Chapter 4 : ตระกูลต้องสาป
“Please follow me this way Sir, Madame... Her name’s Dao...”
พอได้รับการแนะนำ ส่งงานให้ทำต่อ หลังจากที่มัคคุเทศก์ตรงไปหน้าเคาน์เตอร์เพื่อลงชื่อ รหัสบริษัททัวร์ ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานขาย ตรึงใจพยายามเก็บอาการหวั่นวิตกไว้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่เป็นมืออาชีพ แต่เมื่อเช้านี้เธอเจอแมงมุมหน้าตาประหลาดอยู่เรื่อย ก่อนพวกมันจะหายไปกับตา... เจอแล้วเจออีก หลาย ๆ ครั้งเข้าเธอก็รู้สึกกลัว
นั่นเรียกเสียงหัวเราะจากเจ้านายหนุ่มที่เดินเข้าร้านมาเงียบ ๆ ขณะตาคมมองหางม้าปัดไปมา ที่มัดผมรูปหัวใจน่ารักและรอยยิ้มหวานสมชื่อ และว่ากันว่าสายตาไม่เคยโกหก เขามองเธอเหมือนอยากกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
“คุณดุลยาครับ... น้องคนนี้ควรไปฝึกงานใหม่กับผมนะ”
“น้องดาว... มีอะไรหรือคะ?” ผู้จัดการสาวมีสีหน้าสงสัย พอเจ้านายมาทำด้อม ๆ มอง ๆ การทำงานของคนในร้าน ถึงชายหนุ่มจะเคยทำแต่ไม่เคยโจ่งแจ้งขนาดนี้ แค่มาดูการทำงานประสาเจ้าของ
“ผมได้ยินว่ายอดขายดีนะ เป็นเด็กจบใหม่ไฟแรง แต่ผมว่าเธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้”
หัวหน้างานสาวทำหน้าเหลอหลา หล่อนคิดว่าการทำงานของรุ่นน้องในทีมค่อนข้างดีด้วยซ้ำไป ตรึงใจทำยอดทะลุเป้าในเดือนแรก แต่พอได้ยินน้ำเสียงหนักแน่น
“เธอดูเป็นเด็กอนาคตไกล ถ้าได้รับโอกาสสักหน่อย คงไปได้ไกลกว่านี้ คุณเห็นด้วยไหม?”
“อ้อค่ะ! จริงด้วยค่ะคุณพันวา ยาเห็นด้วยนะคะ น้องเรียนงานจาก...” ไม่ขาดคำดี คนที่เสร็จธุระจากลูกค้า ปิดการขายได้สำเร็จก็เดินตรงมาหาสองหนุ่มสาวต่างวัย หน้าประตูเลื่อนกระจกที่ขยับด้วยระบบอัตโนมัติ ลมร้อนผ่าวจากข้างนอกปะทะเข้ากับใบหน้าซีดชา ด้วยรู้สึกไม่ดีกับการถูกตำหนิ
“สวัสดีค่ะคุณพันวา...” เธอยกมือประนมแนบอกอย่างนอบน้อม ขณะคิ้วพันกันยุ่งเหยิงใต้รอยยิ้มยังเหมือนดูแคลนเธอน้อย ๆ ในรอยยิ้มแสนสุขุม การแต่งตัวโก้หรูจากสูททรง Slimfit เข้ารูปร่างกำยำเป็นล่ำสัน งานแบรนด์เนมของร้านแห่งนี้
“สวัสดีครับ”
“ขอประทานโทษนะคะ... คือหนูไม่เข้าใจค่ะ หนูผ่านการฝึกงานมาแล้ว ต้องปรับปรุงตรงไหนหรือคะ?”
“ดีครับ แต่ว่ายังดีไม่พอ...”
“หนูจบ...”
“ผมรู้ว่าคุณจบอะไร พนันกับผมไหม? ผมว่าคุณทำได้ดีกว่านี้นะครับ ถ้าลดอีโก้ลงสักหน่อยคุณดาว คิดเสียว่าผมเป็นรุ่นพี่ มาสอนงานดีไหมครับ?” ด้วยความมั่นอกมั่นใจของคนประสบการณ์มากกว่า มือหนาผายออกกว้าง เอ่ยอย่างสุภาพ
“ตามพี่มาเลยครับ...”
“เอ่อ... ค่ะ”
หญิงสาวยังงุนงงพอได้รับคำคำเชิญจากเจ้าของร้านให้กลับไปยืนที่เดิม นั่นเป็นที่ตื่นเต้นของพนักงานคนอื่น ซึ่งยอมให้พนักงานขายในคราบเจ้าของตัวจริงแซงคิว ส่วนลูกค้าที่เดินเข้ามา เพียงตามสองหนุ่มสาวไปยังชั้นสองด้วยความคาดหวังว่าจะได้รับการนำเสนอสินค้าที่ดี ขณะที่เขาคงยินดียกเปอร์เซ็นต์ให้รหัสพนักงาน TC124 ฟรี ๆ หากการขายนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
พันวาเริ่มจากการให้เธอทำงานก่อน เพื่อที่เขาจะได้ดูข้อผิดพลาด เขาให้หญิงสาวเดินนำหน้าไป แนะนำสินค้าต่าง ๆ ภายในร้านด้วยรอยยิ้ม กระทั่งจบการขายแล้วลูกค้าตกลงตัดเสื้อสูทตัวหนึ่ง พนักงานสาวขออนุญาตแขกวัดตัวตัดเสื้อ เลือกผ้า เขาถึงเข้าไปทำหน้าที่
“ไหล่... ยังไม่ใช่ครับ น้องวัดแบบนี้ก็ได้อยู่นะ... แต่ว่ามันยังไม่เพอร์เฟค” แล้วก็คนพูดหันไปก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม ยกมือไหว้อย่างไทยแท้ “ผมขออนุญาตนะครับมิสเตอร์ดเวย์น ผมพันวาครับ หรือคุณจะเรียกผม... Yasakov ผมเป็นรุ่นพี่เธอเล็กน้อย แต่ว่าเรามาด้วยกัน เราใช้สินค้าที่นี่เหมือนกันครับ มันสวยมาก ดูดีหากว่าอยู่บนร่างกายคุณ มันจะออกมาสมบูรณ์แบบแน่นอน”
ลูกค้าชาวต่างชาติคงเห็นด้วยเพราะการแต่งตัวของพวกเขาเองก็ดีไม่น้อยหน้า คนไหนเป็นคนสอนงานและคนใหม่ ที่บอกว่ามาด้วยกัน...
สองหนุ่มสาวยังได้รับไมตรีตอบกลับมาเป็นรอยยิ้มใจดีของลูกค้า เปิดโอกาสให้ชายร่างสูงใหญ่หยิบสายวัดตัวขึ้นมาอย่างมืออาชีพ ไม่ถือตนเลยสักนิดว่าเป็นเจ้าของ เขาแค่ปฏิบัติตนเหมือนเป็นพนักงานขายและช่างตัดเสื้อคนหนึ่ง
“สัดส่วนมนุษย์แต่ละคนไม่เท่ากันไม่ใช่แค่สรีระ กระดูกแต่ละคนยังไม่เท่ากันเลยครับ... ถ้าน้องไม่กดสายวัดลงไป ใช้น้ำหนักจากปลายนิ้วอีกสักหน่อย สูทที่ตัดออกมา ได้ขนาดสวยก็จริงแต่อาจจะเคลื่อนไหวไม่สะดวก...”
“คือเราสามารถขออนุญาตลูกค้าได้นะครับ แต่ถ้าลูกค้าไม่สะดวกใจจะถอดเสื้อ มืออาชีพต้องใช้สัญชาตญาณ... ตรงนี้... สามารถใช้วิธีซ่อนตะเข็บ คนถือสายวัดต้องเผื่อขนาดให้ดีเพราะคนตัดผ้าไม่ได้มาวัดเอง คนตัดเสื้อเป็นจะรู้ครับ...”
“ค่ะคุณพันวา...”
ดวงตาคู่สวยมองตามทุกการขยับมือของคนเก่งกว่า ยังกับว่าปากกาในมือที่ขีดลงบนกระดาษและสายวัดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา สามารถขีดเขียนตัวเลขการตัดเสื้อตัวหนึ่งได้อย่างแม่นยำ ส่วนตัวเธอเรียนเรื่องเสื้อผ้ามาไม่น้อย แต่เธอกลับแน่ใจว่าเขาเรียนมามากกว่าหลายเท่า ความไม่พอใจในทีแรกจึงสลายหายไปกับอากาศ เมื่อทุกประโยคที่เปล่งออกมาจากเรียวปากหนาหยักได้รูปมีแต่เรื่องดี ๆ
นี่มันขุมทรัพย์แห่งความรู้ชัด ๆ!
“แล้ว... เราจะคาดคะเนยังไงล่ะคะ? หนูคิดว่ามันดีแล้วสำหรับไซซ์นี้”
“อาจเสียเวลาสักเล็กน้อย แต่ว่าเรื่องสำคัญ... สำคัญมากนะครับ การขยายตัวของเนื้อผ้าแต่ละชนิดแตกต่างกัน หากว่าใส่ไปสักพักจะทำให้ผ้ายืดออกไปแค่ไหน สูทตัวหนึ่งไม่ใช่ถูก ๆ เราจะไม่ตัดมันออกมาเพื่อให้ลูกกลับมาในเดือนหน้า สินค้าทุกชิ้นต้องดีที่สุด คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ทุกท่านที่เดินออกจากร้านของเราไป อกผายไหล่ผึ่ง หล่อเข้มทุกองศา”
พอมีพนักงานมาช่วยจัดการกับผู้ชายตัวโต ที่เดินเข้าห้องลองเสื้อไป ชายหนุ่มยังคงอธิบายด้วยน้ำเสียงเข้มเครียด เหมือนอาจารย์สอนนักศึกษาในมหา’ลัย ทว่าเขาก็เป็นกันเองมากพอที่จะทำให้เธอไม่รู้สึกเกร็งแม้แต่น้อย
มือหนาเลื่อนไปหยิบแค็ตตาล็อกที่มีหมายเลขสีบอก บนโต๊ะเคาน์เตอร์ถัดชั้นวางผ้าหลายชนิด แนะนำให้ผู้น้อยฟังด้วยท่าทีนอบน้อม ขอความคิดเห็น
“เนื้อผ้าเป็นตัวนี้นะครับ อิตาลีวูล ลูกค้าบอกว่าสีโทนนี้ได้ ผมคิดว่า... รหัสสีน้ำเงิน 97 น่าจะสวยนะ เหมาะกับสีผิวของคุณลูกค้าด้วย น้องดาวว่าไง?”
“ค่ะ เห็นด้วยค่ะ”
“ไม่พอใจหรือเปล่าครับ?”
“ไม่เลยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณพันวา หนูขอโทษที่โต้แย้งคุณก่อนหน้านี้นะคะ หนูทำนิสัยแย่มาก ๆ เลย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”
“ขอโทษจริง ๆ นะคะ หนูจะตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้ค่ะ”
แล้วสาวน้อยน่ารักเด็กดีตามคำบอกเล่าของอัฟซาก็ยกมือไหว้เขาอีกรอบ เจ้านายถึงกับฉีกยิ้มกว้าง แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาก็ทำหน้านิ่งเฉย
“ผมไม่ได้เป็นแค่เจ้าของร้านที่มีสาขาทั่วโลกนะ บ้านผมตัดฉลองพระองค์ถวายท่าน ๆ มาเยอะแล้ว เป็นบุญของน้องแค่ไหนที่จะ...” พลันก้มหน้าลงยกมือป้องปากกระซิบข้าง ๆ “ได้เรียนงานกับคุณพันวา ถ้าตกลงก็... รอที่รถนะครับ”
สายวัดตัวที่พาดอยู่บนบ่าถูกส่งให้หญิงสาวกับมือ ก่อนที่เขาจะเดินไป ทิ้งคนข้างหลังไว้กับความตื่นเต้นดีใจกับสิทธิพิเศษ และเธอจำเป็นต้องตัดสินใจว่า...
จะเดินเข้าไปหาเสือร้ายดี ๆ หรืออยู่ที่เดิมตรงนี้...