ตอนที่ 1 คนรัก
อาการวิงเวียนศีรษะในตอนเช้าทำให้วารีรัตน์รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก หญิงสาวลุกจากเตียงด้วยอาการที่เหมือนบ้านหมุนแล้วฝืนพาตัวเองไปที่ห้องน้ำ
“บ้าจริง” ริมฝีปากบางสบถเบาๆ เมื่อตนเองอยากอาเจียนแต่ก็อาเจียนไม่ออก จึงได้แต่ล้างหน้าให้สดชื่นแล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์ห้องครัวเพื่อต้มน้ำร้อนชงอะไรอุ่นๆ ให้ท้องไม่ว่าง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสายจากคนรักที่ห่างกันไปในช่วงนี้ จึงทำให้หญิงสาวยิ้มออกแล้วรีบกดรับสายเขาด้วยความคิดถึง “ค่ะ วริศ”
“วันนี้ผมจะเข้าไปหานะ”
“ให้น้ำเตรียมอาหารเย็นไว้รอไหมคะ” เธอถามเขาด้วยความตื่นเต้น
ตั้งแต่ที่วริศเลื่อนขั้นเป็นพระเอกเขาก็มีงานเข้ามาจนไม่มีเวลาว่างมาเจอเธอ แต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อส่งข้อความหากันอยู่ตลอด
“ผมซื้อเข้าไปดีกว่า วันนี้วันครบรอบสามปีของเราผมไม่อยากให้น้ำเหนื่อย” เสียงจากปลายสายดูเหนื่อยๆ ทำให้วารีรัตน์รู้สึกเป็นห่วงอีกฝ่ายมาก
“งั้นเย็นนี้เจอกันนะคะ” เธอบอกเขาเสียงหวานขณะที่กำลังปิ้งขนมปังไปด้วย
“ครับ” เขารับคำแล้วกดวางสายไป
หญิงสาวชงเครื่องดื่มร้อนแล้วนำไปนั่งกินพร้อมขนมปังที่โต๊ะอาหาร ใบหน้าของหญิงสาวดูไม่ค่อยสู้ดีนักแต่ก็ต้องฝืนกินอะไรรองท้อง
พอกัดขนมปังไปได้หนึ่งคำก็รู้สึกพะอืดพะอม แล้วรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำแล้วอาเจียนออกมาพร้อมกับน้ำที่ขมและเฝื่อนคอ พลางคิดว่าอาการแบบนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน
“สงสัยต้องลางานแล้ว” เธอบ่นกับตัวเองแล้วล้างหน้าล้างตาอีกรอบ ฝืนดื่มเครื่องดื่มจนหมดแก้วแล้วเริ่มรู้สึกสงสัยกับอาการของตัวเองเมื่อนึกได้ว่าประจำเดือนไม่มาเดือนกว่าแล้ว
“คงไม่หรอกมั้ง” มือเรียวลูบที่หน้าท้อง แววตาฉายแววกังวลเมื่อคิดถึงสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้
************************
สองเดือนก่อนหน้านี้
เสียงเคาะแป้นพิมพ์ของวารีรัตน์ที่กำลังทำเล่มวิจัยอยู่ ทำให้คนรักอย่างวริศที่เพิ่งเข้ามาในห้องถึงกับอมยิ้มด้วยความเอ็นดูในความขยันของคนรัก
เธอเป็นโปรดิวเซอร์ของบริษัทสื่อโฆษณาที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเองแม้จะมีอาชีพที่มั่นคง กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทเพื่อเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง
“แฟนผมจะขยันไปไหนครับ” เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินเข้ามายืนด้านหลังแล้ววางคางบนศีรษะของเธอ มองดูงานที่หญิงสาวกำลังพิมพ์อยู่หน้าจอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่
หญิงสาวยิ้มที่มุมปากขณะที่สายตาคู่งานยังคงจ้องที่หน้าจอสลับกับเอกสารที่วางอยู่ข้างๆ แล้วนิ้วก็ยังสัมผัสแป้นพิมพ์ไม่หยุด
“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนสิคะ เดี๋ยวพิมพ์หน้านี้เสร็จน้ำจะหาอะไรให้กิน”
“ผมแวะมาหาน้ำเดี๋ยวก็จะกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้รถของกองถ่ายจะมารับแต่เช้าน่ะ” นักแสดงหนุ่มขวัญใจแฟนคลับค่อนประเทศพูดขึ้นเสียงนุ่ม
วารีรัตน์จึงวางมือจากงานตรงหน้าแล้วลุกขึ้นยืนกอดเอวหนานั้นเอาไว้ ใบหน้างามเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาที่หวานซึ้ง “งั้นน้ำวางมือตอนนี้เลย จะกินอะไรดีคะเดี๋ยวน้ำทำให้”
“ผมหิวน้ำ” เขาพูดอย่างมีความหมาย ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“น้ำในตู้เย็นนะคะ เพราะน้ำนี้ไม่ให้กิน” เธอแกล้งปฏิเสธเขาแล้วยิ้มมองใบหน้าที่ผิดหวังนั้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“เฮ้อ...พรุ่งนี้ผมคงไม่มีกำลังใจทำงาน แต่ก็ช่างเถอะ” น้ำเสียงนั้นดูผิดหวังเล็กน้อย ทำสีหน้าผิดหวังจนทำให้หญิงสาวหัวเราะออกมาเบาๆ กับบทบาทของวริศการละคร
เขาเป็นนักแสดงที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักแดงหน้าใหม่กับบทเพื่อนพระเอก และเพราะกำลังมีชื่อเสียงจึงตกลงกันว่าจะไม่เปิดเผยสถานะในตอนนี้
เพราะวารีรัตน์เองไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใครจึงไม่ได้เร้าหรือเรื่องการเปิดเผยสถานะกับเขา และอยากเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า
วารีรัตน์เขย่งปลายเท้าหอมแก้มคนรัก “งั้นให้กินก็ได้ แต่กินคำเล็กๆ นะคะเดี๋ยวจุก” เธอบอกเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
วริศมองเธอด้วยสายตาที่หลงใหล ปลายนิ้วหนายื่นไปเกลี่ยไรผมที่ตกลงมาไปทัดไว้หลังใบหู “น้ำเป็นบ้านของผม เป็นที่พักพิงทางใจ เป็นทุกๆ อย่าง ถ้าไม่มีน้ำช่วยผลักดันผมให้ได้ถ่ายโฆษณาก็คงไม่เป็นที่รู้จักและมายืนที่จุดนี้ได้ วันที่เราเปิดตัวผมจะทำให้ทุกคนอิจฉาที่ผมมีแฟนแสนดีขนาดนี้”
“ถึงวันนั้นแฟนคลับวริศคงรุมถล่มน้ำแล้วล่ะ พูดแล้วขนลุกเลย ยิ่งไม่กล้าเปิดตัวเข้าไปใหญ่”
“แฟนคนอื่นเขามีแต่อยากให้เปิดตัว แต่แฟนผมนี่ยังไงครับ” เขาถามแล้วโน้มใบหน้าลงมาหอมแก้มยุ้ยที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะสบตาด้วยแววตาที่อบอุ่น
“น้ำอยากให้คุณโฟกัสกับการทำงานค่ะ เรื่องของเราเก็บเอาไว้ก่อน เอาไว้ผลงานคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นและมั่นคงกว่านี้เราค่อยเปิดตัวก็ยังไม่สาย”
“คุณน่ารักขนาดนี้จะให้ผมไม่รักไม่หลงคุณได้ยังไงไหวล่ะครับ” เขาพูดแล้วอุ้มช้อนตัวเธอขึ้นมาไว้ในวงแขน สาวเท้าเดินเข้าไปยังห้องนอนอย่างไม่รีบร้อน
ร่างของเธอถูกวางลงบนเตียง ตามด้วยคนรักหนุ่มที่เข้ามาทาบทับร่างของเธอเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปจุมพิตริมฝีปากบางที่เผยอรับ
วารีรัตน์คล้องคอรับจูบจากเขาพร้อมทั้งจูบตอบอย่างดูดดื่ม ในขณะที่มือของทั้งคู่ช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าของกันและกันออกไปทีละชิ้นพร้อมๆ กับการเล้าโลมกอดรัดกัน
เมื่อปราการด่านสุดท้ายถูกถอดออกไป วริศก็แนบสะโพกเบียดถูกสะโพกเธอจากภายนอกอย่างเร่าร้อนในขณะที่จูบไซ้ซอกคอหอมกรุ่นนั้นด้วยความหลงใหล
หญิงสาวสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อความชื้นจากปลายลิ้นสัมผัสลงที่ยอดอกแล้วดูดขบด้วยความกระหาย ร่างบางแอ่นอกรับปลายลิ้นนั้นอย่างเต็มใจ
เสียงหายใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นทำให้ต่างฝ่ายต่างเกิดความกำหนัดต่อกัน แต่ก่อนที่คนรักจะล่วงล้ำเข้าไปวารีรัตน์ก็ดันอกเขาเอาไว้ก่อน
“ถุงยางล่ะคะ” เธอถามอย่างเป็นกังวล
“วันนี้ขอนะน้ำ ผมจะหลั่งนอกเอา” เขาอ้อนวอนเธอเสียงกระเส่า
“แต่ปล่อยนอกก็มีโอกาสท้องนะวริศ”
“ท้องก็ดีสิครับ ผมจะได้เปิดตัวแม่ของลูก ตอนนี้ผมเริ่มดังแล้วนะน้ำ เกือบสามปีที่เราฝ่าฟันทุกอย่างจนมาถึงวันนี้ด้วยกันผมว่าผมพร้อมจะสร้างครอบครัวกับคุณแล้ว” ประโยคหวานหูกับมือที่ลูบไล้สะโพกทำให้เธอยอมใจอ่อน
เมื่อเห็นว่าคนรักไม่ขัดขืน วริศจึงล่วงล้ำเข้าไปแล้วบรรเลงบทรักด้วยความหวานชื่น
ห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงครางกระเส่าแห่งรักที่บรรเลงร่วมกัน มอบความสุขให้แก่อีกฝ่ายด้วยการกระทำที่เต็มไปด้วยความซ่านสยิวและสุขสม
จนในที่สุดวริศก็พาคนรักไปสู่ปลายทางได้สำเร็จ วารีรัตน์หวีดร้องเสียงหลงแล้วเกร็งสะโพกเบาๆ ก่อนจะตัวอ่อนลงไป ในขณะที่เขาทำตามคำพูดถอนแก่นกายออกมาก่อนจะระเบิดความสุขไว้ด้านนอก
“ผมรักน้ำมากๆ เลย อีกสามวันเจอกันนะ ช่วงนี้งานผมเยอะมากเลย”
“น้ำรักคุณแล้วก็เข้าใจคุณค่ะ ตัวมาไม่ได้แต่ใจเราก็สื่อถึงกันเสมอ”
วริศยิ้มกว้างแล้วหอมแก้มเธอ ไม่มีใครเข้าใจเขาเท่าหญิงสาวตรงหน้าอีกแล้ว
************************