7

1378 คำ
วันนี้เขามาส่งลูกค้ารายสำคัญที่สนามบิน ระหว่างที่กำลังจะเดินออกมาจากอาคารของสนามบิน สายตาของเขาสะดุดมองไปยังร่างของสตรีนางหนึ่งที่กำลังเข็นสัมภาระออกไปทางเดียวกับเขา พอเห็นหน้าค่าตาของเธอชัดเจนแบบเต็มๆ ตา เขาก็คิดวิธีลักพาตัวน้องหนูกลับไปยังไร่ของเขา ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหากจะจับตัวเธอไปจากจุดนี้ เนื่องจากมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แผนการบุกชิงตัวกลางถนนจึงอุบัติขึ้น เพลงมีนาได้ฟังคำพูดของเขาแล้วเกิดอาการงงงันอย่างหนัก เขามั่นใจเหลือเกินว่าเธอคือน้องหนู หญิงสาวที่สร้างความเจ็บแค้นจนถึงแก่นลึกของจิตใจ ราวกับว่าหน้าตาของเธอนั้นถอดแบบน้องหนูไม่มีผิดเพี้ยน แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เธอจะหน้าเหมือนกับน้องหนูจนแยกแยะไม่ออกอย่างนั้นเชียวหรือ หากเป็นเพียงรัมภาน้องสาวฝาแฝดของตนเองก็ว่าไปอย่าง เพราะรายนั้นถอดแบบเธอราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน แยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใคร หากไม่ใช่คนคุ้นเคย หญิงสาวไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ ขยับปากให้เปิดออกยังยากลำบาก เป็นเพราะมือใหญ่ยังคงบีบแก้มสาวไม่ยอมปล่อย ความเจ็บปวด และความที่ต้องการจะพูด จะอธิบายทำให้เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นสูงจับข้อมือใหญ่ ก่อนจะกระชากลงไปด้านล่าง เพื่อให้แก้มเนียนสวยเป็นอิสระ “คุณพูดบ้าอะไร ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย ใครกันไอ้ธงไอ้ท็อป ใครที่เป็นดาวยั่ว ใครที่ทำให้คุณเจ๊ง ฉันไม่เคยทำเรื่องบ้าๆ อย่างนั้นหรอก คุณพูดมั่วๆ” คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวยังคงโต้เถียงกลับ ยิ่งเขาพูดเธอยิ่งไม่เข้าใจ “ปากดีเหลือเกิน เถียงเก่งนัก ปากแข็งอีกต่างหาก ฉันจะบอกเธออีกครั้งว่า เธอคือน้องหนู น้องหนูได้ยินมั้ย?” เขาตะโกนใส่หน้าเพลงมีนาเสียงดัง กรามขบกันแน่นด้วยแรงโทสะ “ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันชื่อเพลง ไอ้บ้าปล่อยฉันลงจากรถเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ใช่น้องหนูของคุณ” “ใช่ เธอใช่น้องหนู” “ไม่ใช่ ร้อยก็ไม่ใช่พันก็ไม่ใช่ อยากได้หลักฐานหรือเปล่าล่ะ ถ้าอยากได้เดี๋ยวฉันจะหยิบพาสปอร์ตให้ดู” “จะดูทำไม ก็ในเมื่อเธอคือน้องหนู” “โอ้ย!!...พูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่สิ คนบ้า” ปากน่าจูบของสาวร่างเล็กตะเบ็งเสียงตอบกลับ เขามองปากจิ้มลิ้มที่ช่างเถียงด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ปากคู่นี้เหมือนมีพลังดึงดูดให้เขาอยากสัมผัส แม้ว่าเธอจะคือคนที่สร้างความเจ็บใจให้กับเขามากก็ตาม “ฉันจะถามเธออีกครั้งว่า เธอจะยอมรับว่าเธอคือน้องหนูหรือเปล่า?” เขาพูดอย่างคนใจเย็น ทว่าหน้าตาดุดัน “ไม่!!...” เธอกระแทกตอบเสียงหนัก “ฉันไม่ใช่น้องหนู” ก่อนจะตะโกนใส่หน้าเขาอีกครั้ง “ดี!!” กวินภพตอบคำเดียวเน้นๆ “ปากแข็งนักใช่มั้ย ได้เลย ฉันจะทำให้เธอยอมรับเองว่าเธอคือน้องหนูเอง” ไม่ทันที่ฝ่ายหญิงจะทันตั้งตัว ร่างงดงามก็ถูกกระชากเข้าปะทะกับอกแกร่งของกวินภพอย่างรวดเร็ว ตวัดลำแขนรัดร่างนุ่มนิ่มกลิ่นกายหอมไว้ในอ้อนแขน ใช้มือใหญ่มือหนึ่งจับมั่นตรงท้ายทอย แล้วฉกจูบปากอวบอิ่มช่างเจรจาเร็วปานงูฉก ริมฝีปากใหญ่บดเบียดเรียวปากนุ่มรุนแรงพอสมควรประหนึ่งลงโทษ ฉวยโอกาสตอนที่เธอตื่นตะลึงสอดลิ้นร้อนชื้นเข้าสู่โพรงปากสาวที่อุดมไปด้วยความหวามและกลิ่นหอมเย้ายั่ว พันรัดลิ้นเล็กที่สั่นระริกกับจูบแรกถูกกระชากไปอย่างซึ่งๆ หน้าและไม่เต็มใจ ความรู้สึกบางอย่างแผ่ซ่านเข้าทุกเนื้อเยื่อภายในร่างกายของทั้งคู่ เพลงมีนาทั้งตื่นตระหนกและตกใจ ไม่คิดว่าชายหน้าตาหล่อตรงหน้าจะจาบจ้วงเธอได้มากขนาดนี้ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อในฉับพลัน แล้วในวินาทีที่ลิ้นร้ายของเขาเต้นระริกในช่องปากของเธอ ร่างสาวถึงกับอ่อนยวบ คิดอะไรไม่ออก งวยงง สมองมันเบลอไปหมด ปล่อยให้เขาลุกล้ำปลายลิ้นซอกซอนหาความหวานหอมอย่างไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน กวินภพไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ริมฝีปากของเธอจะน่าบดจูบถึงเพียงนี้ ยามที่บดริมฝีปากคั่วหารสชาติที่ไม่มีใครเหมือน ลิ้นสากใหญ่กระหวัดดื่มความหวานที่มาพร้อมกับความหอมระดับขั้นเทพ ความรู้สึกของเขาตอนนี้ซ่านทรวงเหลือคณา แต่ทำไมหนอสาวช่างยั่วเช่นเธอ จึงจูบไม่เป็นสัปปะรดเช่นนี้ ปากสั่น ลิ้นเล็กถอยหนี ไม่โต้ตอบราวกับว่าไม่เคยผ่านการจูบมาก่อน ทั้งๆ ที่เธอน่าจะช่ำชอง ไม่เพียงแค่คนที่ถูกจูบเท่านั้นที่ตกใจ คนที่นั่งอยู่ในรถต่างก็นั่งอ้าปากค้างตาค้างกันทุกคน จตุรทิศที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าคนขับหันกลับมามองสองร่างที่นั่งจูบกัน เจริญกรุงสารถีหนุ่มแทบจะเหยียบเบรกในวินาทีที่ได้เห็น ต่างก็ไม่คิดว่ากวินภพจะทำเยี่ยงนี้กับสาวเจ้าจอมยั่ว “ทีนี้จะยอมรับได้หรือยังว่าเป็นน้องหนู?” คนที่ฉวยโอกาสจูบเอ่ยถามเพลงมีนาที่หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “ถ้าไม่ยอมรับจะจูบโชว์ทุกคนในรถนี้ แล้วฉันก็ไม่แคร์ถ้าจะทำมากกว่านั้น” กวินภพพูดต่อโดยที่ไม่คลายอ้อมกอดจากร่างอิ่ม การกระทำของเขานั้นเรียกความตกใจให้กับเธอไม่น้อย แล้วยิ่งมาได้ยินประโยคถัดมานี้ด้วย ทำให้เพลงมีนารู้ว่าเขาทำตามที่พูดได้แน่นอน “แล้วถ้าฉันไม่ยอมรับล่ะ?” ความตกใจกลายเป็นความเสียใจ ...เสียใจที่ถูกเขาย่ำยีศักดิ์ศรี …เสียใจที่ถูกเขาขโมยจูบแรกที่ปราศจากความรักและความอ่อนโยน ...เสียใจที่ตนเองไม่มีทางเลือก …เสียใจที่ตนเองต้องยอมรับผิดโดยที่ตนเองไม่ได้ก่อ “ก็จะทั้งฟันทั้งจูบบนรถนี้แหละ โชว์หนังสดให้ลูกน้องของฉันดูเป็นขวัญตา” เขาตอบเสียงดังฟังชัด คนที่ได้รับคำตอบถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ทางเลือกของเธอดูเหมือนจะเหลือน้อยเต็มที ไม่ใช่สิ มันไม่มีเหลือเลย ไม่ยอมรับก็โดน ยอมรับไปก็ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง ทว่าสถานการณ์ตอนนี้มีอยู่ทางเดียวที่เธอจะเลือกได้ “งั้นยอมรับก็ได้” เธอตอบกลับเสียงอ่อย “ฉันยอมรับแล้วคุณก็ปล่อยฉันได้แล้ว” เพลงมีนาสะบัดตัวไปมา ให้เขารู้ตัวว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ “ไม่อยากกอดเท่าไหร่นักหรอก” ชายหนุ่มเจ้าของรถปล่อยเธอให้เป็นอิสระ มือใหญ่ผลักร่างงามอย่างแรงจนร่างสาวไปกระแทกกับประตูรถยนต์อย่างแรง “นั่งเฉยๆ นะ ห้ามพูด ห้ามเถียง นั่งหายใจอย่างเดียวพอ ถ้ามีคำพูดหลุดออกมาจากปากเธอแม้แต่คำเดียว ฉันจะเอาปากของฉันปิดปากเธออีกรอบ” เขาขู่สาวสวยอีกรอบ ถลึงตาใส่คนตัวเล็กที่รีบซุกตัวอยู่บนเบาะด้านในสุดอย่างน่าสงสาร เพลงมีนาหยุดพูดในวินาทีนั้น เธอสงบปากสงบคำตามที่เขาสั่ง เพราะกลัวว่าความบ้าบิ่นที่มีมากมายของชายหนุ่มที่บดจูบปากสาวเมื่อครู่ จะดีเดือดกระชากเธอไปจูบอีกครั้งหากไม่ทำตามข้อตกลง หญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องราวนั่งก้มหน้า น้ำตาหยดไหลลงบนหน้าขาของตัวเอง ตัดพ้ออยู่ในใจว่า ทำไมเธอต้องเจอะเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย ก่อนจะหันไปนอกหน้าต่างปล่อยน้ำตาให้ไหลรินโดยที่เขาไม่เห็น พลางครุ่นคิดไปตลอดทางว่า จะแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม