บทที่ 11 เขาบอกว่าเป็นอาของเธอ

1543 คำ
บทที่ 11 เขาบอกว่าเป็นอาของเธอ ที่ห้าง M “แล้วสรุปคือแม่จะให้เธอไปอยู่บ้านด้วย แต่เธอต้องยินยอมโอนบ้านให้แม่เธอเหรอ” กอบัวถามขึ้นหลังจากที่ฉันเล่าจบ “อื้ม” ฉันพยักหน้ารับ “ก็ดีแล้วนี่ แกจะได้อยู่กับแม่แกสักที” เฟิร์นว่าขึ้น ทำให้กอบัวรีบพยักหน้ารับ สงสัยใช่มั้ยว่าเรื่องอะไร.. คืองี้ ก็เมื่อไม่กี่วันก่อนที่มีคนโทรมาหาฉันน่ะ คนคนนั้นคือแม่ฉันเอง แม่บอกว่าพยายามติดต่อฉันตลอด แต่ฉันไม่เคยรับโทรศัพท์ จนวันนั้นที่ฉันตัดสินใจรับ นั่นถือว่าเป็นการติดต่อกับที่บ้านครั้งแรกเลยนะ แล้วแม่ของฉันก็พูดจุดประสงค์ของแม่ คือให้ฉันไปอยู่ด้วย แต่มีข้อแม้ให้ฉันโอนบ้านของยายให้เป็นชื่อแม่.. และวันนี้วันหยุดเพราะเมื่อวานมีกิจกรรมรับน้อง อาจารย์เลยให้หยุดพัก ส่วนคนที่สงสัยว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน ก็ตามนั้นแหละ ฉันนอนที่ห้องพี่ราชันจริงแต่ไม่ทำอะไรนะแค่นอนกอดกันเฉยๆ ส่วนเมื่อเช้าพี่เขาก็ไปส่งฉันที่บ้าน แล้วเขาก็กลับทันทีเห็นบอกว่ามีธุระต่อ แล้วฉันจึงนัดเพื่อนๆ ออกมากินข้าว เพราะอยู่บ้านคนเดียวมันเปื่อยๆ และอยากปรึกษาเรื่องบ้านด้วย “แล้วแกกับพี่ราชันเป็นไง” กอบัวหยิบน้ำขึ้นมาดูดแล้วถามขึ้น “ยังไง” ฉันงงกับคำถามยัยนี่ เป็นไงคือยังไงอ่ะ “เป็นแฟนกันยัง” เฟิร์นขยายความให้ฉันเข้าใจมากขึ้น “ยัง” ฉันส่ายหน้าให้เพื่อนๆ “อ้าว เห็นไปไหนมาไหนด้วยกัน นึกว่าเขาขอแกเป็นแฟนล่ะ” ยัยเฟิร์นทำหน้าเซ็งๆ “แล้วมีอะไรกันยัง” ฉันเบิกตากว้าง แล้วหันขวับไปมองกอบัว ที่พูดขึ้นหน้าตาเฉย “พะ พูดอะไรของแก” ฉันพยายามตั้งสติกับคำถามสุดห่ามของเพื่อน “ปวดหัวเลยว่ะ” เฟิร์นเอามือกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ “ทำไมอ่ะ” ยังมีหน้ามาถามหน้าตาใสซื่ออีก “ใครเขาถามแบบนี้กันว่ะ” เฟิร์นว่ากอบัว “ฉันก็แค่ถามว่ามีอะไรกันยัง” ยังไม่หยุดพูดอีกนะ “เฮ้อออ งั้นเอางี้ ฉันถามแกบ้างนะ แล้วแกกับลุงรหัสแกอ่ะ มีอะไรกันยัง” เฟิร์นถอนหายใจออกมาเหนื่อยๆ แล้วถามกอบัวกลับ แต่ที่เฟิร์นพูดขึ้นนั่นทำให้ฉันตกใจยิ่งกว่าคำถามยัยกอบัวอีก “ห๊ะ หมายความว่าไง” ฉันหันไปมองเพื่อนทั้งสองอย่างงงๆ เฟิร์นก็ทำหน้าปกติ ส่วนยัยกอบัวตอนนี้ช็อกไปแล้ว เดี๋ยวนะกอบัวมีพี่รหัสคือพี่ราชัน แล้วพี่ราชันมีพี่รหัสคือพี่ไฟ แสดงว่าลุงรหัสยัยกอคือ พี่ไฟ!!! “พี่ไฟอ่ะนะ อะไรยังไง” ฉันหันไปถามเฟิร์น “พี่ไฟนั่นแหละ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจหรอก เห็นมันคุยแชทกับคนที่ตั้งอิโมจิเป็นรูปไฟ เลยลองพูดขึ้นดู แล้วพอเห็นหน้ายัยกอบัวตอนนี้อ่ะ ชัดเลยมั้ยล่ะ” เฟิร์นพยักหน้าให้ฉันแล้วหันไปมองกอบัวที่ตอนนี้ยังไม่หายช็อก “งะ ไหงมาเรื่องฉันล่ะ” พอตั้งสติได้ยัยนี่ก็แว๊ดขึ้น “ใครบอกให้ถามเพื่อนแบบนั้นล่ะ” เฟิร์นว่าขึ้น “อ้าว มันถามไม่ได้เหรอ” กอบัวย่นหน้าใส่ฉันและเฟิร์น “ถามได้ แต่มันไม่มีคนอื่นเขาถามกันแบบนี้หรอกนะ” เฟิร์นอธิบายอย่างเอือมๆ “แต่นี่เพื่อนไง ฉันก็แค่อยากรู้ บอกหน่อยดิ” กอบัวเอามือเท้าคาง แล้วหันมามองหน้าฉันอ้อนๆ “ไม่มีเว้ย” ฉันพูดขึ้นอย่างเอือมๆ ยัยนี่จะรู้ให้ได้แฮะ แต่เสียใจย่ะ ฉันไม่เคยมีอะไรกับใครเลย กอบัวทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ นั่นทำให้ฉันงงๆ ยัยนี่ทำไมอยากรู้อะไรแปลกๆ “แล้วแกอ่ะ บอกหน่อยดิกอ ฉันก็อยากรู้” เฟิร์นทำท่าทางเหมือนกอบัว แล้วทำหน้าอ้อน “รู้อะไร” กอบัวหันมามองหน้าเฟิร์นงงๆ “แกมีอะไรกับพี่ไฟยัง เพื่อนอยากรู้อ่ะ” เฟิร์นพูดขึ้นตรงๆ นั่นทำให้ฉันหลุดขำขึ้นมา “คิก” “มะ ไม่พูดด้วยแล้ว” กอบัวหันหน้าหนีอย่างงอนๆ ฉันจึงหันไปหัวเราะกับเฟิร์นอย่างสะใจ แต่จะว่าไป สองคนนี้ไปจีบกันตอนไหนนะ แล้วห่ามๆ อย่างไอ้พี่ไฟนี่นะ จะจีบสาวแค่คิดก็ปวดหัวแล้ว… หลังจากที่ออกมาจากร้านกาแฟแล้วฉันก็โดนเพื่อนทั้งสองคนลากมาที่ร้านเสื้อผ้า “เอาตัวนี้” กอบัวเดินไปหยิบชุดเดรสชุดหนึ่งมาทาบทับตัวฉันแล้วยื่นให้ “ไม่เอา” ฉันหยิบป้ายราคาขึ้นมาดูแล้วส่ายหน้าพรืด “ไม่ได้ แกต้องเอา” แต่ยัยนี่ชอบบังคับฉันตลอด “จะประหยัดไปไหนคะ แค่นี้ไม่จนหรอก” เฟิร์นหันมาดุฉัน “พวกแกก็รู้” ฉันเถียงขึ้นเสียงเบา “รู้ แต่ตอนนี้แกมีแม่แล้ว จะกลัวทำไม” “ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันไม่ไปอยู่กับแม่ฉันหรอก ฉันไม่อยากขายสมบัติของยาย” ฉันบอกเพื่อน “ฉันเข้าใจ” กอบัวเดินมากอดคอฉันแล้วยิ้มให้ฉัน “ก็มีแต่พวกแกนี่แหละที่ไม่เคยทิ้งฉัน” ฉันว่าเสียงเศร้า “โอ๊ย ไม่ดราม่าสิ วันนี้วันดีนะ” เฟิร์นว่าแล้วก็เดินมากอดคอฉันอีกทาง “ดียังไง” ฉันเงยหน้าขึ้นถามเพื่อน “ก็นานๆ ทีแกจะออกมาเที่ยวกับพวกฉัน ไม่รู้ล่ะ วันนี้วันดี ฉันจะเปย์แกเอง” เฟิร์นบอก “เปย์ฉันด้วยได้ปะ” กอบัวชะโงกหน้าไปถามเฟิร์น “ไม่ย่ะ แกรวยกว่าฉันอีก” เฟิร์นมองหน้ากอบัวอย่างหมั่นไส้ “ได้ไงอ่ะ เปย์ฉันด้วยสิ” กอบัวทำหน้างอแง ซึ่งถ้ามากับผู้ชายนะ รับรองว่าผู้ชายคนนั้นเปย์หมดตัว แต่กับพวกฉันไม่ใช่ ยัยนี่มารยาจะตายไป “ไม่” เฟิร์นทำเสียงเขียว “ไม่ต้องเถียงกัน ซื้อใครซื้อมัน” ฉันบอกเพื่อนๆ “หูฝาดไปปะว่ะ” เฟิร์นมองหน้าฉัน “จริง หูฉันต้องฝาดแน่ๆ” กอบัวก็มองฉัน “ไม่ฝาด เดี๋ยวฉันซื้อเอง” ฉันว่าอย่างปลงๆ เอาจริงๆ ตอนที่ยายเสียชีวิตยายได้ทำประกันชีวิตไว้ให้ฉัน และบ้านที่ฉันอยู่ ฉันยังแบ่งห้องให้เช่าเดือนละสองพันห้าหนึ่งห้อง จึงทำให้ฉันมีเงินเก็บเล็กน้อย แต่ถ้าใช้จ่ายไม่เป็นมันก็หมดไปได้เหมือนกัน “มันต้องอย่างงี้สิเพื่อนรัก” เฟิร์นยิ้มให้ฉันอย่างดีใจ ยัยพวกนี้ชอบมีความสุขกันจริงๆ เวลาฉันใช้ตังค์เนี่ย ก็อย่างที่ฉันบอกพี่ราชันไปอ่ะนะ ว่าเงินที่ฉันมีมันมีวันหมด ฉันจึงทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เพราะถ้าไม่มีรายรับเลย เงินที่มีมันก็หมดไป “ป่ะ เลทโก” แล้วทั้งสองก็ลากฉันไปหยิบเสื้อผ้ามาลองอีกหลายชุด เรียกได้ว่าช็อปกระจาย โดยที่ฉันเองก็ช็อปไปลืมโลกเลย แต่ถึงว่านานๆ ทีฉันจะออกมา ซื้อนิดซื้อหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก “เฮ้อ เหนื่อย” ยัยเฟิร์นและกอบัวทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้แล้วบ่นขึ้น หลังจากที่ยัยพวกนี้พาฉันทัวร์ห้างแทบทุกชั้น เลี้ยวเข้าออกแทบทุกร้าน ก็ถึงกับเหนื่อยหอบกันเลยทีเดียว “ไงล่ะ ห้าวดีนัก” ฉันว่าแล้วก็เปิดกระเป๋าหยิบเงินสดแล้วจะไปซื้อน้ำให้เพื่อน “เดี๋ยว จะไปไหน” กอบัวร้องถามขึ้น “ไปซื้อน้ำ” ฉันบอกพร้อมชี้ไปที่ร้านน้ำ “ไปด้วยกันนี่แหละ” เฟิร์นลุกขึ้นยืนแล้วหยิบเอาถุงต่างๆ ที่เธอทิ้งไว้ข้างๆ ขึ้นมาถือไว้ “งื้ออ รอแป๊บ” กอบัวทำหน้างอแง แต่ก็ลุกขึ้นตาม จากนั้นทั้งสองก็มาเดินข้างๆ ฉันเพื่อเดินไปร้านขายน้ำ “เหมย” แล้วจู่ๆ เฟิร์นก็หันมามองฉัน ซึ่งเธอทำหน้าตกใจ “อะไร” ฉันหยุดเดิน ทำไมต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วย “วันนี้พี่ราชันไปไหน” พวกเพื่อนทั้งสองถามฉันพร้อมกัน “เห็นบอกว่ากลับบ้าน ทำไมอ่ะ” ฉันตอบ เพราะจู่ๆ เพื่อนก็ถามถึงเขาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “นั่นพี่ราชันปะ” กอบัวพยักหน้าให้ฉันดู “พี่ราชัน” ฉันหันไปมองตามที่กอบัวชี้ ก็เห็นว่าเป็นพี่ราชันกับผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังนั่งกินอาหารอยู่ร้านอาหารฝั่งตรงข้าม ซึ่งวันนี้เขาบอกฉันว่ามีธุระกับที่บ้าน แต่การที่ฉันมาเห็นเขานั่งกินข้าวกับผู้หญิงสองต่อสองแบบนี้ มันหมายความว่ายังไงกัน ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแล้วกดส่งไปให้เขา.. แชท : พี่ราชัน🐶🐶 คุณส่งรูปภาพ “ทานข้าวที่บ้านอร่อยมั้ยคะ”…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม