10

1752 คำ
“นอนห้องที่คุณบอกฉันก็ได้” เธอตอบออกไปเสียงรัว หัวใจเต้นโครมครามหาจังหวะไม่ได้เลย กลัวความบ้าบิ่นของเขาหนักหนา ชายหนุ่มชอบสั่งยิ้มเย็น ก่อนจะเดินฉุดข้อมือสาวให้เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน เพลงมีนาที่ไม่ชินกับการใกล้ชิดเกินงามจากชายแปลกหน้า พยายามจะบิดข้อมือของตนเองให้เป็นอิสระ ทว่าข้อมือใหญ่ยิ่งรัดข้อมือเล็กแน่นขึ้นกว่าเดิม จนสาวเจ้าเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด “ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อยู่เฉยๆ ไม่ต้องคิดจะทำอะไรทั้งนั้น ถ้าทำให้ฉันอารมณ์เสียมากไปกว่านี้ล่ะก็ เจอดีแน่” เขาหันมาคำรามขู่ และคำข่มขู่ของกวินภพได้ผลดีทุกครั้ง เพลงมีนาหยุดการดิ้นรนทั้งหมด เดินตามแรงลากจูงของกวินภพแต่โดยดี ส่วนลูกน้องอีกสองคนได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน ปล่อยให้หน้าที่นับต่อจากนี้เป็นของเจ้านายเพียงคนเดียว “นี่แหละห้องของเธอ ขอให้นอนหลับให้สบายนะ เพราะวันพรุ่งนี้นรกจะมาเยือนเธอ” เขาพูดขณะที่เปิดประตูห้องห้องหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของบ้าน ก่อนจะผลักร่างสาวให้เข้าไปด้านในจากนั้นก็ปิดประตูล็อคด้วยแม่กุญแจดอกใหญ่กันเชลยของเขาหนี “อ้อ!!...ลืมบอกไป เธออย่าไประรานเจ้าของห้องเดิมเขานะ ต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน” ก่อนจะเดินออกห่างห้องนั้น เขาได้ตะโกนบอกเพลงมีนาที่อยู่ในห้องเพียงลำพัง เมื่อเสร็จภารกิจแรกกวินภพก็เดินผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี แต่เขาไม่ได้ไปไหนไกล เดินไปหยุดห่างจากประตูห้องนั้นไม่ถึงสามเมตร ยืนรอคอยบางอย่างๆ ใจจดใจจ่อ หลังจากจบถ้อยคำที่เธอได้ยินนั้น อาการหวาดหวั่นและความความกลัวก็เกิดขึ้นในจิตใจของเพลงมีนาทันที เจ้าของห้องเดิม คำพูดนี้มันหมายความว่าอย่างไร มีใครหรืออะไรเคยอยู่ในห้องนี้มาก่อนอย่างนั้นหรือ หัวใจสาวเต้นระส่ำมองซ้ายมองขวาไปรอบๆ ห้องที่มีแต่ความมืด ยังดีที่ว่ามีแสงไฟนีออนด้านนอกลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาพอได้เห็นลางๆ เพลงมีนากอดกระเป๋าสะพายของตัวเองเอาไว้แน่น ก่อนจะใช้อีกมือหนึ่งคลำหาสวิตซ์ไฟ “ไฟอยู่ไหนเนี่ย?” เธอพูดขณะที่คลำมือไปตามฝาผนัง ป่ายปัดไปเรื่อยๆ จนกระทั้งเจอสิ่งที่ตนเองต้องการ “เจอแล้ว” ไม่รอช้าเธอรีบกดสวิตซ์ไฟทันที และแล้วแสงสว่างก็กระจ่างสว่างเต็มห้อง “โอ้โห...ตุ๊กแกตั้งหลายตัว” เสียงขอเพลงมีนาฝ่าความเงียบออกมาเบาๆ เมื่อเห็นตุ๊กแกหลายตัวเกาะติดตามฝาผนังห้องรอบด้าน กะประมาณจากสายตาน่าจะเลยสิบตัว ดีที่ว่าเธอไม่ใช่คนขวัญอ่อนเกลียดตุ๊กแก ไม่เช่นนั้นคงร้องห้องแตก เธอมองสำรวจไปรอบๆ ห้องที่มีแต่เสื่อผืนหมอนใบ ผ้าห่มกลางเก่ากลางใหม่อีกหนึ่งผืน พัดลมอีกหนึ่งตัวที่จัดวางอยู่ด้านขวามือ ส่วนตรงปลายเท้ามีของวางสุมๆ กันอยู่ เธอคาดเดาว่าห้องนี้น่าจะเป็นห้องเก็บของที่แปลสภาพมาเป็นที่หลับที่นอนให้เธอได้พักพิง “ก็ยังดีกว่าอยู่กับอีตาไร้อารยธรรมคนนั้น” เพลงมีนาคิดเช่นนั้น ต่อให้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย เธอก็ยังยินดีมากกว่าต้องมีชายใจยักษ์นอนข้างๆ แค่คิดเธอก็ขนลุกแล้ว พลันความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในสมอง ในเมื่อเธออยู่คนเดียวก็สามารถติดต่อกับบุคคลภายนอกได้ และเครื่องมือสื่อสารที่ดีที่สุดก็คือ โทรศัพท์มือถือ หญิงสาวจึงทรุดกายลงนั่งบนเสื่อ เปิดกระเป๋าสะพายออกควานหาโทรศัพท์มือถือของตนเอง “หายไปไหนนะ หายไปเนี่ย?” เธอบ่นขณะที่รื้อค้น ค้นกระเป๋าหาต่อไปแต่ก็หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เธอจึงเทกระเป๋าให้สิ่งของต่างๆ มันหล่นมากองตรงเสื่อเพื่อที่จะได้ดูอย่างสะดวก แต่ก็ไร้วี่แววของมือถือเครื่องจิ๋วของตนเอง อีกทั้งยังมีสิ่งหนึ่งที่หายไปด้วย “กระเป๋าตังค์ไปไหนเนี่ย?” เพลงมีนาพูดออกมาหลังจากไม่พบกระเป๋าสตางค์ พลันสายตาของเธอสะดุดมองไปยังกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งที่พับเป็นสองท่อน มันหล่นลงมาอยู่ใกล้ๆ กับกระเป๋าใส่เหรียญ มือนุ่มจึงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาแล้วคลี่มันออกอ่านตัวหนังสือที่เขียนเอาไว้ “ฉันเก็บมือถือกับกระเป๋าตังค์ของเธอไว้ที่ฉัน ฉันให้เธอออกไปจากไร่นี้ได้เมื่อไหร่ฉันจะคืนให้ อ้อ!!...ลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่ง ไอแพดของเธอ ฉันเผลอทำตกรถไปน่ะ มันก็เลยโดนรถคันหลังเหยียบแตกกระจาย” “ไอ้คนบ้า บ้าๆๆๆ สงสัยเอาไปตอนที่เราหลับไปแน่ๆ เลย” จริงอย่างที่เธอคาดเดา กวินภพอาศัยจังหวะที่เธอนอนหลับ รื้อค้นกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ข้างๆ ร่างเล็ก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาพร้อมกับกระเป๋าสตางค์ของสาวร่างสวย จากนั้นก็หยิบไอแพดของเธอออกมาจากกระเป๋าสะพาย เสร็จแล้วก็เปิดประตูรถยนต์ที่กำลังวิ่งไปบนถนนสายหลัก โยนเครื่องมือไฮเทคออกไปนอกรถ ทำให้มันถูกรถคันที่ขับตามมาเหยียบจนใช้การไม่ได้ ที่เขาทำเช่นนั้นเพราะต้องการให้เพลงมีนาหรือคนที่คิดว่าเป็นน้องหนู ไม่สามารถติดต่อกับใครๆ ได้ เพื่อที่เขาจะได้จัดการเธอได้อย่างสะดวก “ทำเกินไปแล้วนะ อย่างนี้มันล่วงละเมิดสิทธ์กันชัดๆ” เธอเข่นเขี้ยวเขาตามลำพัง นึกถึงใบหน้าของกวินภพครั้งใด อยากจะตบหน้าสักร้อยฉาด ให้สมกับอาการเจ็บใจที่แน่นทรวง “ทำไมไม่ร้องกรี๊ดซักทีวะ หรือว่าไม่กลัวตุ๊กแก” คนที่แอบยืนอยู่ข้างๆ ห้องนั้นพูดขึ้น หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงหวีดร้องแสดงความกลัวสัตว์ตัวน้อยๆ ที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปจับมาไว้ในห้องนี้ให้มากที่สุด รอรับขวัญน้องหนูโดยเฉพาะ “เอาไว้จัดการวันพรุ่งนี้ก็ได้วะ” กวินภพเอ่ยออกมาเบาๆ กำลังจะก้าวเท้าเดินกลับไปยังบ้านหลังใหญ่ “จุ๊จุ๊ๆๆๆๆ” เสียงร้องของสัตว์ชนิดหนึ่งดังขึ้นภายในห้องของเพลงมีนา ทำให้สาวแสนสวยที่อยู่ในห้องทำหน้าเลิกลั่ก ดวงตาตื่นตระหนก ตัวเริ่มสั่น ความกลัวแน่นขนัดในสมอง อาการรนรานย่างกรายมาสู่เรือนร่างสาว เธอรู้สึกเบาใจที่เสียงนั้นเงียบลง และดีใจที่ไม่เห็นสัตว์เจ้าของเสียงที่เธอกลัวขึ้นสมอง มันเป็นความกลัวและความขยะแขยงที่เธอไม่มีวันลืม เป็นความกลัวที่ไม่มีเหตุผล เพลงมีนาดีใจอยู่อย่างหนึ่งคือ ประเทศที่เธอไปพำนักอยู่กับบิดามารดาบุญธรรม ไม่มีสัตว์ชนิดนี้อาศัยอยู่ แต่พอกลับมายังบ้านเกิดไม่คิดว่าจะถูกรับขวัญด้วยสัตว์ตัวเล็กที่มีอิทธิพลใหญ่หลวงสำหรับจิตใจของเธอ “จุ๊จุ๊ๆๆๆๆๆ” เสียงจิ้งจกที่หยุดชั่วครู่ดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้เสียงของมันดังอยู่ใกล้ๆ หู ใกล้มากเหลือเกิน ราวกับว่ามันอยู่ในห้องนี้ “กรี๊ดดดดดดดดดดด กรี๊ดดดดดดดดดดด จิ้งจก จิ้งจก” เพลงมีนาร้องออกมาดังลั่นห้อง เอ่ยชื่อสัตว์ที่ตนเองกลัวเสียงสั่นเสียงเครือ เสียงนี้ดังขึ้นมาทันทีที่สัตว์แสนเกลียดและกลัวมากที่สุดในชีวิต ไต่ออกมาจากสิ่งของที่กองสุมไว้ แล้วมันก็ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนเห็นลำตัวเล็กประมาณเจ็ดเซนติเมตร ขนาดของมันเล็กกว่าลำตัวของตุ๊กแกมาก แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า เพลงมีนาเกลียดและขยะแขยงกว่าตุ๊กแกเป็นไหนๆ เธอเห็นแล้วรู้สึกหายใจไม่ออก มือไม้เย็นเฉียบ ดวงตาขยายกว้าง “ที่แท้กลัวจิ้งจกนี่เอง อย่างนี้ก็สนุกน่ะสิ” กวินภพชะงักปลายเท้าที่กำลังก้าวเดินเมื่อได้ยินเสียงจิ้งจกร้อง ตามด้วยเสียงกรีดร้องของเพลงมีนา ทำให้เขารู้ว่า สัตว์ที่เธอเกลียดและกลัวนั้นคืออะไร ก่อนจะเดินผิวปากออกห่างห้องที่มีตุ๊กแกกับจิ้งจกอาศัยอยู่ โดยไม่คิดจะใส่ใจ เพลงมีนาที่กำลังนั่งร้องไห้อย่างน่าสงสารในห้องนั้นเลย “ฮือ...ฮือ กรี๊ดดดดดดด” เสียงกรีดร้องสลับกับเสียงร้องไห้ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ยิ่งตอนที่จิ้งจกเดินไต่ไปรอบๆ ห้องคล้ายกับว่ามันจะล่วงรู้ว่า คนที่นั่งร้องไห้อยู่ในห้องนั้นหวาดกลัวมัน จิ้งจกตัวนั้นจึงแกล้งเดินไต่ไปเรื่อยๆ “ไป ไปนะ ไป ออกไปจากห้องเลย ฮือ...กรี๊ดดดดดด” เพลงมีนาบอกจิ้งจกตัวนั้นที่ส่งเสียงร้องไม่หยุด แค่ฟังเสียงเธอก็แทบจะเป็นลม ทำอะไรไม่ถูกแล้ว นี่มาตัวของมันอีกชวนสยองดีแท้ๆ หัวใจแทบจะหยุดเต้นเลยก็ว่าได้ ภาวนาขอให้มันออกไปจากห้องนี้เร็วๆ “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด” เธอส่งเสียงกรีดร้องออกมาดังลั่นห้อง เมื่อสัตว์ที่เธอรังเกียจที่สุดกระโดดลงมาเกาะพื้น เพลงมีนาที่นั่งอยู่บนเสื่อ ดีดตัวลุกขึ้นยืนเบี่ยงตัวหลบไปยืนอยู่มุมห้อง “ฮือ...กรี๊ดดดดดดดด ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เธอหวีดร้องอีกครั้ง เมื่อมันเดินตรงมายังจุดที่เธอยืนอยู่ ขาทั้งสองข้างของเธอแข็งแล้วหนักอึ้ง ยกเท้าไม่ขึ้น จะเดินหนีก็เดินไม่ได้ ได้แต่ยืนมองมันเดินเข้ามาหาเธอ แต่นั่นไม่ร้ายเท่ากับ... “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ฮือ” แค่จิ้งจกเพียงตัวเดียวเธอก็แทบจะบ้าแล้ว แต่นี่จิ้งจกอีกสองตัวไต่ขึ้นมาจุดเดียวกันกับที่ตัวแรกไต่ออกมา เพลงมีนาเห็นแล้วสติแทบขาด ความกลัววิ่งแล่นขึ้นไปจุกยังสมอง โอ้....เป็นอย่างนี้แล้วเธอจะนอนห้องนี้ได้ยังไง ไม่ได้ เธออยู่ไม่ได้แล้ว เพลงมีนากลั้นใจ เติมพลังให้กับตัวเองมากที่สุด กระโดดข้ามจิ้งจกที่เกาะบนพื้นไปยังประตูห้อง หมุนลูกบิดได้แต่ทว่าไม่สามารถผลักประตูออกไปได้ เนื่องจากมันถูกล็อคเอาไว้จากด้านหน้า เธอจึงใช้วิธีเคาะและส่งเสียงร้องดังสนั่นแทน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม