บทที่2.เด็ดปีกนางฟ้า.....

1571 คำ
สาเหตุที่เธอต้องตกเป็นรองชายหนุ่มอยู่ในเวลานี้ เป็นเพราะเธอไม่สมยอมอยู่ใต้อำนาจของเขา มันทำให้ชายหนุ่มเสียหน้า หึ!! ผู้ยิ่งใหญ่คับฟ้ารู้สึกเสียหน้าไม่ได้สินะ ตลก!! เธอต้องกลายเป็นสิ่งพิสูจน์ให้ชาวโลกรู้ ว่าไม่มีสิ่งไหนหนีรอดความต้องการหรือหลุดพ้นอำนาจบงการของเขาได้ หยดน้ำร้อนรินไหลออกมาจากดวงตาเธอรีบกระพริบเปลือกตาถี่ๆ ขับไล่ความอ่อนแอที่ผุดขึ้นมาในหัวใจ หากยังไม่สิ้นท่าจริงๆ ก็จะขอสู้ยิบตา ไม่ยอมให้เขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีง่ายๆ “คุณจะได้ไปแต่ตัวฟ้า หากนั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ” “ฮ่าๆ...” จู่ชายหนุ่มก็หัวเราะร่า เมื่อได้ยินคำตอบแสนเบาจากหญิงสาว มันสั่นพร่าและแผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบของคนที่ใกล้จนแต้ม “นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการพอดี อย่างอื่นหากเธอคิดจะยกให้ เธอเองนั่นและที่จะเป็นฝ่ายเสียใจแองเจิ้ล!! เพราะฉันไม่มีหัวใจให้ใครอยู่แล้วล่ะ เก็บหัวใจของเธอไว้กับตัวดีๆ นะ เพราะวันไหนที่เธอเผลอตัวยกหัวใจของเธอให้ฉัน มันคงทุเรศและไร้ค่า เมื่อฉันไม่เคยปรารถนาอยากได้มันมาครอบครอง” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเย้ยหยัน เขาแค่นเสียงยิ่งผยองตอกกลับ นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบทองวาววับ เมื่อถึงเวลาลิ้มรสชาติเหยื่อสวาทที่แสนหวาน แคว๊ก... เสียงขาดวิ่นของตัวเสื้อ เมื่อมันถูกมือใหญ่กระชากสุดแรงเกิด จนผ้ายืดขาดแหล่งติดมือของเคฮิลล์ไป เขาโยนเศษซากความเสียหายทิ้งไปอย่างไม่แยแส มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มสมใจเมื่อมองเห็นความนวลผ่องของผิวเนื้อยามเมื่อสิ่งกั้นขวางหลุดหายไป “เธอสวยเหมือนางฟ้าที่อยู่บนสวรวงสวรรค์” ชายหนุ่มครางเสียงแผ่วแล้วจึงเอ่ยชมโฉมแม่เนื้อนุ่มหลังมองเห็นเต็มสองตา แต่เนตรอัปสรกลับรู้สึกเหมือนกำลังตกนรกขุมลึกสุด เธอกำลังสำลักน้ำใกล้ตายเมื่อความน่ากลัวสาดใส่แบบไม่ทันให้เตรียมใจตั้งรับ “กรี้ด!!!” ม่านความมืดคลี่ปกคลุม เธอรับรู้แค่นั้นเอง หลังส่งเสียงกรีดร้องออกไป รอบตัวนิ่งสงบเธอจมหายไปในม่านหมอกของความมืด... กูจะบ้า!! เคฮิลล์พ่นลมหายใจแรงๆ ชายหนุ่มหยุดชะงักเมื่อจู่นางฟ้าในอ้อมกอดตัวอ่อนยวบและไม่ขัดขืนเหมือนเคย “เบนส์!! ด่วน ใครตามหมอให้หน่อยสิ” ชายหนุ่มตะโกนสุดเสียง เขายกมือขึ้นอังปลายจมูกของคนในอ้อมกอด ลมหายใจแผ่วหวิวเหมือนจะปลิดปลิว เคฮิลล์ใจหายวูบ หัวใจเหมือนจะหลุดลอยตามเจ้าหล่อนไป ชายหนุ่มส่งเสียงเรียกลูกน้องคู่ใจ เขาสั่งการเสียงดังและคอยเฝ้าดูไม่ห่างสายตา จนคุณหมอที่มาตรวจอาการเกิดความกลัว มือสั่นๆ ไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวคนป่วยเพราะสายตาเขียวปัดของชายหนุ่มส่งให้ทุกครั้งที่เผลอตัวแตะต้องของรักของหวงของเจ้าของบ้าน “เธอเป็นอะไร?” “เป็นลมแค่นั้นครับ คงตกใจ” สภาพรอบตัวบ่งบอกถึงสาเหตุการป่วยไข้ของคนป่วยได้ หมอนใบใหญ่หล่นเกลื่อน มันไม่ได้อยู่บนเตียงเหมือนเดิม ผ้าห่มหลุดรุ่ยร่ายตกเกลื่อนกระจายเหมือนพายุลูกใหญ่ๆ พัดผ่าน เศษซากความเสียหายมีให้เห็นหลายจุด อีกทั้งคนป่วยยังอยู่ในสภาพผิดปรกติ เธอใส่กางเกงผ้ายืดแต่กลับสวมสูทอาร์มานี่ด้านบน ถูกห่อห่มด้วยผ้านวมผืนโตเหมือนดักแด้มากกว่าคนธรรมดา “เบนส์ส่งหมอกลับด้วย ฉันจะดูแลแองเจิ้ลเอง” เคฮิลล์สั่งเสียงเครียด ชายหนุ่มยกแก้วบรั่นดีขึ้นกระดก เขาสะบัดมือไล่เมื่อหมดธุระกับนายแพทย์ที่ยืนทำตาลอกแลก เหมือนอยากจะถามแต่เกรงกลัวเขามากกว่า “ครับบอส” “เอ่อ...ผมว่าควรเอาผ้าห่มออกดีกว่านะครับ เธอคงอึดอัดหายใจไม่ออก” “อืม...รู้แล้วเดี๋ยวทำเอง กลับไปเถอะ” นายแพทย์หนุ่มคอหดเมื่อเสียงตอบกลับสะบัดและขุ่นขวาง เขารีบฉวยหยิบกระเป๋าเครื่องมือแล้วเดินตามผู้นำทางไปแบบเร่งรีบ เบนส์เลิกคิ้ว เขาทำหน้าไม่เข้าใจกับปฏิกิริยาของเจ้านายหนุ่ม การ์ดฝีมือดีคิดไม่ตกเพราะสิ่งที่เห็นมันเกินกว่าที่คาดเดาได้ อาการของเจ้านายเหมือนหมาบ้า ที่ตาขวางเขียวปัดไม่พอใจสิ่งรอบด้าน แต่ว่า...เคฮิลล์เป็นสิงโตเจ้าป่า เขาไม่เคยแสดงความคิดในใจออกมาให้ใครเห็น ภายใต้หน้านิ่งๆ ไม่มีใครล่วงรู้ หากเขาไม่พอใจสิ่งที่รู้คือแววตาเย็นชาเท่านั้น เบนส์อยู่กับเคฮิลล์มาสิบปี นับตั้งแต่จบออกมาจากโรงเรียนฝึกฝีมือ เขาเป็นบอดีการ์ดที่ฝีมือหาตัวจับยาก แต่เขายอมอยู่ใต้อาณัติมหาอำนาจอย่างเจ้านายเท่านั้น เพราะการที่จะเติบใหญ่ต้องเรียนรู้จากคนที่เก่งกล้า เคฮิลล์คือชายที่เขาเลือกเพราะในความเก่งแล้ว เจ้านายยังเหี้ยมได้ใจ เบนส์ได้กลิ่นอันตราย อันตรายจากอิสตรี ผู้หญิงที่จะนำความเดือดร้อนมาให้ เมื่อเธอคือความเย้ายวนที่น่ากลัว... เปลวเทียนสะบัดปลิวแม้จะถูกครอบด้วยโถแก้วเนื้อละเอียด ม่านหน้าต่างถูกรูดเปิด ชายหนุ่มเปิดช่องให้อากาศภายในห้องถ่ายเทได้สะดวกเพราะคนตัวเล็กจะได้รู้สึกดีขึ้น แสงจันทร์ทอแสงเป็นทางยาว แสงของจันทร์เจ้านวลลออเย็นตา กลิ่นดอกไม้ กลิ่นไอเย็นๆ ของมวลอากาศลอยมะปะทะแผงอกเปล่าเปลือย ก็เขาสละเสื้อสูทยี่ห้อดังให้สาวเจ้าสวมไว้นี่ เป็นการอุทิศที่ป้องกันผลประโยชน์ เพราะเสื้อของเนตรอัปสรถูกเขาทำลายทิ้งจนไม่มีชิ้นดี แล้วเขาจะให้ไอ้หมอเวรนั่นเห็นของหวงเขาได้อย่างไร เขายังไม่ลิ้มลองยังไม่ได้แตะต้องเลยสักกะนิดเดียว ใบหน้าคมคายยับยุ่ง ยัยบ้านี่เอะอะนิดเดียวเป็นลมไปเสียฉิบ!! เขาเลยยังไม่ได้ลิ้มรสหอมหวานนั่นเลย แถมนอนหลับสบายใจเฉิบ ปล่อยให้เขาทรมานอยู่อย่างเดียวดาย อืม...แล้วจะมายืนชมจันทร์ มองความมืดทำห่าอะไร? กันล่ะ สู้ขึ้นไปนอนบนเตียงมีคนตัวอวบๆ อยู่ในอ้อมแขนคงดีกว่ามายืนเปล่าเปลี่ยวหนาวสะท้านเพราะสายลม เคฮิลล์ พยักใบหน้าหงึกหงัก กับความคิดอันแสนบันเจิดของตัวเอง ร่างสูงใหญ่จ้ำพรวดกลับเข้าไปในห้องนอน เขาปรบมือสามครั้งไฟฟ้าทั้งห้องก็มืดมิดลง เหลือแค่แสงของเปลวเทียนเท่านั้นที่ยังคงสว่างอยู่ แต่มันทำให้ภายในห้องนอนดูมีมิติ แสงและเงาซ้อนทับกันดูอลังการ ชายหนุ่มคลานเข่าขึ้นไปบนเตียงนอน เขาลงทุนถอดเสื้อสูทที่สวมให้เนตรอัปสรด้วยมือตัวเองอย่างทุลักทุเล เขาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ๆ มือไม้เริ่มสั่นเทาจนตัวเองรู้ เพราะเพียงแค่มองเห็นทรวงอกครัดเคร่งใต้กรวยผ้าสีเนื้อเขาก็รู้สึกแปลกๆ “มึงจะอะไรนัก นมใหญ่กว่านี้ก็เคยเห็นทำเป็นสะดิ้ง!!” ชายหนุ่มก่นว่าตัวเอง เขาตัดใจตลบผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเปล่าเปลือยแล้วจึงทอดกายลงนอนเคียงข้าง โดยนอนทับผ้าห่มไว้เพื่อป้องกันตัวเองปล้ำคนนอนหลับไม่มีสติ เมื่ออารมณ์ภายในของเขาใกล้จะขาดผึ่งเต็มที ใบหน้าคมคายซุกพวงผมสีดำเหมือนนิล เขาสูดกลิ่นหอมๆ เข้าปอดแล้วจึงพยายาม...พยายามสุดฤทธิ์ที่จะปิดเปลือกตาให้หลุบลง ทั้งๆ ที่ความต้องการภายในกำลังเดือดพล่าน... ค่อนคืนเชียวแหละกว่าที่ชายหนุ่มจะปิดตาหลับลงได้ เขาตระกองกอดร่างอวบอุ่นไว้ในอ้อมแขน และสายลมที่พัดขึ้นมาจากแม่น้ำทวีความเย็นเฉียบเพิ่มขึ้น ร่างสองร่างจึงขยับเข้าหาไออุ่นของกันและกันแบบอัตโนมัติ ไออุ่นที่แผ่ออกมาจากอกแน่นๆ ทำให้คนที่ได้รับอมยิ้มด้วยความพึงพอใจ เธอแนบใบหน้ากับแผงอกกำยำยอมรับความอุ่นร้อนด้วยความยินดี มือใหญ่เคลื่อนที่ตามหัวใจสั่งการ มันวางแหมะแนบอกอวบอัดลูบๆ คลำๆ ด้วยความพึงพอใจทั้งๆ ที่ดวงตายังปิดสนิท เสียงครางงพึมพำพอใจสุดขีดเพราะเต้าทรงครัดเคร่งพอดีมือ แถมเนียนนุ่มแสนถูกใจ ผ้าห่มผืนใหญ่ดูจะเป็นสิ่งเกะกะชายหนุ่มดึงทึ้งจนหลุดหายไปจากร่างกายอวบอัดจนได้ ร่างกายเบียดส่ายเสียดสี เพิ่มความอบอุ่นต่อต้านความหนาวเหน็บที่ทวีเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิลดตัวลงตามเวลา โนมเนื้อนุ่มหยุ่นเด้งดึ๋งดังใต้ฝ่ามือช่างแสนถูกใจ เคฮิลล์นึกว่าตัวเองฝันไปเพราะกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ไม่เหมือนที่เคยได้กลิ่นมาก่อน “นางฟ้า!!” ชายหนุ่มกระทดตัวลงเขาพรมจุมพิตผิวเนื้อนุ่มเนียน กดจูบมอบรอยสีแดงจัดทิ้งไว้เป็นตราสัญญาลักษณ์ที่เขาจงใจมอบให้ ริมฝีปากร้อนๆ แนบยอดอกสีสุกปลั่ง เขาอ้าอมและเริ่มดูดดื่มทั้งๆ ที่สองตายังคงไม่ลืมขึ้นมองเหมือนเคย ปลายลิ้นสากระคายตวัดกวาดต้อนความหอมหวาน เขาดูดดึงความหวานละไมอย่างพอใจสุดแสน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม