บทที่ 13 เพียงแค่ของเล่น แต่ไม่ใช่คู่หมั้น

3229 คำ
บทที่ 13 เพียงแค่ของเล่น แต่ไม่ใช่คู่หมั้น ห้าวันผ่านไป… หลังจากพี่ราชันขอฉันเป็นแฟน ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปนะ จะมีแต่การเข้าออกบ้านของฉัน พี่ราชันทำให้มันเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องที่เราเป็นแฟนกันก็มีเพื่อนฉัน เพื่อนเขา และก็รุ่นพี่บางคน เราสองไม่ได้ปิดนะ และก็ไม่ได้เปิด ทำตัวตามปกติ ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง จนคนในมหาวิทยาลัยลือกันบ้างว่าพี่ราชันเห็นฉันเป็นของเล่น แล้วฉันคบกับพี่ราชันเพื่อหวังเงิน เพราะตอนนี้ฉันลาออกจากร้านพี่หน่อยแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะพี่ราชันบอกให้ออกอย่างที่เขาลือ แต่เพราะแม่ฉันต่างหากที่ไปก่อกวนทำให้ฉันต้องลาออก และด้วยความที่ช่วงนี้การเรียนของฉันมันเริ่มหนักขึ้น แล้วไหนจะกิจกรรมกีฬาของมหาวิทยาลัยฉันกับมหาวิทยาลัย R ไหนจะรับน้องรวมอีก ฉันจึงขอพี่หน่อยออกมา แต่มีบ้างที่ฉันก็เข้าไปช่วยพี่แกเวลาว่างๆ น่ะ ส่วนวันนี้เป็นวันเสาร์ พี่ราชันนัดฉันตอนแปดโมงเช้า แล้วพาฉันมาที่ห้าง M เขาพาฉันเดินมาที่ชั้นเสื้อผ้า แล้วพาฉันเดินมาร้านแบรนด์ดังร้านหนึ่ง ร้านตัดชุด “พามาที่นี่ทำไมคะ” ฉันถามพี่ราชัน “เย็นนี้วันเกิดย่าพี่” พี่ราชันบอก “แล้ว?” ฉันเอียงคอมองเขาอย่างสงสัย “ก็พี่จะพาเธอมาลองชุด” เขาบอกแล้วเดินนำเข้าไปในร้าน “พี่ เดี๋ยว” ฉันไม่มีโอกาสได้พูด เมื่อพี่ราชันพูดกับพนักงานในร้านว่า “ที่นัดไว้” ผมวางนามบัตรตัวเองไว้ที่เคาน์เตอร์ “ค่ะ คุณราเชนทร์ เดี๋ยวเชิญนั่งรอสักครู่นะคะ” พนักงานรีบพาเราทั้งสองคนไปนั่งที่โซฟารับรองแขก “พี่จะพาหนูไปจริงๆ เหรอ” แต่พอพนักงานเดินไป ฉันก็ถามขึ้น “อื้ม” พี่ราชันพยักหน้า “แต่ว่าหนู...” ฉันกำลังจะปฏิเสธ “ไปวัดตัวไป” ผมบอกน้อง แล้วลุกขึ้นจับมือน้องพาเดินไปหาพี่ช่างที่ยืนรออยู่แล้ว “มาค่ะคุณน้อง” แล้วพี่ช่างสาวสองก็เดินมาดึงตัวฉันไปวัดตัวนู้นนี้จนฉันเวียนหัว… เวลา 12.34 น. ฉันและพี่ราชันกำลังเดินหาร้านอาหาร เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรกันเลย ส่วนชุดพี่ช่างบอกว่าบ่ายๆ คงเสร็จ แล้วพี่ราชันเขาจะพาฉันมาส่งไว้ที่ร้านตอนบ่ายสาม เพราะฉันต้องแต่งตัวแต่งหน้าที่ร้าน ส่วนเขาจะกลับไปแต่งตัวที่ห้องแล้วค่อยมารับฉันไปงาน “พี่คะ” ฉันเรียกและดึงให้เขาหยุดเดิน “หื้ม” ผมเอียงหน้ามองเธอ “แน่ใจแล้วเหรอคะ หนูว่าเราค่อยไปวันอื่นดีกว่ามั้ย” เอาจริงๆ ฉันไม่อยากไปเลย เพราะกลัวว่าถ้าพี่ราชันพาฉันไปแล้วคนในครอบครัวเขาไม่ยอมรับฉัน งานมันจะกร่อยเอาน่ะสิ “วันนี้แหละ” แล้วเขาก็ตัดบทขึ้น “แต่ว่า...” ฉันไม่ทันได้บอกอะไรพี่ราชันก็พูดว่า “ฟังนะ วันนี้ย่าตั้งใจจะเปิดตัวว่าพี่มีคู่หมั้น ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเป็นข่าว แล้วพอข่าวออก คนก็จะคิดว่าพี่เห็นเธอเป็นของเล่น แล้วที่สำคัญเธอยอมเหรอให้พี่หมั้นกับผู้หญิงอื่น” ผมจูงน้องพาไปยืนคุยตรงมุมที่ไม่มีคนเดินพลุกพล่าน “...” ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบ… บ้านไพศาลมนตรี.. แล้วในที่สุดฉันก็มางานกับพี่ราชันจนได้ วันนี้พี่ราชันอยู่ในชุดทักซิโด้สีดำ ซึ่งดูเป็นทางการ ส่วนฉันเองก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวของแบรนด์ดังที่ดูราบเรียบ แต่ราคาไม่เรียบเลย ทุกอย่างพี่ราชันจัดการไว้หมดจนฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองโชคดีที่สุด ที่มีแฟนใส่ใจทุกอย่างขนาดนี้ แต่ความรู้สึกของฉันตอนนี้มันไม่ใช่ความปลื้มปีติ เพราะงานที่ฉันกำลังมานี่แหละมันทำให้ฉันกังวล ฉันกลัวว่าทางครอบครัวเขาจะไม่ยอมรับ เพราะฉันในตอนนี้ไม่ใช่ลูกคุณหนูอะไร ฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า เมลิษา ธรรมคุณ แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าคนที่บ้านพี่ราชันจะเป็นยังไง แต่ถ้าให้เดา ฉันว่าพวกเขาคงไม่ยอมรับฉันเท่าไหร่ พี่ราชันขับรถเข้ามาจอดภายในโรงรถแล้วหันมามองฉันที่กำลังนั่งเกร็งจนก้าวขาและแขนออกจากรถไม่ได้เลย ทำไมอึดอัดอย่างนี้นะ “เป็นอะไร” พี่ราชันถาม เสียงทุ้มนุ่มอบอุ่นมากทำให้ฉันสะดุ้ง แล้วละสายตาจากตึกใหญ่ตรงหน้าที่ข้างในถูกจัดให้เป็นงานระดับไฮโซ ฉันหันมองพี่ราชัน “หนูว่าหนูไม่เหมาะกับงานแบบนี้” “มานี่มา” ผมรู้ว่าน้องกลัว ผมจึงดึงเธอเข้าไปกอดเพื่อให้กำลังใจ “ทำไมหนู..” ฉันไม่ทันได้พูดว่า ‘ทำไมหนูต้องเกิดมาแล้วจนด้วยนะ’ พี่ราชันก็พูดแทรกขึ้นว่า “ไม่มีอะไรต้องกลัว เธอแค่ยืนข้างพี่ พี่จะปกป้องเธอเอง” ผมปลอบเธอด้วยจูบที่หน้าผาก “หนูกลัว” ถึงแม้ว่าสัมผัสของเขามันจะอบอุ่น แต่มันก็ไม่สามารถคลายความกังวลไปได้เลย ตอนนี้ฉันกลัวไปหมด “...” แล้วพี่ราชันก็ไม่ได้พูดอะไร พี่เขาทำเพียงแต่กอดฉันไว้เงียบๆ เท่านั้น… เมื่อฉันและพี่ราชันเดินเข้ามาในงานหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็ทักขึ้น “คุณชัน” “สวัสดีครับนม” เขายกมือไหว้ ฉันจึงไหว้ตาม “สวัสดีค่ะ เอ๊ะ พาสาวสวยที่ไหนมาด้วยคะเนี่ย” หญิงวัยกลางคนรับไหว้ แล้วหันมามองฉันอย่างพิจารณา “แฟนผมเองครับ ชื่อเมลิษา เหมย นี่นมแจ่ม” พี่ราชันแนะนำแล้วหันมาบอกฉัน “สวัสดีค่ะ” ฉันจึงยกมือไหว้อีกครั้ง “ตายแล้ว นี่คุณชามีแฟนจริงเหรอคะ” นมแจ่มทำหน้าตกใจ “นมครับ” จนพี่ราชันรีบปราม “นมขอโทษค่ะ ก็นมตกใจนี่ค่ะ” นมแจ่มยิ้มแหยๆ ให้พี่ราชันแล้วหันมายิ้มให้ฉัน “คุณเมลิษารู้ไหมคะ ว่าคุณชันของนมเนี่ย ไม่เคยมีแฟนเลยนะคะ หรืออาจจะมี แต่นมไม่รู้ แต่คุณเมลิษาเนี่ยเป็นคนแรกเลยนะที่คุณชาพาเข้าบ้าน” “เหรอคะ” คำพูดของนมแจ่มทำให้ฉันเริ่มมีกำลังใจ ฉันยิ้มให้นมแจ่มแล้วหันไปมองพี่ราชัน “ไม่เผาผมสิครับนม” พี่ราชันทำหน้าอ้อน นั่นทำให้ฉันถึงกับหลุดขำ เวลาที่เขาอยู่ข้างนอกดูเป็นคนละคนกับตอนนี้เลย ข้างนอกเขาจะดูพูดน้อย แต่พอมาอยู่กับนมแล้ว เขาเหมือนเด็กชายราชันที่ดูน่ารักน่าหยิกเหลือเกิน “คิกก นมพูดจริงๆ นะคุณเมลิษา” “นมแจ่ม เรียกหนู เหมยก็ได้ค่ะ” ฉันยิ้มให้นมแจ่ม “น่ารักอย่างนี้นี่เองถึงครองใจคุณชาของนมได้” นมแจ่มเองก็ยิ้มให้ฉันอย่างจริงใจ ‘เอาวะ อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเลวร้าย บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเองว่าครอบครัวของพี่ราชันจะรังเกียจฉัน’ ฉันนึกในใจ “แล้วคุณย่าล่ะครับนม” แล้วพี่ราชันก็ถามหาย่า “อยู่ในห้องรับแขกค่ะ” นมแจ่มชี้ไปที่ห้องห้องหนึ่ง ฉันกับพี่ราชันจึงมองตามไป “งั้นผมขอไปหาย่าก่อนนะครับ” “ครอบครัวคุณมณีก็อยู่นะคะ” นมแจ่มบอก ซึ่งทำให้ฉันรู้ว่าคุณมณีที่ว่าคงเป็นครอบครัวที่คุณย่าพี่ราชันอยากจะเกี่ยวดองด้วย “นั่นแหละครับที่ผมต้องการพบ” พี่ราชันบอกแล้วหันมาจับมือพาฉันเดินเข้าไปในงาน… ในโถงใหญ่ห้องรับแขก.. “นั่นไง ตาชันมาแล้วค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งบอก ทำให้ทุกคนในห้องต่างก็พากันหันมามองฉันและพี่ราชันเป็นตาเดียว “มาสักทีพ่อตัวดี” หญิงชราคนหนึ่งพูดขึ้น “แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ” มีคนถามขึ้นทำให้สายตาทุกคนเบนมาสนใจที่ฉันเป็นตาเดียว “นี่เมลิษา แฟนผมครับ” พี่ราชันกุมมือฉันไว้ เมื่อแนะนำให้รู้จักฉัน “อะไรนะ” หญิงชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่ถามเสียงไม่พอใจ ซึ่งฉันคิดว่าคนนี้น่าจะเป็นคุณย่าพี่ราชันแหละ “หมายความว่ายังไงคะคุณน้า” ผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งข้างๆ กับคนที่ฉันคิดว่าเป็นคุณย่าพี่ราชันพูดขึ้นแล้วมองมาที่เราอย่างไม่พอใจ “แกว่าอะไรนะราชัน” คุณย่าพี่ราชันลุกขึ้นเดินมาหาฉันกับพี่ราชัน “คนนี้แฟนผมครับ” พี่ราชันบอก “แกหลอกย่าเหรอ” ย่าพี่ราชันถาม “ไม่ครับ ผมพูดจริง และที่ผมพาเธอมาวันนี้ก็เพื่อให้คุณย่ารับรู้และเลิกจับคู่ให้ผมซะที” พี่ราชันบอกย่า แต่ทุกคนก็ได้ยิน “กะ แกว่ายังไงนะ โอ๊ย...ฉันจะเป็นลม” คุณย่าพูดแล้วก็เซถอยหลัง “คุณย่า / คุณแม่ / คุณ” ทุกคนเรียกคุณย่าพี่ราชัน ซึ่งเป็นพี่ราชันนั้นเองที่เข้าไปรับร่างของคุณย่าไว้ทัน ส่วนฉันได้แต่ยืนมองและทำตัวไม่ถูก พี่ราชันประคองอุ้มคุณย่าไปนอนที่โซฟาแล้วนมแจ่มก็รีบเอายาดมมาให้คุณย่าดม “อย่าเพิ่งมุงค่ะ” นมแจ่มพูดขึ้น ทำให้คนรีบถอยออกมา พี่ราชันเดินมายืนข้างฉัน ซึ่งตอนนี้ฉันทำตัวไม่ถูกเลย อึดอัดไปหมดแล้ว เพราะสายตาไม่เป็นมิตรมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวกัน “นี่มันอะไรกันราชัน” ผู้หญิงวัยกลางคนหนึ่งหันมาถามพี่ราชันอย่างเอาเรื่อง “ผมแค่พาแฟนผมมาแนะนำ” พี่ราชันบอก แล้วหันมามองหน้าฉัน “ได้ยังไง แล้วหนูโยลูกสาวป้าล่ะ” “นั่นมันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันโดยที่ผมไม่รู้เรื่องหรือเห็นด้วยเลยสักนิด” พี่ราชันตอบกลับ “ป้าไม่ยอมนะ ราชันจะมาเมินลูกสาวป้าแบบนี้ไม่ได้นะ” หญิงวัยกลางคนตำหนิพี่ราชัน แต่ดูพี่ราชันจะไม่สนใจเลย ซึ่งพี่เขาพาฉันเดินเข้าผ่านหญิงวัยกลางคนนั้น “เหมยรู้จักปู่ของพี่สิ นั้นพ่อแม่พี่ แล้วนี่คุณมณีกับโยชิตา” พี่ราชันแนะนำทุกคนให้ฉันรู้จัก “...” ฉันไม่พูดอะไรแต่ทำเพียงแค่ยกมือไหว้ทุกคนที่พี่ราชันแนะนำ “มาคุยกับปู่หน่อยราชัน” คุณปู่ของพี่ราชันพยักหน้ารับไหว้ฉัน แล้วหันไปสั่งพี่ราชันเสียงแข็งๆ “พาน้องออกมาด้วย ฝากคุณแม่ด้วยนะคุณ” ส่วนพ่อพี่ราชันบอกแม่พี่ราชันให้ดูคุณย่า แล้วก่อนที่ท่านจะเดินตามคุณปู่ออกไปนั้นก็หันมาสั่งเสียงตึงๆ บอกพี่ราชัน พี่ราชันพาฉันมาหาพ่อและปู่ที่นั่งรออยู่ในห้องห้องหนึ่ง ฉันคิดว่าห้องนี้คงเป็นห้องอ่านหนังสือ เพราะมีหนังสือเต็มไปหมด “ปู่ครับ” พี่ราชันพาฉันไปนั่งโซฟาตรงหน้าพ่อและปู่ “คบกันนานรึยัง” ปู่ถามพี่ราชัน แต่สายตาของท่านกลับมาหยุดที่ฉัน “เพิ่งคบครับ เหมยเป็นรุ่นน้องผม” พี่ราชันบอกไป ส่วนฉันก็นั่งฟังเงียบๆ “มั่นใจแล้วหรือถึงพามา” พ่อพี่ราชันถาม “ผมมั่นใจครับ” พี่ราชันยังกุมมือฉันไว้แน่น เวลาตอบคำถามของปู่และพ่อ “ไม่ใช่แกไม่อยากหมั้นแล้วไปพาแม่หนูนี้มาหลอกพวกเรานะราชัน” ปู่มองฉันและมองพี่ราชันสลับกันไปมา “ผมไม่ทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนั้นหรอกครับปู่ แล้วอีกอย่างปู่ก็น่าจะรู้ว่าถ้าผมไม่หมั้น ใครก็บังคับผมไม่ได้” ผมบอกท่านทั้งสอง “ฉันรู้ แล้วหนูล่ะมั่นใจในตัวเจ้าชาแค่ไหน” ปู่พี่ราชันถามฉัน “ตอนที่หนูมานี่หนูมีความกังวลเยอะแยะเต็มไปหมด แต่เพราะความจริงใจและหนักแน่นของพี่ราชัน ความกังวลของหนูถึงหายไปหมดและกล้ามายืนข้างเขาในวันนี้ค่ะ” ฉันเงยหน้ามองพี่ราชัน เมื่อพี่เขาพยักหน้าให้พูด ฉันจึงพูดความในใจ “เฮ้อ! ปู่และพ่อแม่ของแกไม่ได้บังคับแกหรอกนะ จะรักใครชอบใครก็ตามใจแก แต่คนที่จะมีปัญหาก็ย่าของแกนั่นแหละ” ปู่ถอนหายใจแล้วพูดถึงย่า “ครับ ผมรู้” พี่ราชันพยักหน้ารับรู้ผลที่จะตามมา (มั้ง) “พ่อแกก็ขัดใจย่าแกไปทีหนึ่งละ เขายิ่งหวังกับแกมากๆ” ปู่บอก “เรื่องแบบนี้ใครก็บังคับผมไม่ได้หรอกครับ” พี่ราชันบอกปู่ “ก็ต้องให้แม่หนูนี้พิสูจน์แล้วล่ะ” พ่อพี่ราชันพูดแล้วหันมามองหน้าฉัน “ทำไมปู่รู้สึกคุ้นๆ หน้าหนูจัง แต่ไม่รู้เคยเจอที่ไหน” ปู่หันมามองหน้าฉันอย่างพิจารณาแล้วพูดขึ้น “คงมีบ้างที่บังเอิญเจอกันมั้งคะ” ฉันตอบไป เพราะอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะเจอกันผ่านๆ แต่ถ้าให้ถึงกับรู้จักกันคงไม่ใช่หรอก “ไม่น่าจะใช่ แต่ช่างเถอะ ปู่ไปดูย่าก่อนก็แล้วกัน แล้วแกค่อยพากันตามมา” ปู่พึมพำกับตัวเองแล้วตัดบท จากนั้นท่านก็เดินออกไป ส่วนพ่อพี่ราชันก็ลุกขึ้นแล้วตบบ่าพี่ราชันเบาๆ แล้วเดินตามคุณปู่ออกไป จากนั้นฉันกับพี่ราชันก็นั่งเงียบกันอยู่นาน “เข้าไปข้างในกันเถอะ” พี่ราชันหันมองฉัน ฉันจึงยิ้มให้เขาแล้วลุกขึ้น และในขณะที่กำลังจะเข้าไปในงานนั้น “ทำไมทำอย่างนี้คะราชัน” ก็มีผู้หญิงเดินมาดักหน้าแล้วมองพี่ราชันอย่างผิดหวัง ซึ่งคนนี้ก็คือโยชิตา ว่าที่คู่หมั้นของพี่ราชันนั่นแหละ “ฉันทำอะไร” พี่ราชันถามกลับนิ่งๆ “ก็พาผู้หญิงคนอื่นเข้าบ้านมาแบบนี้ไงคะ” “เหมยไม่ใช่คนอื่น” พี่ราชันตอกกลับเสียงเย็น “แล้วโยล่ะคะ ราชันเอาโยไปไว้ที่ไหน” “ฉันนึกว่าเธอเข้าใจทุกอย่างแล้วซะอีก” พี่ราชันหันมามองฉัน แล้วหันไปพูดใส่หน้าเธอคนนั้นอย่างไม่แคร์ “เข้าใจอะไรคะ โยเข้าใจว่าเรากำลังจะหมั้นกันด้วยซ้ำ” เธอหันมามองหน้าฉันอย่างเคืองๆ “งั้นเธอก็ต้องทำความเข้าใจใหม่แล้วล่ะ” พี่ราชันว่าแล้วก็จับมือฉันให้เธอคนนั้นดู “เพราะผู้หญิงคนนี้เหรอ” เธอเหลือบตามองฉัน แล้วหันไปมองพี่ราชันอย่างตัดพ้อ “มันไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้น เธอไม่รู้เหรอโยว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอ” ผมรำคาญจึงพูดออกไปโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนฟัง “พี่ราชัน” ฉันรีบปราม เพราะแม้คำพูดของเขามันจะเป็นการพูดตรงๆ แต่ฉันก็เข้าใจความรู้สึกผู้หญิงด้วยกัน เธอคงจะชอบแฟนฉันมากไม่อย่างงั้นคงไม่มาคาดหวังกับเรื่องหมั้นขนาดนี้ “ทำไมคะ โยไม่ดีตรงไหน” “มันไม่ใช่เพราะคุณไม่ดีหรอกค่ะ แต่เรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้นะคะ” เป็นฉันที่ตอบแทนพี่ราชัน เพราะกลัวว่าเขาจะว่าเธออีก และอีกอย่างฉันก็อยากจะเตือนสติเธอด้วย “ฉันพูดกับราชัน ไม่ใช่เธอ” แต่เธอก็หันมาตะคอกเสียงดังใส่ฉัน “อย่ามาตะคอกแฟนฉัน” พี่ราชันเองก็ตะคอกกลับจนโยชิตาสะดุ้ง “ชันปกป้องมันเหรอ” เธอบีบน้ำตาร้องไห้ คงเรียกร้องความสนใจจากพี่ราชัน “เหมยเป็นแฟนฉัน ไม่ให้ฉันปกป้องแฟน จะให้ฉันไปปกป้องหมาที่ไหน” “แล้วโยล่ะ” เป็นอีกครั้งที่พี่ราชันถอนหายใจออกมาอย่างอดกลั้นอารมณ์ ขนาดฉันในตอนนี้ยังรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนที่พูดไม่รู้เรื่องที่สุดเท่าที่เคยเจอมา “เอ่อ คุณชัน คุณเหมยค่ะ” แล้วก็มีเสียงเรียกดังขึ้นทำให้ฉันหันไปมอง ก็เห็นเป็นนมแจ่ม “ครับนม” พี่ราชันเลิกสนใจยัยโยชิตา แล้วเดินไปหานมแจ่ม “คุณท่านให้มาตามคุณทั้งสองไปค่ะ” นมแจ่มบอก “ไปกันเถอะ” พี่ราชันเดินมาจับมือฉันพาเดินไปที่ห้องรับแขก โดยไม่หันไปสนใจยัยโยชิตาอีกเลย เรียกได้ว่าเมินแบบสามร้อยเปอร์เซ็นต์… ในห้องรับแขก.. “พามาน้องมานั่งนี่สิชัน” พ่อพี่ราชันกวักมือเรียกฉันและพี่ราชันให้เข้าไปนั่ง “แล้วลูกสาวฉันล่ะแจ่ม” แม่ของโยชิตามองมาที่ฉันอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปพูดกับนมแจ่มเหวี่ยงๆ “เดี๋ยวแจ่มไปตามให้ค่ะ” นมแจ่มพูดแล้วก็เดินออกไป “เด็กคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร” ย่าหันมามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “คงเป็นเด็กไม่มีชาติตระกูลหรอกค่ะคุณน้า มณีว่ามณีไม่เคยเห็นในแวดวงสังคมชั้นสูงเลย” แม่ยัยโยชิตาพูดแล้วมองฉันเหยียดๆ “ผมว่าเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของคนในครอบครัวดีกว่านะครับ” แล้วแม่ยัยโยชิตาก็ถูกพี่ราชันตอกกลับจนหน้าหงาย “ราชัน” ย่าทำตาดุใส่พี่ราชัน แล้วหันมามองฉันตาขึงขังถามฉันเสียงสะบัดว่า “ว่ายังไง ฉันถามก็ตอบสิ” “หนูเป็นแค่คนธรรมดาค่ะ ไม่ได้มีชาติตระกูลอะไร พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่เกิด อยู่กับยายในบ้านที่อยู่ในสลัม ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน พอยายตายหนูก็อยู่คนเดียวค่ะ บลา...” ความจริงที่ฉันพูดมันกับทำให้ฉันต้องผิดหวังเมื่อย่าของพี่ราชันพูดเสียงเยาะว่า “เหอะ ฉันไม่รับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นหลานสะใภ้หรอกนะ” “หนูขอโทษค่ะที่เกิดมาจน ไม่มีหัวนอนปลายเท้า” ฉันเสียใจนะที่มีคนมาดูถูกฉัน นี่ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันมาว่าฉัน ฉันไม่ไว้หน้าแน่ “ยังปากดีอีกนะ เถียงไม่หยุดเลย ไร้มารยาทจริง” ย่าตำหนิฉันด้วยสายตาและคำพูด “...” ฉันจึงเงียบ และก้มหน้ามองมือตัวเองที่กำไว้แน่น ทำไมถึงอยากร้องไห้นะ มาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อให้คนชั้นสูงดูถูกเหรอ แต่.. ฉันมองมือพี่ราชันเอื้อมมากุมมือฉันแล้วบีบเบาๆ และนั่นทำให้ฉันอบอุ่นหัวใจขึ้นมา เพราะอย่างน้อยฉันก็มีเขาอยู่ข้างๆ ในตอนนี้ และไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไงฉันก็จะสู้ ถ้าพี่ราชันสู้เพื่อฉัน…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม