“ไงไอเสือ...มาอยู่นี่เอง”
เธอเงยหน้าสบมองผู้มาใหม่ที่เอ่ยทักทายกันในทันใด
ก่อนจะเบนสายตาหลีกหนีอย่างไม่ได้ใส่ใจ และยกเครื่องดื่มสีสวยที่อยู่ในมือของตนนั้นดื่มมันรวดเดียวจนหมดแก้ว พร้อมกับวางแก้วลงไปที่โต๊ะดังเดิม
คนที่นั่งอยู่เคียงข้างกายของเธอนั้นไม่รีรอให้เธอได้เอ่ยบอกอะไร เจ้าหล่อนก็รีบนำแก้วของเธอไปเติมเครื่องดื่มให้กลับมาเต็มแก้วดังเดิมอย่างเอาอกเอาใจ
ซึ่งผู้มาใหม่ทั้งสองคนนั้นเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ยินดียินร้ายกับการมาถึงของพวกเขา พวกเขาก็เลือกที่จะนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอในทันใดอย่างเสียมารยาท ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้คิดที่จะต่อว่าอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าพูดไปอย่างไรคนพวกนี้ก็ไม่มีทางที่จะสำนึก
“พวกคุณดื่มอะไรกันดีคะ?”
เป็นคนข้างกายของเธอที่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างมีไมตรี
“วันนี้ขอเป็นเบียร์ก็แล้วกันค่ะ”
คนหนึ่งที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามกับเธอเอ่ยตอบคำถามของเจ้าหล่อนทั้งรอยยิ้ม
“แล้วก็ขอสาว ๆ ให้สักสองคนนะคะ”
ซึ่งอีกคนก็เสริมทัพในทันใดอย่างไม่มีรีรอ
“ได้เลยค่ะ”
เจ้าหล่อนรับคำอย่างง่ายดายพร้อมกับลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงเพื่อที่จะไปทำตามออเดอร์ที่ได้รับมอบหมาย
เธอยังคงนั่งดื่มเครื่องดื่มของตนเงียบ ๆ ไม่ได้ยินดียินร้ายและไม่ได้สนใจในบทสนาของคนทั้งสอง...เพราะตอนนี้ในใจของเธอมีเรื่องราวมากมายที่เอ่อล้นจนเต็มเปี่ยมแล้ว
“ไง มาไม่ชวนพวกกูเลยนะ”
ชาคริยา หนึ่งในคนที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามของเธอนั้นเอ่ยพูดกับเธออีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอยังเอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดจา
“แล้วผู้จัดการก็บอกว่ามาทุกวัน แต่ไม่เคยบอกพวกฉันสักวันว่าจะมา”
ชัชชญา คนที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามกับเธออีกคนก็เอ่ยเสริมทัพอย่างไม่ยอมความ
ซึ่งเขมิกาก็ได้แต่เปรยสายตาสบมองพวกเขานิ่ง ๆ อย่างไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายแบบไม่มีปิดบังเพราะรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทีที่คนพวกนี้ยังเอาแต่มองว่าเธอเป็นเด็ก
ผู้หญิงทั้งสองคนที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามของเธอนั้นเป็นคู่ฝาแฝดที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย เรียกได้ว่าพวกเราสนิทกันมาก ๆ และพวกเขาก็ผ่านมาทุกเหตุการณ์ในชีวิตเธอ
ซึ่งคลับที่พวกเรานั่งอยู่ในตอนนี้แน่นอนว่าเป็นของพวกเราสามคนที่ลงทุนหุ้นกันด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ...
“เขม ฉันถามแกจริง ๆ นะ เมื่อไรแก...”
“ขออภัยที่ให้รอนานนะคะ”
บทสนาทั้งหมดถูกขัดลงเมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามาในห้องโซน VVIP ที่พวกเรานั่งอยู่
เจ้าหล่อนคงจะเป็นผู้หญิงที่เธอจ้างให้มาดูแลก่อนหน้านี้ และที่ต้องใช้คำว่าคงจะก็เป็นเพราะว่าเธอไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของหล่อนได้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
พวกเราทั้งสามคนจัดสร้างคลับนี้ขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์กับทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อาหาร หรือแม้กระทั่งผู้หญิง...เราก็มีให้บริการหมดและไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาที่นี่แบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้เสียเมื่อไร
ลูกค้าของเราทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็น VVIP ทั้งสิ้น ทั้งนักการเมือง ดารา นักร้อง ผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายแหล่ พวกเขาก็มักจะมาใช้บริการกับทางคลับของเราเสมอเพราะขึ้นชื่อเรื่องการเก็บความลับของลูกค้านั้นดีเลิศเป็นที่สุด
ผู้หญิงเหล่านี้เองก็เหมือนกันที่จะได้รับเงินเดือนที่สูงลิ่ว แถมเรายังจัดบริการให้ตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อปิดใบหน้าของผู้หญิงทุกคนเอาไว้ไม่ให้แขกได้พบเห็น ซึ่งมันอยู่ที่เจตนารมณ์ของแขกทั้งสิ้นหลังจากนี้ไป...
ต้องการเพียงแค่ข้ามคืนแล้วลาจากแบบไม่ต้องเห็นหน้าของผู้หญิงพวกนี้ก็จงได้ เพราะอย่างไรเสียเจ้าหล่อนก็เก็บความลับของคุณเอาไว้เป็นอย่างดีไม่มีวันแพร่งพราย...หรือต้องการพบเห็นใบหน้าของเจ้าหล่อนก่อนจะลาจาก เผื่อกลับมาคราวหน้าหากคุณต้องการการดูแลจากผู้หญิงคนเดิมพวกเราก็สามารถจัดหาให้คุณได้โดยทันทีแบบไม่ต้องสุ่มกาชาปอง
และแน่นอนว่าการจากลาของเธอในทุก ๆ ครั้งนั้นมันจะเป็นอย่างแรกเสมอ เธอไม่ต้องการพบเห็นใบหน้าของใคร...เพราะในใจของเธอนั้นมีเพียงคน ๆ เดียวที่จะคงอยู่ในใจของเธอไปตลอดกาลอยู่แล้ว
“คุณชัชขา...”
“คุณชาขา...”
“มานั่งนี่เร็ว ๆ ค่ะ”
เธอสบมองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่เปิดอ้าแขนของตัวเองเพื่อรับผู้หญิงของตนเข้าไปสู่อ้อมกอด
“อ๊ะ! หนูลืมแก้ว...เดี๋ยวไปเอามาให้นะคะ”
เสียงผู้หญิงของเธอเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไปจากห้องในทันใดอย่างรีบร้อน
“เขม...”
เธอเงยหน้าสบมองที่เพื่อนสนิทอีกครั้งหนึ่งอย่างสงสัยว่าเขามีเรื่องอะไรกันแน่ถึงได้เอ่ยเรียกกันบ่อยนัก
“เมื่อไรแกจะลืมคน ๆ นั้นออกไปจากใจแกสักที นี่มันก็ผ่านมานาน...”
ปึก! เพล้ง!
เป็นเสียงของแก้วที่วางลงบนโต๊ะอย่างแรงก่อนที่แก้วจะแตกละเอียดคามือให้ของเหลวสีแดงสดนั้นค่อย ๆ ไหลผ่านออกมาจากมือของเธอ
เธอจดจ้องมองใบหน้าของเพื่อนสนิทอย่างไม่พอใจอย่างยิ่งเป็นที่สุด ก่อนจะลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงในทันใดและพาร่างของตนเองออกไปจากห้องในทันที
“เขม!”
“แก้วมาแล้ว...อ๊ะ!”
แต่ก็ไม่ลืมจะลากผู้หญิงที่เดินเข้ามาพร้อมแก้วในมือให้ออกมากับเธอด้วยอย่างมั่นใจว่าเจ้าหล่อนเป็นคนที่เธอเลือกเอาไว้ก่อนหน้า
เธอเดินไปตามเส้นทางที่คุ้นชินเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่เป็นห้องพักของเธอ ณ ที่แห่งนี้ ความโกรธเคืองจากคำพูดของเพื่อนสนิททำให้เธอแทบจะคุมอารมณ์ของตนเองเอาไว้ไม่อยู่ และเธอรู้ตัวเลยว่ากำลังบีบข้อมือผู้หญิงข้างกายของเธอแนบแน่นแต่เธอก็ไม่อาจจะระงับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติได้เลย
และมันเป็นเช่นนั้นเสมอมา แม้ว่าครั้งหนึ่งเธอจะเคยใจเย็นลงได้ แต่หลังจากที่ใครอีกคนได้จากไป...เธอก็ไม่เคยเป็นเขมิกาคนนั้นให้ใครได้พบเห็นอีกเลย
“ไอชัช!”
เธอเอ็ดใส่แฝดคนน้องของตนในทันใดที่เอ่ยพูดอะไรออกไปแบบไม่คิด
แล้วเธอรู้ดีว่าเวลาเขมิกาโมโหน่ะมันน่ากลัวขนาดไหน...ผู้หญิงคนที่เขมลากออกไปคืนนี้คงจะได้เป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาทั้งคืนแน่ ๆ
“ชัชพูดความจริงทั้งนั้น...ชาอย่ามาพาลโกรธชัชไปอีกคนนะ!”
คนข้างกายของเธอเอ่ยบอกอย่างสบาย ๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับคำพูดของตนเองแต่อย่างใด
ซึ่งมันทำให้เธอได้แต่ส่ายหัวอย่างระอาใจกับฝาแฝดคนน้องที่ชอบพูดอะไรขวานผ่าซาก...แม้ว่าเรื่องที่เขาพูดมันจะเป็นความจริงก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ควรรักษาน้ำใจของคนอื่นบ้าง
“อยากรู้จริง ๆ ว่าคนอย่างเขมมันจะรักใครเป็นอีกไหม วัน ๆ เอาแต่ไล่ฆ่าคนอื่นไปเรื่อยไม่จบไม่สิ้น”
“ไอชัช!”
“โอเค ๆ ชัชไม่พูดแล้ว...พูดความจริงทีไรก็เป็นชาทุกทีที่รับไม่ได้”
“ไอชัชโว้ย!”
“ไม่พูดแล้วโว้ย!”
“อ๊ะ!”
เธอดึงแขนของผู้หญิงคนข้างกายสุดแรงเกิดจนหล่อนล้มลงไปบนเตียงนอนของเธอในทันใดแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ซึ่งเธอก็ไม่รอช้า รีบเดินตามไปคร่อมร่างของเจ้าหล่อนในทันใด พร้อมกับปลดเปลื้องอาภรณ์ของเจ้าหล่อนออกไปจนร่างนั้นเปลือยเปล่าโดยสมบูรณ์แบบ
ความสวยงามของเจ้าหล่อนนั้นประจักษ์แก่สายตาให้เธอเผลอหยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนของตัวเองลงเพียงครู่เพื่อสบมองเรือนร่างที่สวยงามนั้น
ไหปลาร้าขึ้นรูปนูนสวย เต้าอวบอิ่มขนาดพอดีมือ จุกสีหวานที่เธอจดจำได้ว่าไม่เคยพบเห็นจากใครที่ไหนในคลับนี้ ซึ่งมันกำลังทำให้เธอเผลอมองมันอย่างชั่งใจ การกระทำที่อยากจะรุนแรงนั้นก็พลันมลายไปจนหมดสิ้น...เหลือเพียงแค่ความต้องการที่อยากจะถนอมเรือนร่างของหล่อนเอาไว้แต่เพียงเท่านั้น
เธอวางมือลงไปที่เต้าอวบอิ่มนั้นก่อนจะลูบมันบางเบาราวกับเด็กเล็ก ๆ ที่กำลังสำรวจของเล่นใหม่...
เจ้าหล่อนตัวกระตุกเกร็งอยู่หลายคราเมื่อนิ้วมือของเธอนั้นลากผ่านยังจุดที่ไวต่อความรู้สึก เสียงก็ครางกระเส่าออกมาให้เธอนึกอยากจะพบเห็นใบหน้าของเจ้าหล่อนสักครั้ง...และมันเป็นความรู้สึกครั้งแรกที่เธออยากจะเห็นใบหน้าของใครสักคนที่เธอนอนด้วยในคลับแห่งนี้
‘เขมอยากแต่งงานกับพี่...’
‘เจ้าเด็กขี้โม้...ไม่ต้องมาพูดเลยค่ะ!”
แต่แล้วเสียงสะท้อนในหัวสมองของเธอก็ดังขึ้นมาให้ดวงตาของเธอเบิกโพล่ง
และกลับกลายมาเป็นเขมิกาคนเดิม...คนที่มันไม่เคยรู้จักกับความรักอีกเลยตั้งแต่ได้สูญเสียมันไป
“อ๊ะ!”
จากมือที่ลากไล้แผ่วเบาก็ค่อย ๆ เพิ่มแรงของตัวเองจนได้ยิงเสียงร้องครางแห่งความเจ็บปวดออกมาจากหญิงสาวตรงหน้า
เธอก้มลงไปดูดกลืนจุกสีสวยของเจ้าหล่อนให้เข้ามาสู่โพรงปาก ทั้งยังกัดมันอย่างไม่ยั้งแรงจนคนใต้ร่างของเธอนั้นดิ้นพล่านด้วยความเจ็บแสบ
ไม่ได้...เธอจะไม่มีวันทรยศหักหลังต่อความรักของเธอ
“อ๊ะ! จะ...เจ็บ!”
เจ้าหล่อนเอ่ยบอกกันในขณะที่เธอขบกัดหน้าอกของเจ้าหล่อนจนเป็นรอยแดงเต็มหน้าอกไปหมด
ซึ่งเธอก็หาได้ใส่ใจกับคำบอกกล่าวของเจ้าหล่อน และเมื่อยามที่ร่างหญิงสาวคนตรงหน้าของเธอนั้นดิ้นพล่าน เธอก็จับแขนของเจ้าหล่อนขึงกับเตียงเอาไว้ให้ตนเองได้ทำอะไรอย่างถนัดถนี่โดยไม่ได้สนใจในความรู้สึกหญิงสาวคนตรงหน้าของเธอเลย
“อ๊ะ!”
เจ้าหล่อนยังคงเปล่งเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเธอขบกัดไล่ลงมายังด้านล่างของเรือนร่าง
เขมิกาผละใบหน้าออกมาสบมองผลงานรอยช้ำของตนเองที่ได้กระทำกับเจ้าหล่อนเอาไว้อย่างภาคภูมิ และมันช่วยลดความโกรธของเธอลงไปได้มากแต่มันก็ยังไม่สาแก่ใจ
“เจ็บค่ะ...”
น้ำเสียงของเจ้าหล่อนสั่นเครืออย่างขอความเห็นใจ
“ช่วยกรุณาเบามือลงหน่อยได้ไหมคะ?”
และเธอสังเกตได้ว่าถุงน่องที่นำมาปกปิดใบหน้าของเจ้าหล่อนนั้นกำลังเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำตาของเจ้าหล่อนที่กำลังรินไหล
แต่ใครจะไปสนใจกัน...
เธอไม่ได้ตอบรับอะไรและเลือกที่จะก้มหน้าลงไปหาซอกคอหอมกรุ่นของเจ้าหล่อนและดูดดึงขบเม้มมันจนเกิดเป็นรอยแดงก่ำอีกครั้ง
และเจ้าหล่อนคงเจ็บจนเกิดจะทนไหวจึงพยายามดิ้นให้หลุดออกจากการพันธนาการของเธอ การดิ้นมาก ๆ ของเจ้าหล่อนนั้นกำลังทำให้เธอนึกรำคาญใจจนนึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครา เธอจึงผละใบหน้าออกเพื่อหวังที่จะต่อว่า...แต่แล้วสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้คำพูดทั้งหมดของเธอนั้นถูกกลืนหายไปจนหมดสิ้น
ถุงน่องที่เคยปกปิดใบหน้าของเจ้าหล่อนเอาไว้ไม่ให้เธอนั้นรับรู้ว่าเจ้าหล่อนเป็นใครได้หลุดออกจากใบหน้าของหล่อนด้วยการดิ้นพล่านเพราะความเจ็บแสบ
และหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของเธอนั้น...ใบหน้าเหมือนกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยอยู่ในอ้อมกอดของเธอไม่มีผิดเพี้ยน
“ขวัญ...”
น้ำตาของเธอไหลพล่านออกมาโดยที่เธอเองนั้นก็ไม่รู้สึกตัว
ความรู้สึกมากมายของเธอนั้นกำลังตีกันรวนอยู่ในสมอง และเธอราวกับคนกำลังจะขาดใจจนต้องยกมือขึ้นไปเกาะกุมที่อกข้างซ้ายของตัวเองเอาไว้แนบแน่นพร้อมกับผละร่างออกจากเจ้าหล่อนโดยทันที
“คุณเขม...”
“ออกไป...”
เธอเอ่ยสั่งคนที่ขยับขึ้นมานั่งอยู่ที่ตรงหน้าของเธอ
“แต่ว่า...”
“ฉันบอกให้ออกไป!”
“ขะ ขอโทษค่ะ”
และเจ้าหล่อนก็รีบลงไปรวบเสื้อผ้าของตนเองมาโอบกอดเอาไว้ พร้อมกับวิ่งออกไปด้านนอกห้องนอนโดยทันทีไม่รอให้เธอนั้นได้เอ่ยพูดอะไรอีก
น้ำตาของเธอรินไหลลงมาเป็นสายโดยที่เธอเองก็ห้ามมันเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ทั้งหัวใจของเธอก็สั่นไหวเต้นไม่เป็นจังหวะ พร้อมกับความรู้สึกมากมายที่กำลังปะดังปะเดไปหมดจนเธอนั้นเกิดความสับสน
เป็นไปไม่ได้...ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอเสมอมาอย่างแน่แท้
หรือนี่จะเป็นทฤษฎีด็อพเพิลเกงเกอร์(Doppelganger)ที่ปรากฏคนหน้าเหมือนรักแรกของเธอขึ้นมา...หรือว่าแท้จริงแล้วเจ้าหล่อนจะยังคงอยู่กับเธอเสมอมาเป็นคน ๆ เดิมคนนั้นของเธอไม่ได้เปลี่ยนผันไปแต่อย่างใด