ภูริชหันมามองหน้าน้องสาว เมื่อจู่ๆ น้ำเสียงก็ขาดหายไป และพอเห็นใบหน้างามซีดราวกับกระดาษขาว ก็เดาออกทันทีว่าจิลลาภัทรกำลังคิดอะไรอยู่ “จันทร์เจ้า ใจเย็นๆ มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่น้องคิดก็ได้” เอ่ยปลอบน้องสาวแล้ว ภูริชก็ตบบนพนักรถด้านคนขับ ก่อนจะเอ่ยถามองครักษ์บ้าง “คุณองครักษ์ พาพวกเรามาที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ทำไม” “ผมก็ไม่สามารถตอบคำถามของพวกคุณได้ครับ เพราะผมได้รับคำสั่งว่าให้ปิดปากให้เงียบที่สุด” องค์รักษ์หนุ่มเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ จนคนเอ่ยถามถึงกับฉุนกึก “ตอบได้น่าเหยียบจริงๆ” ภูริชเค้นเสียงลอดไรฟัน โมโหจนร่ำๆ อยากจะทำตาม ที่ได้หลุดปากออกไป “พี่ตะวันคะ มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับท่านชีคหรือเปล่าคะ” จิลลาภัทรเอ่ยถามเสียงสั่น มือเล็กเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง หวาดกลัวจับใจว่าตนเองจะพบกับข่าวร้าย เมื่อเดินทางไปถึงวิหารศักดิ์สิทธิ์แล้ว “อย่าเพิ่งคิดในแง่ร้ายนะจันทร์เจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างอาจ