3 รู้จักซุป’ ตาร์
โจฟินดีดตัวขึ้นจากที่นอน หลังจากตื่นมาแล้วพักใหญ่ แต่ยังนอนนิ่งๆ ว้าวุ่นใจเกี่ยวกับบี แถมฝนก็ยังเทกระหนำลงมาไม่หยุด ทั้งที่ตกตั้งแต่ตอนดึก กระทั่งสายมากแล้ว
ทำให้ความรู้สึกเหงายิ่งกว่าที่เคยเหงา และฟุ้งซ่านไปว่าอยากให้บีอยู่ข้างๆ นอนมองดูสายฝนด้วยกัน
“เฮ้อ” เขาถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะเดินไปยังแพนทรี ทำอาหารมื้อแรกกิน ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก หยิบอาหารแช่แข็งที่ซื้อมาตุนไว้ใส่ไมโครเวฟ แล้วชงกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล
กินอิ่มก็ไปนั่งที่มุมนั่งเล่น หยิบรีโมทมาเปิดทีวีดู เลือกกดช่องโทรทัศน์ของไทยตามคำแนะนำของมะปรางกับมิกซ์
กดช่องไปเรื่อยๆ มีทั้งรายการข่าวการเมือง สังคม ครอบครัว ละคร กระทั่งเจอโฆษณาครีมบำรุงผิวหน้า เขารู้สึกว่า
พรีเซ็นเตอร์สวยก็เลยหยุดดู
แต่หน้าคุ้นๆ นะ
คงไม่ใช่...มั้ง
เขากดไปอีกหลายๆ ช่อง เจอโฆษณาอีกหลายตัว ที่หญิงสาวเล่น ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะเป็นระดับซุป’ ตาร์ เพราะกดไปช่องไหน เจอโฆษณาก็เห็นแต่หน้าเจ้าหล่อน
กระทั่งเจอรายการที่ถูกใจ เป็นวาไรตี้มีผู้หญิงสวยๆ สองคนเป็นพิธีกร อ่านข่าวในวงการบันเทิง
‘น้องบันนี่ บัณทิสา ซุป’ ตาร์สาวสุดฮอทของเรา หลังจากเก็บตัวเงียบมาหลายวัน วันนี้มีงานอีเวนท์ที่สยามพารากอน และได้ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกเกี่ยวกับข่าวเลิกรากับไฮโซหนุ่มที่ทำเพื่อนสนิทของเธอท้อง ซึ่งเพื่อนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น นางร้ายหน้าสวย พิม พิมพายนั่นเอง’
“ก็โอเคแล้วค่ะ”
นักข่าวหนึ่งในหลายๆ คนที่รุมล้อมจ่อไมค์นักเอกสาวก็ถามขึ้น
“หมายถึงว่าที่ผ่านมาก็หนักอยู่”
“ก็เป็นธรรมดาค่ะ แต่ได้ไปพักผ่อนหลายวันก็โอเคขึ้น และรักตัวเองมากขึ้น
“หรือมีหนุ่มมาดามใจแล้ว”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่เจอคนที่คุยแล้วสบายใจ และไม่คิดถึงเรื่องเก่าๆ”
“ได้คุยกับคนในประเด็นบ้างหรือยังคะ”
“ไม่คุยแล้วค่ะ และต่อไปนี้ บันนี่ขอพี่ๆ นักข่าวว่าครั้งนี้
บันนี่จะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องเซ้นซิทีฟกับหลายๆ คน และตัวบันนี่เองก็อยากมูฟออนกับเรื่องนี้แล้ว”
จากนั้นนางเอกซุป’ ตาร์คนดังก็ไหว้พี่ๆ นักข่าว ภาพจะตัดจบมายังพิธีกรสาวสวยทั้งสองคน
‘ก็ต้องเข้าใจน้องบันนี่นะคะ เพราะเรื่องแบบนี้ใครๆ ก็อยากมูฟออน’
‘ใช่แล้วค่ะ สวยๆ เริ่ดๆ แบบน้องบันนี่ พอโสด โห หนุ่มๆ รุมจีบ จนเลือกไม่ถูกเลยล่ะ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องบันนี่ต่อไปนะคะ’
พบจบประโยคนั้นก็ตัดรายการไปยังโฆษณาอีกหลายตัว และเขาก็ได้เห็นซุป’ ตาร์ บันนี่กับโฆษณาอีกหลายตัว แม้ใบหน้าจะแปลกไปเพราะเมคอัปจัดเต็ม แต่โฆษณาบางตัว เช่นครีมบำรุงผิว ก็แต่งหน้าบาง เพื่อให้ดูเป็นใบหน้าก่อนแต่ง โดยเฉพาะดวงตาอันคุ้นเคยนั้น ทำให้โจฟินแน่ใจว่าซุป’ ตาร์ บันนี่ก็คือบีนั่นเอง
นี่คือเหตุผลที่เธอทำตัวแปลกๆ สินะ!
ภายในห้องนอนของคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางเมือง ในตอนเช้าตรู่ ร่างของใครบางคนหลับสบายอยู่ใต้ผ้านวม ขณะข้างนอกฝนเทกระหน่ำ เพิ่มความรู้สึกไม่อยากลุกจากที่นอน แต่เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ฮือ” เธอครางในลำคออย่างขัดใจ ก่อนเอื้อมมือไปปิดขณะที่ยังหลับตา หญิงสาวหลับต่อ แต่อีกสิบนาทีต่อมาเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้เธอค่อยๆ ลืมตา แล้วลุกนั่งบนที่นอน ก่อนจะก้าวจากเตียง เดินไปยังห้องน้ำ
ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเธอก็อยู่ในชุดพร้อมออกจากห้องพัก กับการแต่งกายเรียบง่าย เสื้อครอปสีขาวกับกางเกงยีนส์ ส่วนใบหน้านั้นทาแค่ครีมบำรุง ก่อนจะหยิบแมสมาสวมใส่ รวมทั้งหมวกแก็ป แว่นกันแดด แล้วหยิบกระเป๋าที่ใส่ของใช้ส่วนตัวทุกอย่าง จากนั้นก็โทร. หาคนขับรถเพื่อให้มาจอดรอด้านหน้าล็อบบี้ แล้วเดินออกจากห้องพัก
เมื่อขึ้นรถตู้มาก็เห็นคาปูชิโน่วางอยู่ในตรงที่วางแก้วเหมือนเช่นทุกครั้งที่ออกมาทำงาน
“ฝนจะตกไปถึงไหน” เธอชอบฝนเฉพาะเวลานอนหรืออยู่ที่ห้องพักเท่านั้น
“สงสัยจะตกทั้งวัน” สมพงษ์ หรือ ‘น้าพงษ์’ ทำหน้าที่คนขับรถของหญิงสาวมาหลายปีตอบ ก่อนจะเคลื่อนรถออกจากบริเวณที่พัก เพื่อตรงไปยังสตูดิโอแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานวันนี้ของเธอ
โทรศัพท์มือถือดังขึ้น ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนผู้จัดการของเธอนั่นเอง
“ค่ะ เพิ่งออกจากคอนโดฯ
[โอเค นึกว่ายังไม่ตื่นเสียอีก]
“ก็ต้องตื่นอยู่แล้วไหมคะ” เธอทำเสียงประชดเล็กน้อย
[ก็ฝนตกนึกว่าจะนอนเพลิน]
“โอเคค่ะ ครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
[จ้า รีบมาเร็วๆ ล่ะ พี่มีคนอยากจะแนะนำให้รู้จัก]
“ใครอีก บอกเลยนะ ไม่ต้องมาแนะนำผู้ชายอะไรให้ทั้งนั้น”
เพราะตั้งแต่โสด ผู้จัดการส่วนตัวก็คงกลัวเธอเศร้า ไม่แก่ใจทำงาน เลยสรรหาผู้ชายคุณสมบัติเพียบพร้อมมาแนะนำให้รู้จัก แต่เธอไม่ได้รู้สึกอยากคุยกับใครเป็นพิเศษ เพราะคิดว่าตัวเอง
มูฟออนจากเรื่องรักห่วยๆ ได้แล้ว ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องงาน ส่วนเรื่องความรัก ก็ขอเวลาสำรวจใจตัวเองอีกครั้ง ว่ารู้สึกกับคนคนนั้นมากน้อยแค่ไหน ไม่อยากด่วนตัดสินใจเร็วไป กลัวพลาดอีกครั้ง
[โอ๊ย ไม่ใช่แบบนั้น ไม่เอาแล้วจ้า คนนี้น่ะ แค่เด็กในสังกัดคนใหม่ของพี่ อยากให้รู้จักเป็นพี่น้องร่วมผู้จัดการเท่านั้นจ้า]
“งั้นแล้วไป บันนี่ยินดีช่วยดูแลน้องใหม่ ว่าแต่หล่อไหมล่ะ”
[อย่าให้พูด มาดูด้วยตาตัวเองดีกว่า]
“โอเคเดี๋ยวเจอกันค่ะ”
ครู่ต่อมาก็ถึงที่หมาย น้าพงษ์จอดรถด้านหน้าตึกสองชั้นที่เป็นสตูดิโอถ่ายแบบของวันนี้ หญิงสาวเดินเข้าไปในอาคารก็เจอกับผู้จัดการสาวสอง ที่ชื่อมะปราง อายุมากกว่าเธอสิบปี ยืนคุยกับทีมงานที่เคาน์เตอร์ พอเห็นเธอก็รีบเดินมาหาทันที ขณะที่บัณทิสายกมือไหว้พี่ๆ ทีมงานที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเธอถ่ายแบบนิตยสาร Pearl ทุกปี
“ไหนล่ะ คนที่อยากแนะนำให้รู้จักน่ะ” เธอถามพร้อมสอดส่ายสายตาหาคนที่ผู้จัดการจะแนะนำให้รู้จัก ในฐานะพี่น้องร่วมผู้จัดการเดียวกัน
“ยังจ้า เธอต้องสวย เริ่ด เพอร์เฟกต์ให้สมกับเป็นซุป’ ตาร์อันดับต้นของเมืองไทย เพราะฉันอวยความงามประดุจเจ้าหญิงของเธอไว้เยอะ ไปห้องแต่งหน้าเลย พระเอกของเธอก็เพิ่งเข้าไปเมื่อกี้”
‘พระเอกของเธอ’ ที่ว่าก็คือศรุต เป็นพระเอกคนแรกที่เธอเล่นละครด้วย จนเป็นที่รู้จัก และมีงานคู่กับศรุตมากที่สุด รวมทั้งละครเรื่องล่าสุดที่กำลังออนแอร์ พอเธอโสด กระแสคู่จิ้นก็กลับมาแรงอีกครั้ง แถมทำให้แฟนคลับคู่จิ้นมีความหวังว่าเรื่องของเธอกับศรุตจะเกิดรักนอกจอ
"""""""""""""""