“ผมไม่เคยเลี้ยงหมาป่าตัวเป็น ๆ มาก่อน ดูสิ นี่แค่ห้าเดือนตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ ต่อไปคงจะตัวโตมาก”
“เห็นด้วยอย่างยิ่ง ต่อไปมันคงไม่ขย้ำพวกเราแล้วกลืนลงท้องหรอกนะ” พายุพูดขึ้น เขาเองก็ชอบเล่นกับเจ้ามูมู่ มันซุกซนและฉลาดเกินสุนัขทั่วไป เลยเหมาะกับหนุ่ม ๆ ที่ชอบเล่นซนไม่ต่างกัน
“เพิ่งรู้ว่าภูเขาแถบไร่เรามีหมาป่าด้วย” โยธินเปรยขึ้นอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน
“ผมเองก็เพิ่งรู้ตอนได้เจ้ามูมู่มาเลี้ยงนี่แหละ” อัสนีก็ไม่คาดคิดว่าจะเจอหมาป่าในแถบนี้เหมือนกัน
เจ้ามูมู่ค่อนข้างจะดูแลปกป้องคนในบ้าน ใครที่เป็นคนแปลกหน้า เมื่อเข้าใกล้มิรินมันจะแยกเขี้ยวใส่ นอกจากคนในครอบครัวแล้ว คนแปลกหน้าที่ไหนเข้าใกล้มิรินไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะอัสนีเลี้ยงมันให้ดูแลน้อง รักน้องตั้งแต่เด็กนั่นเอง
ในคราแรกบิดามารดาของอัสนีค่อนข้างกังวลเพราะหน้าตามันเป็นสัตว์ป่า กลัวว่าหากโตขึ้นมันจะดุร้ายกัดเจ้าของบ้านหรือทำร้ายคนอื่น แต่อัสนีคิดว่าเลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้านนั้นเป็นเรื่องดี ปกติในไร่ก็เลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว เลี้ยงเจ้ามูมู่อีกตัว เอาไว้เฝ้าเวรยามก็ไม่เสียหายอะไร เพราะเจ้ามูมู่เป็นมิตรกับสัตว์ทุกตัว มันขี้เล่นแถมยังมีความเป็นผู้นำอีกด้วย
โยธินไปเอาไม้มาเขี่ยตัวมิริน อยากทดสอบความรักเจ้าของของเจ้ามูมู่ เพียงแค่ไม้เขี่ยไปโดนตัวเด็กน้อย เจ้ามูมู่ที่นอนหลับอยู่ก็ตื่นมาแยกเขี้ยวคำราม แต่พอเห็นว่าเป็นใครมันก็หยุด รีบวิ่งมาหาเจ้าของในทันที
“ดุนะแก” โยธินโยกศีรษะของมันไปมา เจ้ามูมู่เป็นสุนัขที่ระวังภัยได้ดี แต่ถ้าไปแหย่ไปทำให้มันเข้าใจผิดมันก็พร้อมกัด แต่พอรู้ว่าเป็นเจ้าของมันก็หยุดในทันทีเหมือนกัน โดยเฉพาะอัสนี มันคิดว่าอัสนีเป็นจ่าฝูง นอกจากมันจะหงอเมื่อโดนอัสนีดุแล้ว มันยังขี้ประจบจ่าฝูงอย่างอัสนีอีกด้วย
อัสนีเลี้ยงให้มันเคารพสมาชิกทุกคนในบ้าน ให้มันมีฐานะต่ำสุดในบ้าน เพราะไม่อย่างนั้นหากวันไหนอัสนีไม่อยู่คนอื่นอาจจะเอาไม่อยู่ เผลอกัดคนในบ้านเอาได้
“อยากโดนหมาฉีกเนื้อหรือไงเฮีย” อัสนีส่ายหน้าไปมา เจ้ามูมู่ประสาทสัมผัสดีมาก แค่รับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลมันก็เตรียมกระโจนเข้าใส่ แถมจมูกของมันยังดีมาก ๆ ของหายหาไม่เจอ ให้มันดมกลิ่นก็หาเจอในเวลาอันรวดเร็ว
สำคัญที่สุดมันอายุยังไม่ถึงปีแต่ตัวโตแตกต่างจากสุนัขทั่วไป เจ้ามูมู่เป็นสุนัขที่สวย ทั้งขนของมัน ท่วงท่าการเดิน มีความสง่างาม รูปร่างหน้าตารวมถึงมารยาทที่ดีของมันก็ทำให้เขาทั้งรักทั้งเอ็นดูมันเสมอไม่เคยเปลี่ยน มันขี้เล่นและต้องการการเอาใจพอสมควร
“แกจะหาเมียให้มันไหมวะเอส” โยธินเอ่ยถาม
เจ้ามูมู่กำลังยกเท้าหน้าทั้งสองขึ้นอย่างออดอ้อนจ่าฝูง อัสนีรับเท้าทั้งสองของมันมาจับเอาไว้ พอนั่งลงมันก็เลียไปตามใบหน้าของเขา
“นั่งให้เรียบร้อยหน่อยเจ้ามูมู่” อัสนีสั่งให้มันนั่ง มันก็นั่งหมอบลงอย่างเรียบร้อย
“รอให้มันโตอีกหน่อย” อัสนีตอบพี่ชาย แต่ใจเขายังไม่ได้คิดอยากให้มันมีเมีย เพราะจะหาเมียให้ทั้งทีต้องหาให้ดี ๆ หน่อย ผสมพันธุ์กันออกมาคงได้ลูกหน้าตาน่ารักเอาไว้เฝ้าบ้านอีกหลายตัว
“ไม่มีเมียเดี๋ยวมันเครียดตาย” โยธินแหย่
“มันอาจจะไม่เครียดแต่กลายเป็นเกย์ก็ได้” โยธินพูดแล้วหัวเราะลงลูกคออย่างอารมณ์ดี
“เฮียนี่พูดอะไรหาสาระไม่ได้เลยจริง ๆ” อัสนีเดินไปอุ้มมิรินที่งัวเงียตื่นขึ้นมาหน้าตาดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย พอเด็กน้อยเห็นว่าใครอุ้มก็ซบเข้าหาอกกว้างในทันที มือโอบกอดรอบคอหนาของพี่ชายที่รักเอาไว้แน่นด้วยท่าทีออดอ้อน
“หนูมินี่ติดแกจริง ๆ เลยว่ะ พาน้องไปอาบน้ำได้แล้ว วันนี้พ่อกับแม่ไปงานเลี้ยงผู้ว่าฯ ในจังหวัด ฝากให้พวกเราเฝ้าบ้านและดูน้อง” งานเลี้ยงอาจจะเลิกดึก พวกผู้ใหญ่จึงไม่พาเด็ก ๆ ไปด้วยเพราะกลัวตื่นสาย ตอนเด็ก ๆ โยธินมีหน้าที่ดูแลน้อง ๆ แต่พอโตขึ้นเขาก็ปล่อยน้อง ๆ ให้ใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีไม่กวดขันเหมือนก่อนเนื่องจากโต ๆ กันแล้ว
“เฮียจะไปไหน”
“ไปหาเพื่อน” โยธินตอบอัสนี ในขณะที่พายุเดินไปเปิดหนังซอมบี้ดู หน้าที่การดูแลมิรินจึงตกเป็นของอัสนีไปโดยปริยาย
“ไปแดกเหล้า” อัสนีพูดลอย ๆ รู้ทันพี่ชาย
“รู้ดีนะไอ้เอส ดูน้องด้วยแล้วกัน” โยธินฝากฝัง
“อือ... ผมไม่ดูแล้วใครดู” อัสนีรับคำ อุ้มน้องไปอาบน้ำ เด็กน้อยเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะได้เล่นกับลูกเป็ดตัวน้อยที่ลอยอยู่ในอ่างอาบน้ำ เขาจัดการฟอกสบู่และสระผมให้เด็กน้อย ก่อนจะห่อด้วยผ้าเช็ดตัวพาออกมาแต่งตัวด้านนอก
“ประแป้งจะได้หอม ๆ” อัสนียิ้มให้น้องน้อยก่อนจะประแป้งให้น้องจนหน้าขาว เลือกชุดนอนน่ารักสวมใส่ให้อย่างเบามือ
มิรินไม่ดื้อกับเฮีย ยกแขนยกขาให้อัสนีใส่เสื้อผ้าให้อย่างน่ารัก ยิ่งทำให้อัสนีเอ็นดูน้องน้อยเป็นอันมาก
“หนูมิอยากหม่ำอะไรครับ” มิรินในวัยสองขวบยิ้มแฉ่ง เด็กน้อยเริ่มคุยกับพี่ ๆ และคนในครอบครัวได้แล้ว