"ไม่รู้ว่าจะเรียกประชุมเรื่องอะไร คงไม่รับน้องอีกหรอกนะ" เวียร์เพื่อนร่วมคณะแพทยศาสตร์เอ่ยขึ้นขณะเดินไปยังลานกิจกรรมตามนัดหมายของรุ่นพี่
"รับอีกก็เดินออกดิ แต่เมื่อวานธันน์แม่งโคตรเจ๋งเลยว่ะ" เก้าเอ่ยขึ้นบ้าง
"กูมาเรียน ไม่ได้อยากมาเจ๋งใส่ใคร แล้วก็แค่ไม่ชอบการรับน้องแบบนี้ก็เท่านั้น" ธันน์ว่า ทั้งสามคนรู้จักมักคุ้นกันก็เพราะโดนทำโทษให้ล้างห้องน้ำเหมือนกัน และบังเอิญที่ทั้งสามคนเป็นรูมเมทกัน
"นั่นฟ้าใสกับมารีนี่หว่า" เก้าชี้ให้ดูฟ้าใสกับมารีที่ยืนอยู่กับเพื่อนๆ คณะเภสัชศาสตร์
"จำแม่นนะมึง" เวียร์ว่า
"คนสวยมันก็น่ากด เอ้ย น่าจดน่าจำไม่ใช่เหรอวะ ฟ้าใสนี่แฟนมึงเปล่าวะ เมื่อวานเห็นเดินตามมึงไป เลิกเรียนก็เห็นออกไปด้วยกัน"
"น้องสาวแฟนพี่กู"
"น้องสาวแฟนพี่ แล้วเป็นแฟนมึงด้วยไหมล่ะ" เก้าถามย้ำเพราะรู้สึกสนใจฟ้าใส ใบหน้าจิ้มลิ้ม รอยยิ้มสดใส ผู้ชายคนไหนได้เห็นก็ต้องชอบ
"น้องๆ ที่มาแล้วนั่งประจำที่ตามป้ายชื่อคณะเลยนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา" เสียงของรุ่นพี่ประกาศใส่โทรโข่ง นักศึกษาเดินกระจายไปตามที่รุ่นพี่บอกรวมถึงกลุ่มของธันน์กับฟ้าใส
"ธันน์" มารียกมือขึ้นมาโบกทักทายธันน์ ธันน์ยิ้มตอบก่อนสายตาจะเบนไปหาฟ้าใสที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างนิ่งเฉยไม่ได้กล่าวคำใดออกมา
นักศึกษาทุกคนหย่อนตัวลงนั่งขัดสมาธิกับพื้นของลานกิจกรรมที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาทำให้ไม่ร้อน รอฟังแถลงการณ์ของรุ่นพี่
"จากเหตุการณ์เมื่อวานทำให้พี่ๆ ได้กลับมาทบทวนถึงกิจกรรมรับน้องกันใหม่ และได้มติกันดังนี้ เราจะปรับเปลี่ยนกิจกรรมรับน้องไปเป็นกิจกรรมออกค่ายอาสาเพื่อช่วยเหลือให้การรักษาพยาบาล ป้องกันโรค ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร โดยกิจกรรมนี้จะอยู่ในความดูแลของอาจารย์ประจำภาควิชาของแต่ละคณะและรุ่นพี่ปีสองกับปีสาม ส่วนรุ่นพี่ปีสี่ตอนนี้ก็เป็นช่วงฝึกงาน เตรียมโปรเจค หรืออยู่ชั้นคลินิกก็จะไม่มีเวลามาร่วมกิจกรรมกับพวกเราในครั้งนี้ โดยการออกค่ายอาสาในครั้งนี้จะจัดขึ้นในต้นเดือนหน้า เพราะช่วงนี้เราต้องทำการคัดเลือกดาวเดือนประจำคณะเพื่อไปประกวดระดับมหาวิทยาลัยต่อไป กิจกรรมค่ายอาสาจะไม่มีการบังคับให้น้องๆ เข้าร่วมนะคะ จะเป็นไปโดยความสมัครใจ แต่พี่ๆ ทุกคนก็อยากให้น้องๆ ได้รับประสบการณ์ในการออกค่ายครั้งนี้ หรือใครที่ต้องกลับไปปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อน สามารถมาลงชื่อในวันพรุ่งนี้ได้อีกหนึ่งวัน ส่วนน้องๆ ที่สามารถตัดสินใจและสมัครใจจะร่วมกิจกรรมเชิญไปลงชื่อที่พี่ๆ ของแต่ละคณะที่โต๊ะด้านนั้นได้เลยค่ะ ขอย้ำนะคะว่าไม่มีการบังคับ ไม่มีผลต่อคะแนนกิจกรรมใดๆ ใครไม่ไปหรือน้องๆ ที่ลงชื่อแล้วสามารถกลับได้เลยนะคะ แล้วพี่ๆ จะแจ้งกำหนดการอีกทีว่าเราจะไปที่ใด" สิ้นเสียงประกาศจากรุ่นพี่ เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ของเหล่านักศึกษาก็ดังขึ้น
"ไปกันไหม น่าสนุกดีออก" มารีหันไปถามความคิดเห็นของเพื่อนๆ
"ไป" ไอซ์ ยุ้ย สกาย เบย์ พยักหน้าตอบพร้อมกัน
"ฟ้าใสไปไหม" สกายถาม
"ทุกคนไป ฟ้าใสก็ต้องไปสิ น่าสนุกอย่างที่มารีว่า"
"ธันน์ ธันน์ไปไหม" มารีตะโกนถามธันน์ที่กำลังคุยกับเพื่อนทั้งสองคน
"ไป" ธันน์สบตาฟ้าใสเพียงครู่ก่อนจะตอบออกมาเสียงเรียบ มารียิ้มกว้างด้วยความดีใจ
"ป่ะลงชื่อกัน ตอนนี้คนยังไม่เยอะ" เวียร์เอ่ยขึ้น ทุกคนลุกเดินออกไปลงชื่อที่โต๊ะของคณะตนเอง
ขณะเข้าแถวรอลงชื่อเสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชันไลน์จากโทรศัพท์ของฟ้าใสก็ดังขึ้น เธอหยิบออกมาเปิดอ่านและก็เป็นอย่างที่เธอคิด พ่อกับแม่ของเธอติดเคสฉุกเฉินไม่สามารถมารับได้อีกตามเคย และอาพายุจะมารับตอนห้าโมง ซึ่งเธอก็ชินแล้ว ไม่อาพายุก็จะเป็นคุณปู่คุณย่า หรือไม่เธอก็กลับพร้อมๆ กับบัว ปุณณ์ ปัณณ์ แล้วไปนั่งเล่นที่คฤหาสน์แทนไท
"ค่ำๆ ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันดีกว่า สักทุ่มหนึ่ง ตอนนี้ขอกลับไปอาบน้ำก่อน เหนียวตัวว่ะ" เก้าเอ่ยขึ้นขณะเดินกลับหอพักหลังจากลงชื่อเสร็จ ด้วยเป็นคนไม่ชอบให้ร่างกายชื้นไปด้วยเหงื่อ
"แถวนี้มีไรอร่อยวะ" เวียร์ถามด้วยเป็นคนจังหวัดนครปฐมจึงยังไม่คุ้นชินกับที่นี่
"เยอะแยะหน้ามหาลัย ร้านไหนคนเยอะร้านนั้นอร่อย ธันน์ว่าไง จะไปกับพวกกูสองคนไหม" เก้าหันไปถามธันน์
"ธันน์ ไอ้ธันน์ คิดไรอยู่วะ" เวียร์เรียกธันน์ที่เอาแต่เหม่อจนแทบจะเป็นเสียงตะโกน
"เดี๋ยวกูมา ถ้ากูกลับไม่ทันมึงสองคนไปก่อนเลย" ว่าแล้วธันน์ก็เดินไปที่รถของตนที่จอดอยู่ใต้ตึกหอพัก
"อะไรของมันวะ" เก้าว่า
"มันคงมีธุระ มึงจะอาบน้ำไม่ใช่ไง ไปดิ" เวียร์ว่า ทั้งสองคนเดินไปยังลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ตนพัก
"สกาย ทำไมยังไม่กลับล่ะ" ฟ้าใสหันมาถามสกายหลังจากที่เพื่อนคนอื่นๆ กลับกันไปหมดแล้ว
"รอเป็นเพื่อนฟ้าใสก่อนไง"
"เฮ้ยไม่เป็นไร สกายกลับได้เลย เดี๋ยวคุณอาของฟ้าใสก็มา"
"ไม่เป็นไรเหมือนกัน"
"แล้วสกายกลับยังไง"
"กายเอารถมา วันหลังถ้าพ่อแม่ฟ้าใสไม่ว่างให้กายไปส่งก็ได้นะ"
"ขะ....." ยังไม่ทันที่ฟ้าใสจะเอ่ยคำใด รถยนต์คันหรูขับเข้ามาจอดตรงหน้าเธอกับสกาย ซึ่งเธอจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นรถของใคร
"ขึ้นรถ ฉันไปส่งโรงพยาบาล" เสียงทุ้มห้วนแข็งดังขึ้นทันทีที่กระจกเลื่อนลง
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวอาพายุมารับ" ฟ้าใสเบือนหน้าหนีก่อนจะเอ่ยบอก
"อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าอาเธอจะมา"
"แอบดูเหรอ" ฟ้าใสหันกลับมามองหน้าธันน์ด้วยความแปลกใจที่เขารู้ ถามเขาเสียงแหว
"ขึ้นรถ"
"ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วย"
"ให้กายไปส่งก็ได้นะฟ้าใส" สกายเสนอตัว
"ฉันจะไปสนาม พี่บัวก็อยู่ที่นั่น จะไปไหม" ฟ้าใสหูผึ่งขึ้นมาทันทีที่ธันน์บอกว่าจะไปสนามแข่งรถ
"แล้ววันนี้ไม่รีบกลับหอเหรอ" ฟ้าใสถามอย่างวางท่า
"หอปิดสี่ทุ่ม"
"ก็ได้ ขอบใจสกายมากนะที่จะไปส่ง แต่ฟ้าใสจะไปหาพี่สาวน่ะ"
"โอเค ฟ้าใสไปเถอะ" สกายมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ฝืนยิ้มให้ฟ้าใส
"ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ บาย" ฟ้าใสโบกมือให้สกายก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถ และไม่ลืมที่จะส่งข้อความบอกคนเป็นพ่อเป็นแม่และอาพายุของเธอ
"ไหนบอกไปสนามไง" ฟ้าใสหันหน้ามาถามธันน์ เพราะทางที่เขาพาเธอไปมันคือทางไปโรงพยาบาล
"ฉันจำผิด วันนี้พี่บัวไม่ได้ไปสนาม" ธันน์ตอบหน้าตาเฉย เพราะเขาโกหกเธอตั้งแต่ต้น แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้ววันนี้บัวไปที่สนามแข่งรถของพี่ชายเขาหรือไม่
"ไอ้ธันน์!! ไอ้คนขี้โกหก" ธันน์ไม่สะทกสะท้านกับน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของฟ้าใส เธอไม่เชื่อว่าเขาจะจำผิด เขาโกหกเธอ แต่จะด้วยเหตุผลใดเธอก็ไม่อาจรู้ได้
"ฉันเรียนเภสัช แล้วยาเม็ดแรกที่ฉันจะทำคือยาพิษชนิดพิเศษที่กินปุ๊บตายปั๊บ และนายคือคนที่ฉันจะให้กินเป็นคนแรก" ฟ้าใสเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน พูดจบก็สะบัดหน้าพรืดด้วยความโมโหที่บังอาจมาโกหกเธอได้
"ฉันจะรอ ตอนนี้พี่ธามก็มีพี่บัวแล้ว ฉันจะได้ไปอยู่กับพ่อแม่ฉันเสียที"
"นะ...นายพูดบ้าอะไรของนาย พ่อแม่นายเสียไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
"....."
"นายเป็นโรคซึมเศร้าป่ะเนี่ย"
"นั่นสินะ ไปกินข้าวร้านเมื่อวานกัน เธอจะได้ไม่ต้องกินข้าวคนเดียวไง" ธันน์เองก็ยังไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่าสิ่งที่เขาเป็นคือโรคซึมเศร้าอย่างที่ฟ้าใสว่า หรือเป็นเพียงความอ่อนไหวที่เกิดขึ้นภายในใจเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
"ไปก็ได้ แต่วันนี้ฉันเลี้ยง เมื่อวานนายเลี้ยงฉันไปแล้ว" ธันน์ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเลี้ยวรถมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารตามสั่งริมทางที่เขาไปกินกับเธอเมื่อวาน
"มีลูกอมไหม" ฟ้าใสถามหาลูกอมทันทีที่ขึ้นมาบนรถหลังจากกินข้าวกันเสร็จ ด้วยอาการเผ็ดร้อนจนชาลิ้นเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด
"ที่ให้ไปเมื่อวานล่ะ" เขาจำได้ว่าเธอยังไม่ได้กินและเก็บใส่กระเป๋าไป แต่ก็ยื่นเม็ดใหม่ให้เธอไปด้วย
"เม็ดนั้นมันของเมื่อวาน วันนี้จะเอาเม็ดใหม่ ชอบกินรสองุ่นเหรอ" ฟ้าใสถามพลางแกะลูกอมส่งเข้าปาก
"อืม"
"ไปหาคุณพ่อฉันไหม"
"......" คิ้วหนาขมวดเป็นปมเชิงถาม ทำไมเขาต้องไปหาพ่อของเธอด้วย
"นายรู้ไหมว่าคุณพ่อของฉันเคยอบรมด้านจิตวิทยามาด้วย ถ้านายได้คุยกับคุณพ่อนายจะได้เลิกคิดที่จะไปอยู่กับพ่อแม่นายไง"
"ก่อนมากินข้าวเธอยังบอกว่าจะทำยาพิษมาให้ฉันกิน แต่ตอนนี้มาพูดเหมือนไม่อยากให้ฉันตายอย่างนั้นละ"
"ก็...ก็ฉันกลัวนายจะชิงตายก่อนที่ฉันจะผลิตยาพิษสำเร็จไง"
"ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอก ฉันจะตายด้วยยาพิษของเธอ ผลิตเร็วๆ ละกัน"
"นายต้องรอฉันเรียนปีห้าปีหกนู่น" ฟ้าใสว่า เพราะกว่าเธอจะได้ค้นคว้าตัวยา วิจัยยา และผลิตยาก็คือตอนที่เรียนชั้นปีที่ห้า
"เอาเป็นว่าฉันรอเธอแล้วกัน" จู่ๆ ใบหน้าของเธอก็รู้สึกร้อนผ่าวเมื่อได้เห็นรอยยิ้มละมุนที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเผ็ดร้อนที่ยังคงอยู่หรือเป็นเพราะรอยยิ้มของเขากันแน่