไปเลย” นอกจากหน้าพี่เขาจะนิ่งเสียงพี่เขาก็นิ่งด้วย นิ่งแบบคนอารมณ์ไม่ดี ^_^!
“เอ่อ หนู...หนูว่าทีมนี้ก็ดีค่ะ วันนี้คงชนะเนอะ” ^^
“หึ ๆๆ ไม่ต้องกลับคำพูด ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ” พี่เขาดักทางคนที่กำลังจะทำตัวเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสีเอาใจนายจ้างอย่างฉันแถมยังกระตุกยิ้มแต่สายตาเกรี้ยวกราดแล้วพอพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นมาจิบทั้งที่ยังจ้องฉันด้วยสายตารู้ทันด้วย น่ารัก เอ๊ย! กลัวเป็นบ้าเลย ^^!
“แหะ ๆๆ แต่...วันนี้จะเชียร์เป็นเพื่อนนะคะ”
“หึ! ไม่ต้องเลยยัยตัวแสบ มาพนันกันดีกว่า”
“พนัน? พนันอะไรคะ” พี่เขาชวนเล่นพนันก็หูผึ่งสิ ทั้งชีวิตเกิดมาเคยเล่นพนันบอลที่ไหน เคยเล่นแต่หวย อิอิ
“ทีมใครชนะคนนั้นสั่งคนแพ้ได้หนึ่งอย่างโอเคไหม?”
“คนชนะสั่งคนแพ้ได้หนึ่งอย่างเหรอคะ” ฉันทวนคำพูดเขาพี่พฤกษ์ก็พยักหน้ารับ
“อื้ม”
“หนูสั่งได้ทุกอย่างจริง ๆ เหรอ”
“ได้สิ”
“ยกตัวอย่างเช่นหนูสั่งให้พี่พฤกษ์เก็บจานทั้งหมดไปล้างก็ได้ถูกไหมคะ” ฉันไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยลองยกตัวอย่างและตัวอย่างของฉันก็ทำพี่พฤกษ์หลุดขำออกมาเลย
“ฮ่า ๆๆ ถ้าอยากได้แค่นั้นก็เอาเลย แต่ต้องให้ทีมที่เราชอบชนะทีมที่เราไม่ชอบสุด ๆ ไปเลยก่อนนะ”
“ค่ะ” ^^
ท้ายประโยคพี่เขาเหมือนจะกัดฟันขบกรามพูดนะคะ ^_^!
“กินข้าวสิ กินแล้วจะได้ดื่มกัน ดื่มเยอะ ๆ ย้อมใจด้วยเพราะเดี๋ยวทีมที่เราไม่ชอบสุด ๆ ไปเลยจะชนะให้ดู”
“...ค่ะ” ^^
ฉันรับคำแล้วรีบกินข้าวแบบเกร็ง ๆ ก็พี่เขาทำท่าเหมือนอยากจะกินหัวคนที่ไม่ชอบทีมโปรดของเขายังไงก็ไม่รู้สิ แต่พอกินข้าวเสร็จแล้วนั่งดื่มพร้อมกับเชียร์บอลแข่งกันบรรยากาศก็ดีมาก ๆ เสียงเขาเฮทีเสียงฉันเฮทีแล้วเราก็เกทับกันไปมาจนหลายครั้งเกิดเสียงหัวเราะลั่นห้องไปเลยล่ะค่ะ บอกตรง ๆ นะว่าตลอดชีวิตไม่เคยเชียร์บอลแล้วมีความสุขเท่านี้มาก่อนเลย ^^
-เวลาต่อมา-
“เยส!!!” ก่อนจะถึงนาทีที่ 90 แค่นาทีครึ่ง จากแต้ม 2-2 ของทีมชั้นนำระดับโลกสองทีมก็มีทีมหนึ่งเตะบอลเข้าโกลทำประตูแซงได้อย่างไม่น่าเชื่อและเสียงของคนที่เชียร์ทีมนั้นก็ดังออกมาด้วยความสะใจ ส่วนคนแพ้ก็...ก็แพ้ไปตามระเบียบไง
“ไง ทีมที่เราไม่ชอบสุด ๆ ไปเลย ทำให้เราไม่ชอบสุด ๆ ไปเลยมากกว่าเดิมไหม” บอลจบปุ๊บพี่เขาก็หันมาถามด้วยรอยยิ้มมีความสุข
-*-
“เฉย ๆ ค่ะ”
“หึ ๆๆ พี่ว่าไม่ใช่มั้ง”
“ชิส์” ฉันย่นจมูกใส่อีกรอบท่ามกลางรอยยิ้มของพี่พฤกษ์ก่อนที่พี่เขาจะยกเหล้าขึ้นมาจิบ
“โอเคค่ะหนูแพ้ พี่อยากจะสั่งอะไรคนแพ้ก็ว่ามาเลย” จบเกมปุ๊บฉันก็แสดงความแมนปั๊บเล่นเอาพี่พฤกษ์ยิ้มขำทันที
“รีบเหรอ”
“ไม่ได้รีบแต่รักษาสัญญาต่างหาก”
“หึ ๆๆ โอเค ดีแล้ว ถ้างั้นพร้อมรับคำสั่งแล้วใช่ไหมยัยคนแพ้” อย่ามาอารมณ์ดีแล้วยิ้มให้ได้ไหมล่ะ มันเขี้ยว!!! อยากจะตรงเข้าไปขยี้แก้มสากของใบหน้าหล่อ ๆ ตรงหน้าจริง ๆ มันเขี้ยวมากแต่ทำไม่ได้ไงคะไม่มีสิทธิ์ ว่าแต่พี่พฤกษ์จะสั่งอะไรนะ ต้องแกล้งฉันหนักแน่ ๆ เลย T^T
พอฉันบอกพี่พฤกษ์ก็ยิ้มบาง ๆ แล้วยกเหล้าขึ้นมากระดก เมื่อกี้เขาเพิ่งรินเหล้าใหม่ ไม่ผสมแล้วแต่ดื่มเพียว ๆ ไปเลย รินไปครึ่งแก้วแล้วก็ยกดื่มหมดทั้งครึ่งแก้วก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา
“พี่ขอสั่งให้เรา...”
“...คะ?” พี่เขาพูดช้า ๆ ระหว่างที่พูดก็จ้องหน้าฉัน จ้องไม่ละสายตาเล่นเอาใจฉันเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะปกติขึ้นมา จากเต้นไม่เร็วเท่าไหร่เวลาแค่ไม่กี่วินาทีก็กลายเป็นเต้นรัวมาก ๆ จนน่าใจหาย อย่าตื่นเต้นสิปิ๊ง เขาไม่ได้จะ...สารภาพรักซะหน่อย -///-
“พี่ขอสั่งให้เรา...” เขาพูดคำเดิมไม่เพิ่มเติมขึ้นแม้แต่วลีเดียวแต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือมือใหญ่ที่ขยับมาใกล้ก่อนจะวางบนหัวฉันเบา ๆ แค่นี้ใจฉันก็เต้นแทบระเบิดแล้วค่ะ อย่าบอกนะว่าเขาจะสั่งให้ฉัน...จูบเขา มะ มันจะเหมือนในละครเกินไปมั้งคะ ไม่ใช่หรอกมั้ง -///-
แต่...แต่ก็แอบหวังลึก ๆ นะ >///< บ้าไปแล้วไอ้ปิ๊ง แต่พี่เขาทำให้คิดจริง ๆ ไงคะ ดูสิ จ้องหน้าฉันไม่ลายตาแล้วมือเขาก็ลูบผมฉันจากหัวลงไปช้า ๆ จากนั้นปากหยักสวยที่เอาจูบแรกของฉันไปก็ขยับอีกครั้ง
“พี่ขอสั่งให้เรา...หยุดทุกความรู้สึกที่มีกับพี่ซะ”