ตอนที่ 6 ชอบแค่คนเดียว

2112 คำ
เช้าวันต่อมาอคินลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียน แต่ขณะที่เปิดประตูห้องนั้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นถุงที่มีกล่องอาหารแขวนที่หน้าประตูห้องตัวเอง อคินจึงหยิบถุงขึ้นมาแล้วเห็นโน๊ตติดอยู่บนกล่องอาหาร ‘อาหารเช้าค่ะ ฉันทำเองกับมือลองชิมดูนะคะรับรองอร่อยถูกใจแน่นอน จากคนสวยห้องข้างๆ‘ เมื่อรู้ว่าใครเป็นเจ้าของอาหารอคินก็ถือถุงกล่องอาหารเดินไปแล้วโยนทิ้งถังขยะหน้าลิฟต์โดยไม่คิดที่จะกินมันเลยสักนิด จากนั้นเขาก็เดินเข้าลิฟต์ไป ส่วนแพรวาเมื่อตื่นมาทำอาหารเช้าให้อคินหลังจากที่เอาไปแขวนหน้าห้องเขาแล้วเธอก็เดินทางไปมหาลัยตั้งแต่เช้า ด้วยความที่ต้องนั่งรถเมล์ไปเรียนเลยต้องตื่นเช้ามากกว่าปกติเพราะกลัวไม่ทันเรียน “วันนี้มีจับสายรหัสด้วยแก ตื่นเต้นอ่ะ ไม่รู้จะได้พี่รหัสผู้ชายหรือผู้หญิง” โมนาพูดขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้นขณะที่นั่งทำงานส่งอาจารย์ในห้องเรียน จนแพรวาได้แต่หัวเราะกับท่าทางของเพื่อนตัวเอง “ว่าแต่แกรู้มั้ยว่ารุ่นพี่เค้าจะให้เราตามหาพี่รหัสยังไง” แพรวาเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้ เพราะแต่ละคณะมักจะมีวิธีให้รุ่นน้องตามหาพี่รหัสที่แตกต่างกัน “ไม่รู้อ่ะ แต่ฉันว่าคงจะไม่ให้เจอง่ายๆ แน่ ” โมนาตอบกลับไปตามความคิดของตัวเอง สองสาวนั่งทำงานส่งอาจารย์จนเสร็จก็เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี แพรวาและโมนาก็มากินข้าวที่โรงอาหารเหมือนทุกๆ วัน และก็มีเวย์และรามินมากินข้าวด้วยเหมือนทุกวันเช่นกัน จนทั้งสี่คนนั้นเริ่มสนิทกันมากขึ้น “แพรน่ะ โสดแท้ๆ ก็โกหกเวย์ว่ามีแฟน ปฏิเสธตรงๆ ก็ได้ ยังไงเวย์ก็อยากเป็นเพื่อนกับพวกเธอทั้งสองอยู่แล้ว” เวย์บ่นอุบอิบให้แพรวาเมื่อเธอสารภาพว่าไม่มีแฟน เพราะเวย์คาดคั้นเอาแต่ถามว่าแฟนเป็นใครจนแพรวาต้องยอมพูดความจริง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เวย์โกรธเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้เขานั้นไม่ได้รู้สึกชอบเธอแบบแฟนแล้ว “ไอ้สัส ถ้าแพรบอกว่าไม่ชอบมึงก็จะว่าแพรตอบแรงอีก ผู้หญิงก็ต้องหาวิธีปฏิเสธที่ให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึกน้อยลงอยู่แล้ว” รามินพูดขึ้นเมื่อเห็นเวย์บ่นให้แพรวา “รามินพูดถูกเป๊ะ เราก็กลัวเวย์จะเสียหน้า คนหล่อๆ มาโดนปฏิเสธแบบไม่ชอบไปตรงๆ คงเสียความมั่นใจแย่เลย” แพรวาพูดเสริมรามินเมื่อรามินเข้าใจการกระทำของเธอ “เออๆ โอเค เลิกพูดเรื่องนี้ ว่าแต่วันนี้มึงมีแข่งรถมั้ยไอ้มิน” เวย์หันไปถามรามินเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย จนแพรวาตาลุกวาวทันทีเมื่อพูดเรื่องแข่งรถ “รามินแข่งรถด้วยหรอ” แพรวาเอ่ยถามด้วยท่าทางตื่นเต้น “ใช่ เราชอบแข่งรถน่ะ แถมยังเปิดสนามแข่งเองด้วย” “จริงหรอ” แพรวาพูดขึ้นเสียงดัง ออกอาการชอบชัดเจนจนรามินต้องถามขึ้น “อย่าบอกนะ ว่าแพรก็เป็นนักแข่งเหมือนกัน” “อือ เราชอบแข่งรถมากเลย แต่ที่บ้านไม่สนับสนุนเพราะเราเป็นผู้หญิง แถมยังให้เรามาเรียนที่นี่เพื่อให้ห่างจากการแข่งอีก” แพรวาพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเศร้าเมื่อนึกถึงเรื่องราวของตัวเอง “อยากลองไปแข่งที่สนามเรามั้ย ใช้ชื่อแฝงไม่ต้องเปิดเผยตัวก็ได้” แพรวายิ้มกว้างทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของรามิน “ได้หรอ แต่ว่าเราไม่มีรถแข่งน่ะ ไม่เป็นไร ขอแค่ได้ไปดูการแข่งเฉยๆ ก็ได้” แพรวาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เรื่องรถไม่ต้องห่วงเรามีหลายคัน เดี๋ยวให้ยืมหนึ่งคัน ตกลงมั้ย” รามินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ถึงเขาจะเป็นคนรักรถตัวเองมาก แต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาที่ชื่นชอบการแข่งของแพรวาก็ทำให้เขาอยากให้เพื่อนได้ทำตามฝันของตัวเองเหมือนที่เขาได้ทำ “ไม่ดีกว่า เราเกรงใจ รถแข่งแต่ละคันอะไหล่แต่ละชิ้นแพงมาก เดี๋ยวเราไปทำรถรามินพังอีก แข่งรถแต่ละครั้งก็ต้องมีปะทะกับรถคู่แข่งบ้างอยู่แล้ว” แพรวาพูดตอบรามินอย่างเกรงใจ “งั้นเอางี้มั้ยล่ะ เราให้แพรเลือกรถเราหนึ่งคัน เวลาแข่งแล้วได้เงินรางวัลมาแพรก็เอาเงิน 20% ของเงินรางวัลมาจ่ายเป็นค่าเช่ารถเรา ส่วนอะไหล่รถเวลาเสียหายก็ลงบิลไว้ ถ้าเก็บเงินได้ค่อยมาจ่ายดีมั้ย” รามินเอ่ยข้อเสนอให้แพรวาอีกครั้ง “ขอบคุณนะรามิน เราตกลง” แพรวายิ้มกว้างทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของรามิน เพราะอย่างน้อยการได้จ่ายค่าเช่ารถก็ลดความเกรงใจของเธอลงได้ จึงตอบตกลงรับข้อเสนอนั้นทันที “งั้นวันนี้ตอนเย็นเธอไปที่สนามแข่งนะ เราจะส่งโลเคชั่นให้ วันนี้ไม่มีแข่ง แต่จะให้เธอแข่งกับเราดู ถ้าฝีมือเธอโอเคเราจะรับเป็นนักแข่งในสังกัดของเราได้เงินเดือนด้วยนะ” “โอเค เย็นนี้เราจะไปนะ” แพรวาตอบกลับรามินด้วยรอยยิ้ม จากนั้นทั้งสี่คนก็กินข้าวไปคุยกันไปตามประสาเพื่อน เมื่อกินอิ่มแล้วก็แยกย้ายกันไปเรียนในช่วงบ่าย “ระวังกิ่งไม้” ขณะที่แพรวาและโมนากำลังเดินไปที่ตึกเรียน เธอก็สังเกตเห็นกิ่งไม้ใหญ่กำลังหักลงมาและตำแหน่งนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ แพรวาจึงรีบวิ่งไปดึงผู้ชายคนนั้นให้ถอยหลบ โชคดีที่เธอไปช่วยทันกิ่งไม้จึงไม่โดนเขา ธามรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเพราะเขาคุยโทรศัพท์อยู่ดีๆ ก็มีเสียงตะโกนของผู้หญิงตัวเล็กพอเขาหันไปเธอก็ดึงเขาออกจากตรงนั้นอย่างแรง แต่เมื่อเห็นกิ่งไม้ตกลงมาก็เข้าใจทันทีว่าเธอกำลังช่วยเขา ไม่งั้นเขาคงเจ็บหนักแน่ “ขอบใจนะที่ช่วย” ธามกดวางสายแล้วหันไปพูดกับแพรวาทันที “ไม่เป็นไรค่ะ งั้นฉันไปนะคะ” “เดี๋ยวก่อน” ขณะที่แพรวากำลังจะเดินไปหาโมนา ก็ต้องชะงักหันกลับมาหาธามเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเขา “มีอะไรรึเปล่าคะ” แพรวาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ “อยู่ปี 1 หรอ ชื่ออะไร เรียนคณะไหนหรอ” “ถามซะละเอียดเลย ก่อนถามชื่อใครก็ต้องแนะนำตัวเองก่อนสิคะ” แพรวาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอก็ทำให้ธามรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย ปากหนาจึงเผยรอยยิ้มขึ้นเมื่อรู้สึกถูกชะตากับเธอ “ชื่อธาม เรียนนิเทศปีสองครับ” ธามแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้ม “ชื่อแพรวา เรียนบริหารปีหนึ่งค่ะ ส่วนนี่โมนาเพื่อนแพรเอง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่ธาม” แพรวาพูดขึ้นด้วยรอบยิ้มพร้อมกับแนะนำเพื่อนตัวเองให้เขารู้จักด้วย “ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้องแพรวาน้องโมนา ขอบใจนะที่ช่วยพี่ไว้ไม่งั้นไม่รู้จะอยู่สภาพไหน” “ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเราสองคนขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ” พูดจบแพรวาและโมนาก็เดินผ่านธามไปทันที “แพรวางั้นหรอ เราคงจะได้เจอกันอีกแน่ๆ” ธามพูดขึ้นพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก เพราะดันเจอผู้หญิงที่ถูกใจเข้าแล้ว “แก พี่ธามหล่อมากอ่ะ ทั้งสูง ขาว แถมยังหุ่นดีอีก ดูจากแววตาที่พี่เค้ามองแก ฉันว่าพี่เค้าต้องชอบแกแน่ๆ” โมนาพูดขึ้นขณะที่เดินออกมาไกลแล้ว “แต่ฉันไม่ได้ชอบเค้า” แพรวาตอบกลับโมนาไปตามตรง “หัวใจแกตอนนี้คงมอบให้ผู้ชายข้างห้องไปหมดแล้วล่ะเนาะ” “แน่นอนอยู่แล้ว พูดแล้วก็คิดถึงเค้า ไม่รู้ว่าอาหารเช้าจะถูกปากรึเปล่า” แพรวาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อสองสาวเดินมาถึงห้องเรียนก็ต่างคนต่างตั้งใจเรียนจนถึงเวลานัดทำกิจกรรมรับน้องแพรวาและโมนาก็มารอที่จุดประจำเหมือนทุกวัน ทางอคินที่เพิ่งเรียนคาบสุดท้ายเสร็จปกติเขาจะกลับทันที แต่วันนี้ต้องอยู่ทำกิจกรรมรับน้องเพราะต้องให้น้องๆ ตามหาสายรหัสตัวเอง เนื่องจากห้องของเขาอาจารย์สั่งให้ทำโปรเจคงานร่วมกับน้องรหัสของตัวเอง เขาจึงต้องจำใจเดินมาจุดรับน้องของคณะตัวเอง “ถ้าไม่ติดว่างานต้องมีน้องรหัสทำด้วย มึงคงไม่โผล่มาสินะไอ้คิน” เอสเอ่ยแซวอคินด้วยท่าทางกวนๆ เมื่อเห็นเพื่อนนั่งหน้าขรึมไม่รับแขกอยู่ข้างหลังที่น้องปีหนึ่งนั่งรวมตัวอยู่ “ก็คงงั้น นานมั้ยที่จะแจกคำใบ้ให้รุ่นน้อง” อคินเอ่ยถามเสียงเรียบเพราะรู้สึกเบื่อกับการทำกิจกรรมแบบนี้ “ใจเย็นครับเพื่อน มึงเพิ่งมานั่งไม่ถึงห้านาทีเอง” เอสบอกอคินพร้อมนั่งมองน้องปีหนึ่งที่รวมกันอยู่ “อคิน กินน้ำแก้ร้อนหน่อยมั้ย ทรายซื้อมาเผื่อด้วย” ทรายเพื่อนร่วมห้องของอคินพูดขึ้นพร้อมกับยื่นน้ำให้อคินด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่หิว เธอเอาไว้กินเองเถอะ” อคินตอบกลับไปด้วยท่าทีเฉยชา จนทรายนั้นหน้าเสียไม่น้อยแต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนเขาเฉยชาใส่แบบนี้ เพราะตั้งแต่เรียนปีหนึ่งทรายก็พยายามเข้าหาอคินตลอด เธอชอบอคินมาก ยิ่งเห็นอคินไม่สนใจผู้หญิงคนไหนแบบนี้เธอยิ่งอยากครอบครองเขา “ไอ้คินไม่หิว แต่เราหิวนะ ให้เราก็ได้” เอสพูดกับทรายด้วยรอยยิ้มรู้สึกเห็นใจเธอไม่น้อยที่มาโดนอคินเฉยชาใส่แบบนี้ ชอบใครไม่ชอบดันมาชอบคนอย่างอคินซะงั้น “อ่ะ งั้นทรายไปแจ้งรายละเอียดน้องก่อนนะ” ทรายพูดขึ้นพร้อมกับยื่นน้ำให้เอส “อือ ขอบใจสำหรับน้ำนะ” เมื่อเอสพูดจบทรายก็ส่งยิ้มให้แล้วเดินไปทันที “มึงไม่รู้สึกชอบทรายเลยหรอวะ ทั้งสวย นิสัยดี แถมเป็นดาวคณะเราด้วย” เอสเอ่ยถามอคินด้วยความสงสัยเพราะทรายนั้นเรียกได้ว่าเป็นสาวสวยประจำคณะบริหาร ทั้งสูง ขาว หุ่นดี แถมวางตัวดีอีกต่างหาก ใครๆ ต่างก็ว่าเหมาะสมกับอคิน แต่เจ้าตัวกลับเฉยชาไม่ออกอาการชอบเธอเลยสักนิด “ไม่ชอบ มึงถามคำถามนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนะไอ้เอส” อคินบ่นให้เอสทันทีเมื่อได้ยินคำถามเพื่อน เขารู้ว่าเธอชอบเขาตั้งแต่ปีหนึ่งแต่เขานั้นไม่มีความรู้สึกชอบเธอเลยสักนิด “เอาล่ะค่ะน้องๆ ก่อนที่จะจับฉลากคำใบ้ เดี๋ยวจะให้พี่ๆ ปีสองมาโชว์ตัวก่อนนะคะ น้องๆ จะได้รู้ว่าหน้าตาพี่ปีสองเป็นยังไง เวลาเจอคำใบ้จะได้เดาถูก” ขณะที่อคินและเอสกำลังคุยกันอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงพูดของทรายเรียกให้พี่ปีสองไปยืนข้างหน้า อคินและเอสจึงเดินไปยืนรวมกับเพื่อน “ยัยแพรแกเป็นอะไร ทำไมทำหน้าอึ้งแบบนั้น” โมนาเอ่ยถามแพรวาทันทีเมื่ออยู่ดีๆ แพรวาก็เอามือปิดปากพร้อมกับทำหน้าอึ้งเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง “โม คนที่ฉันชอบเค้าเป็นรุ่นพี่เรา งืออ โคตรบังเอิญเลยแก” แพรวาพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจปนรอยยิ้มตื่นเต้นเมื่อเห็นอคินยืนอยู่ข้างหน้า “ไหน คนไหนแก” โมนาถามแพรวาด้วยความตื่นเต้นอยากรู้ทันที “คนที่สูงที่สุดอ่ะแก ยืนคนแรกซ้ายมือเรา” “อร๊ายย หล่อมากยัยแพร มาตรฐานแกจะสูงไปมั้ย พี่เค้าหล่อเด่นที่สุดในรุ่นเลยนะนั่น” โมนาพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าตาคนที่เพื่อนแอบชอบ เพราะอคินนั้นสูงกว่าเพื่อนในรุ่นแถมหน้าตายังหล่อเหลาเรียกได้ว่าเด่นกว่าทุกคนเลยด้วยซ้ำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม