ตอนที่ 2 เนื้อคู่ยังไม่เกิด

1810 คำ
วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกและเป็นวันรับน้องวันแรกด้วยเช่นกัน รุ่นน้องปีหนึ่งทุกคณะต่างต้องเข้ารับน้องของคณะตัวเองรวมทั้งแพรวา สาวสวยหน้าดื้อเธอเป็นผู้หญิงที่ผิวขาวเหลือง สูงเพียง 155 ถึงจะเป็นคนตัวเล็กแต่สัดส่วนหุ่นของเธอก็ไม่เล็กเหมือนตัวเพราะทั้งก้นทั้งหน้าอกนั้นเรียกว่าได้แม่มาเต็มๆ แพรวาเป็นเด็กมาจากต่างจังหวัดเพิ่งมาเรียนที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกโดยเธอเลือกเรียนคณะบริหาร ฐานะที่บ้านของเธอไม่ได้รวยมากแต่ครอบครัวก็ยังพอส่งเธอเรียนมหาลัยเอกชนได้ "ยัยแพรทางนี้แก" ขณะที่แพรวากำลังเดินมายังจุดที่พี่ๆ นัดรับน้อง ก็ได้ยินเสียงเรียกของโมนาเพื่อนสนิทของเธอที่มาจากต่างจังหวัดด้วยกัน เธอจึงรีบเดินไปหาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม "พี่เค้าเริ่มกิจกรรมยังแก" แพรวาเอ่ยถามเพื่อนทันทีเมื่อเดินมาถึง เพราะเธอไปเข้าห้องน้ำเลยให้โมนามารอที่จุดรับน้องก่อน "ยังแกคงอีกนานเพราะรุ่นพี่ไปลงทะเบียนอยู่ ว่าแต่แกตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ยที่จะไปอยู่ดูแลคอนโดให้พี่พิมน่ะ จริงๆ อยู่กับฉันก็ได้นะ พ่อกับแม่ฉันก็อยากให้แกอยู่ด้วย" โมนาเอ่ยถามแพรวาขึ้นเพราะแพรวาเพิ่งขึ้นมาอยู่กรุงเทพได้เพียงสามวัน โมนาเลยให้มานอนที่บ้านของเธอที่พ่อกับแม่เธอเช่าอยู่ แต่พิมที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของแพรวาอยากให้แพรวาไปอยู่ดูแลคอนโดให้เพราะเธอต้องตามสามีชาวต่างชาติกลับประเทศตัวเองไปหลายเดือน ด้วยความที่เห็นน้องสาวมาเรียนที่กรุงเทพฯ พิมจึงเสนอให้แพววามาอยู่ที่คอนโดตัวเองเพราะดีกว่าปล่อยร้างไว้ "อือ ฉันตอบตกลงพี่พิมไปแล้ว เสาร์นี้ก็ว่าจะย้ายไปเลย ฉันเกรงใจพ่อกับแม่แกด้วยจะให้ฉันอยู่ฟรีก็ลำบากใจ เพราะท่านก็เช่าอยู่เหมือนกัน อีกอย่างพี่พิมก็อยากให้มีคนดูแลคอนโดให้ด้วย จะปล่อยให้คนอื่นเช่าก็ไม่รู้ว่าเค้าจะดูแลได้ดีมั้ย" แพรวาตอบเพื่อนไปตามตรง "ถ้าแกตัดสินใจแล้วฉันก็เคารพการตัดสินใจของแก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่พิมกลับมาแกก็ย้ายมาอยู่กับฉัน ตกลงนะ" "อือ ตกลงจ้ะ" แพรวาตอบกลับโมนาพร้อมกับส่งยิ้มให้ "ขอโทษนะครับ ชื่ออะไรหรอครับ" ขณะที่แพรวาและโมนากำลังนั่งคุยกันอยู่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาถามแพรวา "แพรวาค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ" แพรวาหันไปตอบพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ "คือเราชื่อเวย์นะ เราชอบเธอตั้งแต่เห็นเธอเดินมาแล้ว เธอมีแฟนยังอ่ะ" เวย์ถามแพรวาพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ "มีแล้วค่ะ" แพรวาตอบกลับไปสั้นๆ ด้วยรอยยิ้ม จนเวย์นั้นหน้าเจื่อนลงทันทีเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ "เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรไม่ได้เป็นแฟนแต่ขอเป็นเพื่อนได้มั้ย เราเรียนวิศวะนะ ว่าแต่อีกคนชื่ออะไรหรอครับ" เวย์หันไปถามโมนาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร "เราชื่อโมนาเรียกโมเฉยๆ ก็ได้ เธอบอกว่าเรียนวิศวะทำไมถึงมาที่ตึกบริหารได้ล่ะ" "พอดีมาเอาของกับเพื่อนที่เรียนบริหารน่ะ เห็นแพรวาเดินมาแล้วรู้สึกถูกชะตากะว่าจะมาจีบคงเป็นได้แค่เพื่อน ว่าแต่เราเป็นเพื่อนกับพวกเธอสองคนได้ใช่มั้ย" เวย์หันไปถามแพรวาด้วยรอยยิ้ม "อือ ถ้าเป็นเพื่อนน่ะได้อยู่แล้ว" แพรวาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม จนทำให้เวย์ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มหวานของเธอ "ขอบคุณนะ งั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันนะสองสาว" แพรวาและโมนาพยักหน้าให้เวย์เมื่อได้ยินคำพูดของเขา "เสน่ห์แรงจริงๆ มาเรียนวันแรกก็มีหนุ่มหล่อมาจีบซะแล้ว ว่าแต่แกไปโกหกเวย์ทำไมว่ามีแฟน แกโสดสนิทขนาดนั้น เวย์ออกจะหล่อแถมเป็นหนุ่มวิศวะซะด้วย" โมนาถามแพรวาด้วยความสงสัย "ไม่รู้สิ รู้สึกแค่ว่าไม่ได้ชอบเค้าแค่นั้นเอง แกเคยบอกฉันว่าถ้าเราชอบใครจะรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ แต่ฉันกับไม่รู้สึกอะไรกับเวย์เลยสักนิด สงสัยเวย์จะไม่ใช่เนื้อคู่ฉัน หรือเนื้อคู่ฉันยังไม่เกิดมายัยโม" แพรวาตอบโมนาไปตามตรงเพราะเธอไม่ได้รู้สึกชอบเวย์เลยแม้แต่น้อย แพรวาเป็นคนที่ไม่คบใครสุ่มสี่สุ่มห้าถ้าเธอไม่ได้ชอบจริงๆ นั่นเป็นสาเหตุที่เธอยังไม่มีแฟนหรือจะเรียกว่าไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ "คงงั้น เพราะตราบใดที่แกยังปฏิเสธหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบเธออยู่แบบนี้ ยังไงก็ไม่มีวันเจอเนื้อคู่หรอกย่ะ" แพรวาได้แต่มองค้อนใส่โมนาเมื่อโดนเพื่อนพูดใส่ สองสาวนั่งคุยสักพักรุ่นพี่ก็เรียกรวมเพื่อชี้แจงการเข้ากิจกรรมรับน้องของคณะ "สวัสดีน้องๆ ปีหนึ่งทุกคนนะคะ พี่ชื่อทรายนะคะ อยู่ปีสอง พี่จะแจ้งรายละเอียดการรับน้องของคณะเรานะคะ คณะเราจะทำกิจกรรมรับน้องหนึ่งเดือนโดยน้องๆ ต้องมาทำกิจกรรมเวลาบ่ายสามของทุกวันนะคะและอาทิตย์หน้าก็จะให้น้องๆ ได้ตามหาพี่รหัสของตัวเองด้วย วันนี้พวกพี่จะปล่อยน้องเร็วนะคะ เพราะแค่นัดมารับทราบการทำกิจกรรม พรุ่งนี้ถึงจะเริ่มกิจกรรมการรับน้องอย่างเป็นทางการ ขอบคุณนะคะที่ตั้งใจฟังพี่พูดจนจบ เดี๋ยวจะให้พี่ๆ พาสันทนาการก่อนกลับนะคะ" เมื่อพี่ทรายพูดจบพี่ๆ กลุ่มสันทนาการก็พาน้องปีหนึ่งทั้งเล่นเกมทั้งเต้นจนแพรวาและโมนาต่างรู้สึกสนุกสนานกับกิจกรรมที่พี่ๆ มอบให้ เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแพรวาและโมนาก็นั่งรถเมล์กลับบ้านทันที ทางด้านอคินเมื่อตรวจความเรียบร้อยที่สนามแข่งรถแล้วตกเย็นก็ไปที่ผับของตัวเองตามที่ไดม่อนนัดไว้ โดยชื่อผับยังใช้ชื่อ MDR ชื่อย่อแก๊งพ่อของเขาเหมือนเดิมแต่แค่ปรับปรุงร้านให้ดูทันสมัยขึ้นตามยุคสมัยแค่นั้นเอง เมื่ออคินขับรถมาถึงผับก็เดินขึ้นไปชั้นสองที่ยังแบ่งโซนเป็นห้องทำงานและห้องวีไอพีเหมือนเดิม อคินเดินเข้ามาที่ห้องประจำของพวกเขาก็เห็นไดม่อนกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวจึงเอ่ยถามขึ้น "รามินยังไม่มา?" อคินเอ่ยถามไดม่อนสั้นๆ พร้อมกับนั่งลงหยิบแก้วเหล้ามากระดกหมดที่เดียวรวด "คิดถึงผมหรอครับ มาถึงก็ถามหาเลย" รามินพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้ากวนๆ ใส่อคิน ขณะที่เดินออกมาจากห้องน้ำเพราะเขามาพร้อมกับไดม่อนนั่นเอง "หึ ไม่เห็นหน้านึกว่าโดนลากไปกระทืบแล้วซะอีก" อคินพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะในลำคอ "คนอย่างผม ไม่ยอมให้ใครมากระทืบง่ายๆ หรอกครับ" รามินตอบกลับอคินพร้อมกับนั่งลงยังที่ประจำของตัวเอง "ที่สนามแข่งเป็นไงบ้าง" ไดม่อนเอ่ยถามอคินขึ้นเมื่อเห็นรามินหยุดพูดแล้ว "เรียบร้อยดี วันนี้ลูกค้าแค่อยากมาลองสนามไม่ได้แข่งจริง" ไดม่อนพยักตอบเมื่ออคินพูดจบ "เห็นว่ารู้ตัวคนที่สร้างเรื่องให้ผับเราเสียหายแล้วหรอรามิน" อคินหันไปถามรามินเมื่อนึกขึ้นได้ว่านัดมาคุยเรื่องอะไร "มาถึงปั๊บก็คุยแต่เรื่องงาน พวกพี่กะจะไม่พักสมองบ้างรึไงเนี่ย ทำหน้าขรึมจนตีนกาจะขึ้นแล้วนะครับ" รามินพูดขึ้นกวนๆ จนอคินตั้งท่าจะยกเท้าถีบรามินแต่ก็โดนรามินจับขาเขาไว้ก่อน "หยอกครับหยอก แค่หยอกถึงขั้นจะถีบน้องเลยหรอ" "คุยงานก่อนแล้วค่อยพักรามิน" ไดม่อนพูดขัดรามิน จริงๆ พวกเขาไม่ได้เคร่งเครียดกับเรื่องงานตลอดเวลา แต่เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จึงรีบอยากแก้ปัญหาให้จบเร็วๆ ทางด้านรามินเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของพี่ๆ ทั้งสองก็ปรับสีหน้าเข้าโหมดจริงจังทันที "คนที่ปล่อยข่าวว่าผับเราหลอกเด็กมาบริการลูกค้าคือเสี่ยทิวาเจ้าของผับตรงข้ามกับเราครับ" อคินและไดม่อนคิ้วขมวดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของรามิน "แน่ใจนะรามินว่าเป็นเสี่ยทิวาจริงๆ" ไดม่อนเอ่ยถามรามินอีกครั้ง "แน่ยิ่งกว่าแน่อีกครับ เพราะผมได้ไปคุยกับไอ้คนที่มันปล่อยข่าวเลย ผมแกล้งไปตีสนิทเลี้ยงเหล้ามันนิดๆ หน่อยๆ มันก็หลุดปากพูดมาเองว่าเสี่ยทิวาจ้างให้มันมาสร้างเรื่องให้ผับเราเสียชื่อเสียง ถ้าผับเราเสียชื่อเสียงลูกค้าก็คงจะหันไปเข้าร้านของพวกมัน เพราะตอนนี้ฐานลูกค้าเราก็ยังเยอะกว่าพวกมันตลอดอยู่แล้ว แม่ง ใช้วิธีโคตรสกปรก" รามินพูดร่ายยาวให้พี่ๆ ฟังด้วยความโมโห เพราะพวกเขาทั้งสามไม่เคยไปก่อกวนหรือระรานใครเลยแม้แต่น้อย "เอาไงไอ้คิน จะจัดการเลยมั้ย" ไดม่อนถามความเห็นจากอคินเมื่อรามินพูดจบ "ปล่อยไปก่อน รู้ตัวคนทำแล้วเราก็เพิ่มความเข้มงวดในผับให้มากขึ้น ถ้าเราไม่มีช่องโหว่ พวกมันก็ทำลายเราไม่ได้ แต่ถ้าพวกมันยังก่อกวนไม่เลิกค่อยจัดการขั้นเด็ดขาด" "ผมเห็นด้วยกับพี่คิน เดี๋ยวผมจะเพิ่มคนดูแลผับเพิ่มอีก" รามินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีแววเล่นเหมือนตอนแรก "อืม งั้นก็ตามนั้น หยุดคุยงานแล้วมาดื่มกัน" ไดม่อนพูดขึ้นพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้น อคินและรามินจึงยกแก้วเหล้าขึ้นชนกับไดม่อนแล้วนั่งดื่มด้วยกันจนดึกโดยไม่คุยเรื่องงานเรียกได้ว่าคอแข็งกันทุกคนดื่มเก่งไม่ต่างจากแก๊งพ่อของตัวเองเลยทีเดียว ด้วยความที่ดื่มหนักทั้งสามจึงเลือกที่จะนอนที่ผับแทน #หนูแพรวาไซส์มินิจะตรงสเปคพี่อคินมั้ยน๊า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม