ภรรยาที่ดีของคุณพอร์ช {Omegaverse} + {y}

ภรรยาที่ดีของคุณพอร์ช {Omegaverse} + {y}

book_age18+
261
ติดตาม
1K
อ่าน
เศรษฐี
love-triangle
ครอบครัว
จบสุข
หวาน
ชายจีบชาย
witty
friends with benefits
like
intro-logo
คำนิยม

ชีวิตหลังเเต่งงานของทุกคู่ต่างจบลงด้วยดีเเละมีความสุข ต่างจากคู่นี้ที่คนหนึ่งเย็นชาตั้งเเต่เเรกเห็นเหินห่างตั้งเเต่วิวาห์จบเเละอีกคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีต่อสามีตั้งเเต่เเรกพบ เเน่สามีกลับเฉยชาทำราวกับว่าภรรยาเป็นเพรยงวิญญาญ

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
0
ปฐมบทภรรยาที่ดีของคุณพอร์ช ‘บ้านกลิ่นโกสุม’ เรือนไม้สักหลังใหญ่งดงามยกสูง โอบรอบไปด้วยธรรมชาติสีเขียวสบายหูสบายตาหมู่ต้นไม้น้อยใหญ่เเข่งขันกันผลิดอกออกใบ กลุ่มดอกไม้นานาพันธุ์พลัดกันส่งกลิ่นหอมขจรขจาย ‘คุณนิพนธ์’ หรือ ‘นิพนธ์ กลิ่นโกสุม’ ตื่นขึ้นจากห้วงนิทราเเต่เช้าตรู่ ยืนสัมผัสกลิ่นอายบริสุทธิ์ของเช้า ณ หน้าระเบียงห้อง พลางจิบกาเเฟหอมๆ ไปพลาง “คุณคะ ตื่นเเต่เช้าเลยนะคะวันนี้” ‘คุณเข็ม’ ภรรยารักพูดพลางมายืนเคียงสามี สายตาคู่สวยมองไปยังเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยความสบายอารมณ์ “เเม่เข็ม คิดว่าฉันจะปลูกอะไรเพิ่มอีกดี” เขาลดเเก้วกาเเฟลง หันใบหน้ามามองภรรยาเพื่อต้องการความเห็น เธอหลุดขำเบาๆ ใส่สามี “เเค่นี้ คนด้านนอกก็จะมองไม่เห็นบ้านเราเเล้วนะคะ” “ปลูกเพิ่มอีกนิด จะเป็นไรไปเเม่เข็ม” คุณเข็มส่ายหัวเอือมๆ ใส่ความดื้อรั้นของสามี “งั้นก็เเล้วเเต่คุณเลยค่ะ” “โอ้เเม่ยอดยายี” ปลายเท้าสวยกำลังจะมุ่นเพื่อเดินหนีสามีดื้อ ทว่าสามีรักก็ดึงร่างของเธอกลับมาที่เดิม คุณนิพนธ์สวมกอดศรีภรรยารัก กำลังงอลที่เขาไม่ฟังสิ่งที่เธอพูด จึงสวมกอดเป็นการง้อเมียยอดรัก “ไม่ปลูกก็ไม่ปลูกจ้ะ” “คุณพูดได้ เเต่ใจคุณทำไม่ได้” เธอบ่นใส่สามี คุณนิพนธ์ยิ้มเบาๆ เมื่อถูกภรรยารู้ทัน ถึงปากจะบอกไม่ปลูก เเต่สุดท้ายเขาก็ทำมันอยู่ดี “ฉันก็ไม่ได้คิดจะปลูกเยอะนะ เเค่จะ…เอาไปปลูกตรงโน้น” สามีพูดพลางชี้ทิศทางที่เขาต้องการปลูกหมู่พฤกษ์พันธุ์ใหม่ คุณเข็มหันไปมองตามทิศที่มามีได้บอก เธอจึงรีบปราบสามีโดยเร็ว “ได้ไงคุณ ตรงนั้นมันสวนดอกไม้ของกฐินนะคะ” “…อ้าวหรือ” เด็กหนุ่มร่างสูง ๑๖๙ เซนติเมตรผิวพรรณขาวนวลลออ ใบหน้าอ่อนหวานน่ารักจับใจ ริมฝีปากบางเป็นกระจับฉีกยิ้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขล้น ดวงตากลมใสดั่งกวางตัวลูก จดจ่ออยู่กับหมู่บุหงาหลากหลายชื่อหลากหลายสี ความงดงามของดอกมะลิถูกเด็ดอย่างประณีต ก้านนิ้วเรียวขาวยกดอกสีขาวขึ้นชนปลายจมูกโด่งเล็ก สูดดมความหอมของดอกไม้ก่อนจะวางมันลงในกระดงที่มีดอกไม้อื่นอยู่ร่วมกัน “คุณกฐินตื่นเเต่เช้าเลยนะจ้ะ วันนี้เก็บกอดไม้ไปทำอะไรหรือจ้ะ” เด็กหนุ่มที่ง่วนอยู่กับดอกไม้ ก็ผละหน้าออกเเหงนขึ้นมองคนใช้คนสนิท พร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ “อรุณสวัสดิ์ครับป้าศรี” ‘กฐิน’ บุตรชายคนสุดท้องของบ้านกลิ่นโกสุม โอเมก้าคนเดียวในตระกูล ที่คุณนิพนธ์เเละคุณเข็มต้องดูเเลเอาใส่ใจกว่าปกติ “อรุณสวัสดิ์จ้ะ เเล้วนั้นคุณกฐินจะเอาดอกไม้ไปทำอะไรหรือจ้ะ” เธอเอ่ยถามในขณะที่ค่อยๆ ยํ้าฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก กฐินยิ้มเบาๆ ก่อนจะตอบเธอให้หายสงสัย “ผมจะเอาไปอบรํ่าเสื้อผ้าน่ะครับ” “อ่อ เอ๊ะ นํ้ายาปรับผ้านุ่มหมดเหรอคะคุณกฐิน” “เปล่าครับ เเค่อยากทำ ไม่ได้ทำนานเเล้ว” “เเต่รํ่าผ้ามันใช่เวลานานนะคะคุณกฐิน ป้าว่าใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมันดีกว่า เร็วกว่าด้วยนะคะ” ป้าศรีพูด เธอรู้ว่าการรํ่าผ้ามันใช้เวลานาน จึงไม่อยากให้คุณหนูของเธอทำ “ให้ป้าเอาไปซักให้ไหมคะคุณกฐิน” เเต่ก็นั่นเเหละความชอบของคุณกฐินเขา “ไม่เป็นไรครับ ผมชอบทำ” คนตัวเล็กตอบพร้อมรอยยิ้มที่สดใส “จ้ะ งั้นป้าไม่กวนคุณกฐินเเล้วนะคะ เเต่ถ้ามีเรื่องอะไรให้ป้าช่วยบอกได้นะคะ” “ครับ” เขาพูดจบจึงหันมาง่วนอยู่กับดอกไม้ตามเดิม หัวหน้าเเม่บ้านจึงมั่นปลายเท้าหันหลังกลับไปจัดการกับหน้าที่ของเธอ การอบรํ่าผ้าเป็นวิธีการของคนสมัยก่อน ที่ทำให้เสื้อผ้าหอมฟุ้งตามเเบบฉบับคนชาววังสมัยโบราณ ที่สืบทอดทำการมาเนิ่นนาน เเต่ในสมัยนี้การอบรํ่าผ้าถือว่าหาดูได้ยาก เนื่องจากวิธีการทำค่อนข้างจะใช้เวลานาน เเละมีส่วนผสมหลายอย่าง จึงไม่เป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีสิ่งที่ทดเเทนการอบรํ่าผ้านั่นคือ นํ้ายาปรับผ้านุ่ม วิธีการไม่ได้ยุ่งยาก ง่ายสะดวกรวดเร็ว ความหอมไม่เเพ้การอบรํ่าผ้า “นํ้าปรุง นํ้าอบ เเล้วก็…กระเเจะ” เมื่อรับรู้ว่าส่วนผสมหายไปหนึ่งสิ่ง คนตัวเล็กจึงลุกขึ้นเดินมาค้นหามันในตู้เก็บของ ที่ถูกจัดไว้เฉพาะของที่จำเป็น “อยู่นี้เอง” ร่างบางเดินวนกลับมานั่งลงพื้นไม้ วางกระเเจะลงบนโต๊ะไม้สักขาสิงห์ให้อยู่รวมกับพวก ก้านนิ้วเรียวขาวชี้วัถุดิบต่างๆ ที่จะใช้อบรํ่าผ้า นับทุกชิ้นว่ามิได้ขาดอะไรไป ครั้นรู้ว่าทุกอย่างครบครันเเล้ว จึงหันมาหยิบผ้าสะอาดเช็ดถูที่หีบไม้มีฝาใช้อบรํ่าผ้า ก่อนจะเริ่มอบรํ่าผ้าต้องทำความสะอาดกล่องไม้เสียก่อน มิให้มีฝุ่นมีใยผ้าที่ถูกใส่จะได้ไม่สกปรก กฐินจัดการเช็ดจนสะอาดทุกซอก เขาจึงวางมือลงหันกลับมาหาวัตถุดิบเครื่องหอม หยิบถ้วยตะคันภาชนะดินเผาคล้ายจานบางมีเชิงนำมาวาง กฐินจับช้อนตักผงกระเเจะผงเครื่องหอมประสบเเบบโบราณ โดยปรกติมีเครื่องผสม คือไม้จันทร์ เเก่นไม้หอม ชะมดเชียง หญ้าฝรั่น ถูกตักลงในตะคันตามด้วยนํ้าอบ เครื่องหอมที่เป็นนํ้าในสมัยก่อน มีส่วนผสมของดอกมะลิ ดอกเเก้ว ดอกชมนาด เนื้อไม้ ยางไม้ ผิวมะกรูด เเก่นไม้จันทน์ เปลือกชลูด นำมาอบจนเป็นนํ้าอบที่ให้ความหอมเย็นสบาย ต่อจากนํ้าอบก็เป็นนํ้าปรุง เป็นเครื่องหอมไทยชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของพืชที่มีกลิ่นหอม ทำให้ความหอมติดยงคงความนาน สามสิ่งที่ถูกใส่ลงในถ้วยตะคันดินเผาถูกปดปรนเข้าด้วยกันจนเป็นนํ้าขาว กฐินจับฝาหีบเเล้วเเต้มกระเเจะลงบนฝาที่จะใช้รํ่าผ้า นำเสื้อผ้าที่จะใช้รํ่าวางใส่ในหีบให้เป็นระเบียบ เเละจึงปิดฝาหีบ “คุณกฐินครับ นี้ครับ เตาถ่านร้อนๆ” ‘เสริฐ’ ลูกชายหัวเเก้วหัวเเหวนของ ‘ป้าศรี’ หัวหน้าเเม่บ้านคนสนิท กฐินหันมาหาเสริฐชายหนุ่มที่มีอายุไล่ๆ กับเขา พบกับเตาถ่านอันเล็กที่กำลังร้อนระอุ ที่ก่อนหน้านี้กฐินได้สั่งให้เสริฐไปทำให้ “ร้อนกำลังดีเลยครับเสริฐ” “ครับ เเต่กว่าจะร้อนขนาดนี้ ก็เหนื่อยไปเยอะอยู่ครับ” เสริฐปาดเหงื่อ กว่าจะร้อนแรงขนาดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เเต่โชคดีที่เสริฐใช้พัดลมเข้าช่วย “เเล้วคุณกฐินจะทำอะไรหรือครับนั้น” “ผมกำลังจะรํ่าผ้านะครับ เสริฐช่วยเผาตะคันอันนี้ให้ร้อนที” คนตัวเล็กหยิบถ้วยตะคันอันเล็กให้เสริฐ เจ้าเสริฐรับมันมาอย่างงงๆ “เผาทำไมครับคุณกฐิน” “เผาไปเถอะน่า เดี๋ยวเสริฐก็รู้เองครับ” เสริฐเกาต้นคอเบาๆ เเล้วนำตะคันที่กฐินสั่งให้ทำ จัดการวางลงบนถ่านร้อน เเละใช้ที่คีบที่เตรียมมาด้วย คีบตะคันพลิกไปมาในกองถ่านที่ร้อนระอุ กฐินเมื่อเห็นว่าเสริฐจัดการสิ่งที่สั่งเเล้ว ก็หันมาจัดเตรียมเครื่องหอมส่วนสำคัญต่อ เขาหยิบถ้วยใบใหญ่พอดีมาวางจับช้อนตัก นํ้าตาลทรายเเดงที่ปนละเอียด ตามด้วยกฤษณา ผิวมะกรูด จันทน์เทศ กำยาน เเล้วใช้ไฟลนไขชะมัดให้เหลวหอมนำมาหยดใส่ถ้วย คนทุกเครื่องหอมให้เข้ากัน หันตัวมาเปิดฝาหีบอีกคราจับทวนทรงสูงวางไว้ตรงกลางหีบ กฐินหันกลับมาหาเสริฐที่เผาตะคัน “เสร็จรึยังเสริฐ จะใช้เเล้วนะ” “ครับ เสร็จเเล้วครับคุณกฐิน คุณกฐินจะให้เสริฐเอาไปวางให้ตรงไหนครับ” “เอาวางให้ผมบนทวนนี้เลยครับเสริฐ” เจ้าเสริฐรู้งานใช้มือบีบที่คีบตะคันร้อนๆ ให้เเน่น เเล้วค่อยๆ เคลื่อนไหวตัวอ้อมมาหาหีบไม้สักเพื่อวางตะคันร้อนๆ ลงบนทวนที่สูงชันในหีบ “วางเเล้วนะครับ” “อื้อ วางเลยเสริฐ” กฐินสั่ง ตะคันร้อนๆ ถูกวางลงบนทวน เจ้าเสริฐขมวดคิ้วมองคุณหนูของตน เขาไม่เข้าใจนักว่าคุณหนูจะทำอะไร “เเล้วคุณกฐินจะทำอะไรต่อหรือครับ” เสริฐถามด้วยความสงสัยเสียเต็มประดา กฐินไม่ได้ตอบอะไรเพียงยกยิ้มส่งให้คนใช้ กฐินจับเทียนหอมขึ้นมาลนไฟจากเตาถ่าน เเละติดมันไว้ที่ฝาหีบเเล้วจุดไฟ หลังจากนั้นกฐินจึงเริ่มตักเครื่องหอมที่ผสมไขชะมดลงในตะคันที่ร้อนจัด ให้ความร้อนหลอมละลายผงเครื่องหอม ดับเทียนหอมให้เกิดควันที่หอมฟุ้ง เเล้วปิดฝาหีบเอาไว้ ทั้งไว้เพียง ๑ คืน “คุณกฐินทำอะไรหรือครับ เสริฐตั้งใจดูเเล้วดูอีกก็ยังไม่เข้าใจเลยครับ” เสริฐทำท่าทีคิดหนักคิ้วหนาขมวดมุ่นเพ่งเล็งสิ่งที่กฐินทำ ไตร่ตรองหนักมากเเต่ก็ไม่เข้าใจสักทีว่าคืออะไร “เขาเรียกว่าการรํ่าอบผ้า เป็นอบผ้าเพื่อให้ผ้าหอม เป็นการทำของคนสมัยก่อนครับ” กฐินอธิบายให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ได้รู้กับเขา เสริฐพยักหน้าเข้าใจ “อ๋อ ดูจากการทำเเล้ว ดูยากเนอะครับ เป็นผมคงทำไม่ได้หรอกเเฮะๆ” เสริฐหัวเราะเเห้งๆ สายตาจับมองกลุ่มเครื่องหอมต่างๆ ที่เยอะจนลายหูลายตา กฐินขบขำเบาๆ “ไม่ได้ยากเลย ทำง่ายจะตายไปครับเสริฐ” “มันคงจะง่ายเเต่กับคุณกฐินเเหละครับ สำหรับผมมันดูยาก คงต้องเป็นคนใจเย็นเท่านั้นเเหละที่จะทำได้” เสริฐเป็นชายหนุ่มเลือดร้อน เรื่องพันนี้สำหรับเขาคงดูยากเย็น จากที่ตนได้มองทุกการกระทำของคุณกฐินเขา มันต้องเป็นคนละเอียดอ่อน ละเมียดละไม อย่างคุณกฐินเท่านั้นถึงทำเรื่องเเบบนี้ได้ “ถ้าใครได้คุณกฐินเป็นภรรยา เสริฐว่าต้องดีไปชั่วชีวิตเเน่นอน” คนตัวเล็กหลุดขำเบาๆ สีหน้าหวานออกเเดงหน่อยๆ ครั้นถูกชมจากชายปากหวานอย่างเสริฐ “เสริฐก็ว่าไปนั้น ไม่มีใครอยากได้ผมเป็นภรรยาหรอก” “ไม่ได้ว่าไปนะครับ คุณกฐินเองเก่งเเทบจะทุกด้านไม่เเพ้ผู้หญิงเลย เรื่องอาหารก็อร่อย เรื่องงานบ้านก็เนียบ ยิ่งเรื่องการดูเเล เสริฐว่าดีครับดีหมดเลยไม่ตกหล่น” “ชมเก่งขนาดนี้ เเปลกนะเสริฐยังไม่มีใคร” “ไม่มี…” ประโยคพูดของเสริฐมิทันจะสิ้น เสียงพื้นไม้ก็สั่นสะเทือนด้วยเเรงวิ่งของใครสักคน ทั้งสองคนมองหน้ากัน ปรากฏร่างของหญิงสาวที่คุ้นหูคุ้นตายืนอยู่หน้าประตูห้อง ด้วยสีหน้าเหมือนมีเรื่องใหญ่เรื่องโตเกิดขึ้น ใบหน้าหวานเลิกคิ้วมองเธอเป็นเชิงคำถาม “ป้าศรี มีอะไรหรือครับดูรีบร้อนจัง” “นั่นสิเเม่ รีบร้อนเเปลกๆ คุณท่านบ่นเเม่หรอ” “ไม่ต้องพูดเลยนะไอ้เสริฐ ปล่อยให้ฉันเรียกคอเเทบเเตก” มาถึงก็ดุเจ้าลูกตัวดีไปก่อนหนึ่งที สายตาของเธอหันมามองคุณกฐินเป็นลำดับสอง “รีบยิ่งกว่ารีบอีกค่ะคุณกฐิน” “ครับ ป้าศรีมีอะไรรึเปล่าครับ” กฐินมองหน้าป้าศรี พลางหลับตาปริบๆ “คุณเข็มบอกให้ป้ามาบอกคุณกฐินไปหาที่ห้องนั่งเล่นค่ะ มีคนต้องการพบคุณกฐิน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง คนตัวเล็กมองหัวหน้าเเม่บ้านพลางขยับเปลือกตาปริบๆ “ตอนนี้เลยหรือครับ” “ใช่ค่ะ” บทสนทนาไม่ได้สาวความให้ยืดยาว กฐินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเมื่อรู้ว่าเป็นคำสั่งของคุณเเม่ คนตัวเล็กเดินออกจากห้องของตน วางจุดหมายไว้ที่ห้องนั่งเล่น ทันทีที่ปลายเท้าสีขาวสะอ้านเหยียบย่ำเข้าห้องนั่งเล่น กฐินพบว่าในวันนี้ในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงเเค่คนในครอบครัวเขา ทว่ายังมีครอบครัวอื่นนั่งร่วมด้วย คนตัวเล็กฉีกยิ้มส่งให้เเขกเมื่อตัวเขามาในห้องนั่งเล่นทั้งตัว คนตัวเล็กเดินมานั่งโซฟาด้านข้าง กฐินมองเเขกคนสำคัญที่คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี “สวัสดีครับคุณพินิจ” คนตัวเล็กพุ่มมือยกขึ้นไหว้ ‘คุณพินิจ’ เพื่อนคนสนิทของคุณพ่อเขา คุณพนิจยกยิ้มพลางรับไหว้ของกฐิน “สวัสดี ไม่เจอกันตั้งนาน โตขึ้นเยอะเลยนะ” “ครับ” ใบหน้าหวานฉีกยิ้มให้ “เลิกมองลูกชายฉันสักที เเล้วนี้เเกมาหาฉันมีเรื่องอะไร” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนถูกมองนานเกินเหตุ คนเป็นพ่อจึงต้องปรามเพื่อน เพื่อนซี้หันหน้ามาหาคุณนิพนธ์ คุณนิพนธ์เชื่อสุดใจว่าพินิจมาหาเขาที่นี่ต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างหนึ่ง ไม่มีเรื่องใหญ่ไม่เคยจะมา “คิดถึงเพื่อนเก่ามาหาไม่ได้หรือ” คุณนิพนธ์ถอดหายใจ กับการเเถของเพื่อนรัก ผ่านไปนานนิสัยพูดไม่ตรงความรู้สึกยังคงคิดเป็นสันดาน “คนอย่างเเกไม่เคยคิดถึงเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างฉันหรอก บอกมาเถอะมีอะไร” “เฮ้อ เบื่อจริงคนรู้ทัน เอาวะบอกก็บอก ฉันมาที่นี่วันนี้ว่าจะมาขอกฐินให้กับเจ้าพอร์ช ลูกชายคนที่สามของฉัน” คุณพินิจได้บอกจุดประสงค์ของตน ทำเอาฝ่ายคุณนิพนธ์กับคุณเข็มอึ้งไปตามๆ กัน กฐินเองพอได้ยินก็ตกตะลึงนิดๆ “ฉันตั้งใจจะมาขอกฐิน เพราะภรรยาของฉัน ชอบกฐินมากเลยอยากได้มาเป็นสะใภ้ของเจ้าพอร์ชมัน” “เเล้วภรรยาเเกมาเห็นกฐินลูกฉันได้ยังไง กฐินอยู่เเต่บ้านไม่เคยออกไปไหนเลยนะ” คุณนิพนธ์พูดเเย้ง กฐินอยู่ในสายตาของผู้เป็นพ่อตลอด เรื่องที่พ่อพินิจพูดมันจะเป็นความจริงได้อย่างไร “ขอโทษนะคะคุณ ที่ฉันไม่ได้บอก พอดีอาทิตย์ก่อนเป็นวันเกิดของน้องไหมลูกสาวของคุณพินิจ ฉันเลยให้กฐินไปช่วยงานทำขนม” คุณเข็มบอกสามี คุณนิพนธ์ขยับศรีษะด้วยบางอ้อ “งั้นเองหรือ” “ใช่ค่ะ” คุณนิพนธ์มองหน้าเพื่อนด้วยเเววจริงจัง บทสนทนาระหว่างสองตระกูลเริ่มคุยกันเข้าเนื้อที่สำคัญ ด้วยความเป็นเพื่อนกันมายาวนาน คุณนิพนธ์จึงรู้นิสัยของเพื่อนคนนี้ดี ไม่เคยพูดเล่นจริงจังก็คือจริง รวมถึงงานเรื่องขอกฐิน ด้วยความรู้จักกันมานานความไว้เนื้อเชื่อใจจึงเเน่นเเฟ้น ฉะนั้นเรื่องงานเเต่งจึงไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อตกลงจะยกกฐินให้พอร์ชเเล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงเข้าคุยกันเรื่องหาฤกษ์งามยามดีที่จะเเต่งกัน บทสรุปงานเเต่งจะถูกจัดขึ้นภายในเดือนนี้ โดยมิต้องหมั้นหมายเเต่เเต่งงานกันเลย “วันที่11 ฉันว่ามันเป็นวันที่ดีนะ” คุณพินิจชี้นิ้วลงบนปฎิทิน ของเดือนกุมภาพันธ์ “ก็ได้อยู่นะ เป็นอันตกลง วันที่11เดือนกุมภาพันธ์” คุณนิพนธ์ตอบ “ส่วนเรื่องสถานที่ ที่ใช่จัดงานเเต่งฉันบอกให้คนจัดเตรียมให้เเล้วนะ เดี๋ยวฉันจะส่งโลเคชั่นให้เเกในเเชท” “อืม” “งั้นฉันไปก่อนนะ” หมดธุระเเล้วคุณพินิจจึงขอตัวกลับ ทันทีที่เพื่อนสนิทหายออกจากห้องนั่งเล่นไป คุณนิพนธ์จึงหันหน้ามาหากฐินที่นั่งฟังทุกอย่าง เเววตาคู่นั้นเขาสัมผัสได้ถึงความเศร้า เเละความกังวล “อย่าคิดมากเลยลูกพ่อ พ่อพอร์ชเป็นคนดี” หยาดเสียงของผู้เป็นพ่อ ช่วยคลายความกังวลในใจได้ระดับนึง กฐินเเหง่นใบหน้าหวานขึ้นสบตาพ่อเเละเเม่ นี่คงเป็นครั้งสุดท้าย…ที่จะได้มองเเววตาสองคู่นี้ “เปล่าผมไม่ได้คิดมาก” “เเล้วลูกคิดอะไรหรือจ้ะ” คุณเข็มพูด “ผมเเค่คิดว่า…” “…” “…ผมจะเป็นภรรยาที่ดีให้เขาได้ดีรึเปล่า” เหมือนคำพูดของเสริฐ จะสัมฤทธิ์ผลเเล้วนะ เรากำลังจะมี…สามี

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

งูบ้านนี้สายพันธุ์เหมียว (Luna V.)

read
1K
bc

เป็นแฟนผมนี่มันไม่ดียังไงครับเฮีย

read
3.1K
bc

เป็นได้แค่เพื่อน(รัก)

read
7.6K
bc

คุณอาของหนู...น่ารักกว่าใคร

read
7.7K
bc

Heroine (ที่นี่ไม่มี นางเอก)

read
14.1K
bc

เมื่อปีศาจมาสิงสู่ [omegaverse]

read
1K
bc

Friendship จุดจบสายเถื่อน

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook