5 ไฟก็คือไฟ
เป็นอีกวันที่เลี่ยงจะไม่เจอหน้ากันไม่ได้ ค่ำคืนนี้มีปาร์ตี้ฉลองวันเกิดมะปราง จัดงานที่บ้านแฟนของอีกฝ่าย ที่ใหญ่โต มีบริเวณบ้านกว้างขวาง ปาร์ตี้ก็จัดริมสระว่ายน้ำนั่นเอง
ปาร์ตี้เริ่มตั้งแต่หกโมงเย็น อาหารหวานคาวและเครื่องดื่มสั่งตรงจากโรงแรมชื่อดัง
นอกจากเด็กในการดูแลของมะปรางทั้งหมดที่มีนับสิบคน รวมทั้งผู้ช่วยของมะปราง ที่ดูแลคิวของเด็กๆ แล้ว มะปรางก็เชิญเพื่อนในวงการ ที่เหมือนจะรวมทุกอาชีพของคนในวงการมารวมกัน
“ท่าทางพี่มัทจะอยากเลี้ยงน้องโจนะ” รุ้งพราว นางร้ายสายแซ่บ ที่เป็นเพื่อนในวงการที่บัณทิสาสนิทมากที่สุดกระซิบข้างหูเธอ ขณะนั่งด้วยกันเพียงลำพัง
“ยุ่งอะไรกับเขาล่ะ”
“ก็อยากเลี้ยงบ้างอะไรบ้างไง”
“ที่มีอยู่นั่นไม่พอเหรอ” รุ้งพราวชอบเที่ยวบาร์โฮสท์ และมีหนุ่มๆ ที่ชอบขนาดเปย์ของให้อยู่หลายคน
“ก็อยากเลี้ยงน้องโจมั้งไง”
“ก็ลองไปทาบทามดูสิ”
“ลองแล้ว แต่น้องเขาไม่สน และพี่ปรางก็วีนใส่ฉันด้วย”
“ก็รู้อยู่ว่ากฎพี่ปรางเป็นยังไง” มะปรางไม่ค่อยชอบให้ดาราในสังกัดคบหากัน เพราะเวลาเลิกกันแล้ว ร่วมงานกันยาก และวุ่นวายปวดหัว แต่ก็ไม่ได้ถึงเคร่งครัดว่าคบไม่ได้ แต่แค่ไม่สนับสนุนเท่าไรนัก
“จ้า แต่ฉันชอบแหกกฎเธอก็รู้”
“ตกลงทาบทามน้องเขาแล้วเหรอ”
“ก็เลียบๆ เคียงๆ แล้ว ชวนเดต แต่น้องบอกว่าไม่ไป และบอกฉันตรงๆ เลยว่า มีคนที่ชอบแล้ว ขอคุยกับฉันแบบพี่น้องร่วมผู้จัดการคนเดียวกัน”
“พูดกับแกขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อือ เหมือนกลัวว่าฉันจะเสียเวลามั้ง ฮ่าๆ ตรงๆ ดีชอบ”
“ยังจะชอบอีกนะ เขาบอกขนาดนั้นแล้ว”
“อ้าว นานๆ จะเจอผู้ชายที่ไม่อยากให้ฉันเปย์ไง ที่ผ่านมาชอบฉันหรือไม่ชอบ เขาก็พร้อมจะเดตกับฉันทั้งนั้น”
“เก็บเงินไว้บ้างเหอะ”
“ไม่ ฉันชอบแบ่งปัน”
ฟังแบบนั้นแล้วบัณทิสาก็เลยได้แต่ปลง ส่วนเธอไม่พร้อมจะแบ่งปันอะไรกับใครทั้งนั้น แม้แต่ความรู้สึก
แต่ยอมรับเวลาเห็นมัทนาพูดคุยกับโจฟิน แบบกระซิบข้างหู ปากแทบจะชนแก้มอีกฝ่าย รู้สึกร้อนรนในใจ
กลัวโจฟินเคลิ้ม ถึงมัทนาจะอายุสี่สิบแล้ว แต่เพราะตัวเล็ก หน้าเด็ก และหุ่นแซ่บมากๆ เด็กหนุ่มที่เพิ่งเข้าวงการ ทั้งดารา นายแบบก็หลงใหลมัทนาอยู่หลายคน เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตา ความเป็นดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ดัง ทำให้มัทนามีเสน่ห์ในตัวเองมากขึ้น
บัณทิสาแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองนั้น แทบไม่ละสายตาจากโจฟินเลย
“เด็กอะไรไม่รู้หล่อมาก หุ่นแซ่บ ตาสีฟ้าเข้มก็น่าหลงใหลที่สุด โอ๊ย ทำไมเขามองข้ามความสวยของฉันไปได้”
“เขาไม่ได้มองข้ามมั้ง แค่เขามีคนที่ชอบแล้ว” เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่เขาชอบคือใคร
จู่ๆ ก็อยากรู้เสียอย่างนั้น
“อยากรู้จังคนที่เขาชอบคือใคร สวยแซ่บเท่านั้นไหม”
“ถามเขาเลยไหม” บัณทิสาประชด
“หรือจะลองถามดู เผื่อจะเป็นคนในวงการ”
“น้องเขาเพิ่งเข้าวงการ ยังไม่รู้จักใครเลยไหม”
“วันก่อนเห็นว่าไปถ่ายเสื้อผ้าของพี่มัทแล้ว มีนางแบบหลายคนอยู่ที่ไปถ่ายงานวันนั้น”
“แกคิดว่าเขาชอบนางแบบ”
“ก็อาจจะเป็นไปได้ หรือไม่ก็ดาราคนอื่นๆ เพราะพี่ปรางก็ขยันพาน้องโจออกงานเหลือเกิน”
“ก็พาไปเปิดตัว แนะนำให้คนรู้จักมากขึ้น”
“แต่น้องเขาไม่สนใจงานแสดง เห็นว่าสนใจงานถ่ายแบบ เดินแฟชั่นโชว์ งานโฆษณาก็น่าจะพอได้ แต่ถามดู น้องโจอยากเป็นช่างภาพมากกว่า”
“คุยกับน้องเขาเยอะเนาะ” บัณทิสาหลุดประชด
“โอ๊ย แน่นอนสิ น้องใหม่นี่ก็ต้องคุยเยอะ ว่าแต่แกเถอะ ไม่เห็นคุยอะไรกับน้องเขาเท่าไหร่”
“ก็น้องเขาดูไม่ค่อยว่าง ใครๆ ก็พุ่งเข้าหา ไม่มีจังหวะเข้าไปคุย” บัณทิสาแก้ตัว
“โอ๊ย ลืมไป แกพักอยู่ห้องข้างๆ กันนี่นะ”
“โอ๊ย วันๆ ฉันก็ออกไปทำงาน น้องเขาเองก็ออกไปทำงานเหมือนกัน ไม่ได้จะบังเอิญเจอกันได้ง่ายๆ”
“คุยอะไรกันอยู่ คุยด้วยได้ไหม” ศรุตเดินมานั่งร่วมโต๊ะ
“คุยเรื่องน้องโจ” รุ้งพราวตอบ
“เด็กใหม่เนื้อหอมมาก ดูสิว่าจะตกอยู่ในมือใคร” ศรุตพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
“มือของรุ้งหรือเปล่าน๊า”
“ไปตบตีกับพี่มัทก่อนเถอะ” ศรุตบุ้ยใบ้ไปยังดีไซเนอร์คนดัง ที่ยังเกาะติดน้องใหม่โจฟินไม่ห่าง
“ท่าทางพี่มัทจะชอบน้องโจจริงๆ แต่ขนาดรุ้ง น้องเขายังปฏิเสธ พี่มัทก็ไม่น่าจะตอบรับนะ” รุ้งพราวพูดอย่างมั่นใจ
“โอ๊ย คุยเรื่องอื่นกันบ้างเหอะ” บัณทิสาเริ่มรู้สึกไม่ไหวกับหัวข้อสนทนาที่ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องของโจฟินกับมัทนา
“งั้น สรุปบันนี่รับเล่นเรื่องไฟรานใจหรือเปล่า” ศรุตเปลี่ยนเรื่องคุย
“ยังอ่านบทไม่จบเลยค่ะ ก็เลยยังไม่ตัดสินใจ”
“พี่จะรับนะ”
“รุ้งก็รับไปแล้วค่ะ ชอบมากได้ตบนางเอกด้วย ฮ่าๆ”
“งั้นบันนี่คงไม่รับ”
“อ้าว!!”
“อยากเล่นเรื่องที่ตบนางร้ายมากกว่า ฮ่าๆ” บัณทิสาหัวเราะตบท้ายอย่างสนุกที่ได้แกล้งเพื่อน
เพราะบทละครที่เธอถูกเสนอมานั้น สามในห้าเรื่องมีรุ้งพราวรับบทเป็นนางร้าย คิวงานแน่นยิ่งกว่านางเอกอย่างเธอเสียอีก
“ให้ผมขับไหม” โจฟินถาม เพราะหลังปาร์ตี้จบลง เขาก็ถูกฝากให้กลับพร้อมกับบัณทิสา และเธอขับรถเองมาคนเดียว ไม่ได้มีคนขับรถเหมือนตอนไปทำงาน
“ไม่เป็นไร คุณยังไม่คุ้นกับถนนหนทางในกรุงเทพฯ ไม่ใช่เหรอ”
“ครับ คิดว่าคงอีกพักใหญ่ ถึงจะกล้าขับเอง”
“งั้นก็นนั่งเฉยๆ เลย”
“ครับ”
แต่พอรถเคลื่อนออกจากบ้านมะปรางไม่กี่นาที คนที่รับคำว่าจะนั่งเฉยๆ ดันหลับไปเฉยๆ
ที่พักของเธอกับบ้านแฟนมะปรางอยู่ไกลกันมาก แม้ดึกมากแล้ว รถไม่ติด แต่กว่าจะถึงก็เกือบชั่วโมง เมื่อรถจอดสนิทในลานจอดของคอนโดฯ แต่คนที่นั่งข้างๆ ก็ยังไม่ตื่น แถมทอดจังหวะหายใจอย่างสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าหลับลึก
คงเหนื่อยจากการตระเวนไปแคสต์งาน หรือติดตามช่างภาพเรย์ไปถ่ายภาพ
นึกๆ แล้วก็น่าสงสาร เขาเคยอยู่คอนโดฯ ติดริมทะเล ใช้ชีวิตแบบชิลๆ กับการนั่งมองพอร์ตหุ้น หรือแม้แต่วาดรูปและโหลดงานลงขายในเว็บไซต์
อะไรที่ทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นดิ้นรนมาอยู่ที่นี่ มาทำงานในวงการ ในขณะที่เธอฝันว่าวันหนึ่งจะได้ใช้ชีวิตแบบเด็กหนุ่มที่พบในเมืองชายทะเลคนนั้น
แต่ตอนนี้เธอยังไม่มีเงินมากพอ ที่จะใช้ชีวิตชิลๆ และจังหวะชีวิตของเธอในการทำงานยังไปได้อีกไม่นาน เพราะอายุใกล้เข้าเลขสามแล้ว ต้องกอบโกยในโอกาสที่เหลือให้ได้มากที่สุด เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ใช้ทั้งแรงกายแรงใจ ต่อสู้ฟาดฟันกับทุกอย่างกว่าจะยืนอยู่ได้ด้วยตำแหน่ง ซุป’ ตาร์ อันดับต้นของเมืองไทย
เด็กใหม่ๆ มากฝีมือ มีดีทั้งหน้าตารูปร่าง ทยอยเข้าวงการมาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นนอกจากตัวเธอต้องรักษาคุณภาพงานของตัวเอง ภาพลักษณ์ของเธอก็ต้องรักษายิ่งชีวิตเช่นกัน
คิดแล้วถอนหายใจแรง เพราะบางขณะอยากจะคว้าทุกอย่างที่เป็นกรอบหรือพันธะต่างๆ ในฐานะซุป’ ตาร์ทิ้ง เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระ อยากรักก็รัก อยากมีเซ็กซ์ก็มี โดยไม่ต้องสนใจว่าเรื่องรัก เซ็กซ์ของตนเองจะทำให้คนอื่นมองในแง่ไม่ดี
แต่รู้ว่านั่นคือสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ สุ่มเสี่ยงเกินไปที่จะสูญเสียสิ่งที่พยายามมาจนถึงตอนนี้
แต่คนที่หลับข้างๆ ก็ทำใจสั่น และร้อนผ่าวไปทั้งตัว ใบหน้าหล่อหลานั้นเวลาหลับเหมือนเจ้าชายที่รอจุมพิตจากเจ้าหญิง
ความคิดแวบเข้ามาในหัว ทำให้เธอค่อยๆ เลื่อนใบหน้าไปใกล้ มองเรียวปากหยักสวยอย่างชั่งใจ ก่อนสุดท้ายผละห่าง แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อมือใหญ่ยกขึ้นกดท้ายทอยเธอลงจนริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกัน
ริมฝีปากอุ่นเจือกลิ่นไวน์นิดๆ ยิ่งทำให้รู้สึกหอมหวาน บวกกับจูบที่อ่อนโยนแต่เร้าอารมณ์ บัณทิสาก็ไม่อาจหักห้ามใจ เปิดริมฝีปากต้อนรับจูบของโจฟินอย่างเต็มอกเต็มใจ
จากจูบอ่อนหวานก็เลยเร่าร้อนขึ้น เสียงจูบดังก้องในรถ ความร้อนผ่าวกระจายไปทั่วร่าง ยิ่งมือของโจฟินลูบคลำทรวงอกอวบ บัณทิสาเสียวซ่านจนเผลอคราง เมื่อริมฝีปากอุ่นลากไล้ลำคอระหง มือของเขาก็ซุกซนสอดเข้าไปในชายกระโปรงที่วันนี้เธอสวมกระโปรงสั้นเสียด้วย เอื้อต่อการล้วงเข้าไปข้างใน กระทั่งหยุดกึ่งกลางร่างกาย ทักทายด้วยการลูบเบาๆ ผ่านบิกินี แต่นิ้วแกร่งนั้นก็สัมผัสถึงความชื้นแฉะ
""""""""""""""""