บทที่ 8 จูบแรก
เช้าต่อมา
คูเปอร์ลืมตาขึ้นมาด้วยอาการที่รู้สึกหนักอึ้งบนร่างกาย เขาเกือบฝันว่าถูกผีอำซะแล้ว หากไม่เห็นว่าคนที่กำลังนอนทับร่างของเขาอยู่คือ เบลล์
“ฟู่ว” เขาถอนหายใจ แล้วคลึงศีรษะเล็กน้อย เพื่อขับไล่อาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณช่วงล่าง หากว่าเธอไม่ออกไปตอนนี้ มีหวังทุกอย่างได้เกินเลยแน่ อีกอย่างเขาเป็นผู้ชายมีผู้หญิงนอนทับร่างอยู่มันยากที่จะทนไหว
“เบลล์…ออกไปก่อนได้ไหม ไปนอนเตียงดี ๆ”
“อื้อ…” เธองัวเงีย ส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ และไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ยังคงแนบใบหน้าซุกอกแกร่งเอาไว้เหมือนเดิม
ฟึบ! คูเปอร์ไม่รอช้า อุ้มร่างของคนตัวเล็กตรงดิ่งไปยังเตียงขนาดคิงไซส์ทันที ต้องสั่งสอนเธอหน่อย ว่าผู้ชายอันตรายแค่ไหน…
ตุบ!
-[]- ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา เมื่อรับรู้ได้ว่าแผ่นหลังบางได้กระแทกลงมาบนเตียงขนาดคิงไซส์ ส่วนด้านบนมีคูเปอร์ทับร่างของฉันไว้อยู่ จำได้ว่าเมื่อคืนแอบไปนอนกับเขาที่โซฟา ทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ที่เตียงได้…
ฉันได้แต่ครุ่นคิด พลันสายตาของฉันดันไปโฟกัสร่างกายท่อนล่างของเขา ตอนนี้มันกำลังพองโตอย่างเต็มที่ อืม….มันโตมากกว่าเมื่อก่อนมาก ๆ และส่วนนั้นมันอยู่บริเวณน้องสาวของฉันพอดี
“มองอะไร…” เขาถามฉันเสียงต่ำ
“เอ่อ…เปล่า คือ…” ฉันตอบไม่ได้ค่ะ รีบละสายตามามองด้านบนแทน แต่บังเอิญไปสบตากับเขาเสียได้
ตึก ตึก! เสียงหัวใจของฉันมันเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ามันจะทะลักออกมาข้างนอก ….บอกได้เลยว่าตอนนี้เริ่มประหม่ากับสายตาอันดุดันของคูเปอร์
“ผมบอกแล้วใช่ไหม ว่าให้นอนแยกกัน ทำไมคุณไม่ฟัง”
“ฉัน…ฉันอยากนอนกับคูเปอร์ และฉันคิดว่าคูเปอร์ไม่ทำอะไรฉันหรอกเนอะ…” ฉันยิ้มแหย ๆ จากนั้นใช้มือตั้งท่าจะลุกออกไป
พรึบ!
จู่ ๆ คูเปอร์ก็ใช้มือหนึ่งข้าง ยกมารวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างของฉันเอาไว้เหนือหัว แล้วพูดว่า
“คุณไม่รู้ซะแล้ว ว่าการนอนกับผู้ชายมันอันตรายแค่ไหน….ถ้าอย่างนั้นผมจะเตือนเธอสักหน่อย”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง จากนั้นโน้มริมฝีปากเข้ามาประกบริมฝีปากของฉันอย่างรวดเร็ว จนตั้งตัวไม่ทัน
“อุ๊บ!..”
ริมฝีปากอันนุ่มนิ่มของเขา จากที่อ่อนโยนค่อย ๆ ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ ลิ้นอันชุ่มชื้นค่อย ๆ สอดแทรกเข้ามาในโพลงปากของฉัน ทำเอาสติค่อย ๆ เลือนรางไป มือหนาของเขาหนึ่งข้างรวบข้อมือของฉันไว้ด้านบน ส่วนมืออีกข้างของเขาที่ยันพื้นไว้ ก็เคลื่อนมือสอดใต้เสื้อผ้าเข้ามากุมหน้าอกของฉันเอาไว้
“อื้อ!”
แบบนี้มันจะมากเกินไปแล้ว…ฉันพยายามออกแรงดิ้นแต่ก็ไร้ผล ทั้งตัวของฉันถูกล็อกไว้โดยเขา ไม่สามารถหลบหนีได้โดยสิ้นเชิง
ฉันได้แต่หลับตาปี๋ ให้เขาทำต่อไป ความรู้สึกแปลก ๆ ได้แล่นเข้ามาในหัวซึ่งฉันเองก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร รู้เพียงแต่ว่า ฉันต้องการเขา…..
คูเปอร์จูบฉันเนิ่นนาน จนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ตอนนี้ร่างกายของฉันอ่อนปวกเปียก และปล่อยมันไปตามอารมณ์ ใครจะว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย…ฉันยอม….
ในช่วงเวลาหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็ถอนริมฝีปากออก พร้อมกับพูดว่า
“ถ้าหากว่าวันนี้คนที่อยู่ในห้องไม่ใช่ผม คงจะทำมากกว่านี้ไปแล้ว ที่ผมทำเพื่อเตือนเธอเอาไว้ ขึ้นชื่อว่าผู้ชายอย่าไว้ใจ แม้แต่ผมก็ตาม…”
สิ้นคำพูดของคูเปอร์ เขาก็ผละออกจากฉัน จากนั้นหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนฉันได้แต่เหวอค่ะ อีกอย่างรู้สึกเสียดาย จนยกมือมาสัมผัสริมฝีปากของตัวเองอย่างลืมตัว สัมผัสจากเขาเมื่อครู่มันทำให้ฉันรู้สึกดีแปลก ๆ แต่มันก็อายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี
“คนบ้า!!!” ฉับแอบบ่นตามหลังของเขาไป ก่อนจะซุกใบหน้าแนบหมอนใบใหญ่ แล้วดิ้นไปมาอย่างเขินอาย
ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
ในช่วงเช้าของการมาหาวิทยาลัย ยังไม่ได้มีการเรียนการสอน
ใด ๆ นอกจากมีรุ่นพี่ได้มาแนะนำตัว และได้แจ้งเรื่องการรับน้องนอกสถานที่ ปีนี้จะพิเศษหน่อยเพราะจะเดินทางไปยังต่างจังหวัด ซึ่งพื้นที่นั้นกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อากาศค่อนข้างเย็น อีกสองวันจะออกเดินทาง คือจะมาแจ้งให้เตรียมตัวล่วงหน้าก็ว่าได้
เรื่องรับน้องไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับฉัน เรื่องกิจกรรมที่รุ่นพี่ได้เตรียมไว้ให้ ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่ฉันสนใจมากที่สุดคือคูเปอร์เท่านั้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ออกไปค้างคืนข้างนอกกับเขาเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี
ขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิด ก็แอบลอบมองคูเปอร์ที่นั่งอยู่แถวด้านขวามือ ห่างประมาณสามแถว มองไปมองมากลับไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าเสียได้ ริมฝีปากที่นุ่ม ๆ นั่น ยังตรึงใจไม่หาย
ฉันแอบมองเขาเนิ่นนาน จนคูเปอร์รู้สึกตัว หันขวับมาทางฉัน อีกทั้งหรี่ตามองอย่างข้องใจ ในขณะเดียวกันฉันก็รีบหลบสายตาของเขา แล้วให้ความสนใจกับรุ่นพี่ต่อ ตอนบ่ายต้องไปซื้อของใช้ด้วยกันอีก เหตุการณ์เมื่อเช้าคูเปอร์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา ต่างจากฉัน มันรู้สึกประหม่า หวั่นไหวในใจแปลก ๆ แต่ต้องทำตัวให้เป็นปกติ เพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ของเรา
“เอาล่ะค่ะ น้อง ๆ วันนี้พวกพี่ขอแจ้งทุกอย่างเท่านี้นะคะ แยกย้ายกันไปพักผ่อน ตามอัธยาศัย อีกสองวันเจอกันค่ะ”
“ค่า/ครับ” เสียงนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งพูดประสานเสียง พร้อมกับลุกขึ้นแยกย้ายกันออกไป บ้างก็จับกลุ่มกันเพื่อออกไปเที่ยวหรือไม่ก็ทานข้าว
ดวงตาคู่สวยของฉัน จะมองหาใครไม่ได้นอกจากคูเปอร์ ทว่ากวาดสายตามองไปทางไหน กลับไม่เห็นแม้แต่เงา เขาเป็นผีหรือไงหายตัวไวขนาดนี้
เพียวชั่วพริบตา นายแต่กลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของฉัน แล้วทักว่า
“ไง ไปทานข้าวกันไหม ทานอะไรมาหรือยัง”
“ฉันกินม่กินแล้วเกี่ยวอะไรด้วย” ฉันตอบกวนประสา พลางเบะปาก กรอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย
“โห ตัดเยื่อใยกันจังแฮะ ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อคืนคือผมที่ไปส่งคุณที่คอนโดนั่น”
“แค่นี้ทำมาเป็นทวงบุญคุณ ก็แม่นายไม่ใช่หรือไงที่ลงโทษฉัน แล้วไล่ออกจากหอน่ะ”
“เอาน่า ถ้ายังโกรธแม่ผมอยู่ แล้วพาลโกรธผมไปด้วย ผมขอโทษแทนแม่ผมด้วย แต่จริง ๆ ผมชวนคุณไปทานข้าวนั่นมันความรู้สึกส่วนตัวของผมนะ ผมแค่อยากรู้จักคุณ…”
“โทษนะ แต่ตอนบ่ายฉันมีนัดแล้ว”
“โห…โอเค ๆ ถ้างั้นขอช่องทางการติดต่อหน่อยได้ไหม เผื่อจะชวนไปเที่ยว” นายเตพูดแล้วทำหน้าเหมือนลูกหมาอยากกินนม
นายเตยังไม่ลดละ….อืม.. แต่ท่าทางนายนี่ดูไม่ได้เป็นคนไม่ดี หากมีเขาเอาไว้ บางทีอาจจะใช้งานได้ หึ ๆ…
“ก็ได้ ๆ เห็นแก่ที่นาย่วยฉันไว้เมื่อคืนนะ เอาโทรศัพท์มาสิ”
สิ้นคำพูดของฉัน เตก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วยื่นให้ฉัน จากนั้นกดเข้าแอพสีเขียว กรอกไอดีติดต่อเข้าไป เท่านี้ก็เรียบร้อย
“อ่ะ ไว้เจอกันนะ ลูกหมา” ฉันพูดด้วยรอยยิ้มพลางใช้มือยีหัวเขาเบา ๆ แล้วหัวเราะคิกคักออกมา สีหน้าอ้อนของเขาเหมือนลูกหมาจริง ๆแหละ
“นี่เธอ…ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ ให้เกียรติกันด้วยครับ” นายนั่น
ทำหน้าถมึงทึงกลับ แต่ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด
“แบร่!!” ด้วยความหมั่นเขี้ยว ฉันจึงแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา จากนั้นหมุนตัว เดินออกไป ตามหาคูเปอร์ต่อ
เดินมาเพียงไม่กี่ก้าว พอเงยหน้าขึ้น พบว่าคูเปอร์ยืนทำหน้านิ่งรออยู่หน้าตึก ไม่รอช้า เบลนิต้าคนนี้ รีบวิ่งสี่คูณร้อยไปหาผู้ชายที่รักทันที
“คูเปอร์!!!” ฉันฉีกยิ้มกว้างส่งให้เขา พร้อมกับโบกมือหยอย ๆรีบวิ่งไปหาเขา
เมื่อฉันปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของคูเปอร์ คำถามแรกที่เขาถามฉันมันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด
“ผู้ชายคนนั้นใคร!”
“เพื่อนน่ะ” ฉันตอบไปอย่างไม่ทันได้คิด นี่ฉันเห็นนายนั่นเป็นเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน และสิ่งที่คูเปอร์ถามเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขากำลังหวงฉันอยู่ ทางด้านคูเปอร์ไม่พูดอะไรสักคำ….-_- กำลังซ้อมเป็นใบ้อยู่หรือไง เอแต่ปั้นหน้านิ่งอยู่ได้
“นี่ ๆ ถามแบบนี้แสดงว่าหึง ฉันใช่ไหม ในใจเนี่ย หวั่นไหวบ้างหรือเปล่า” ฉันพูดพร้อมกับเอานิ้วชี้ไปจิ้ม ๆ ตำแหน่งหัวใจของเขาเบา ๆ เพื่อล้อเลียน
“หึ” เขาส่งเสียงในลำคอ แล้วยักไหล่ โนสนโนแคร์ จากนั้นเดินนำหน้าฉันไป
“วันนี้เขาเป็นเมนส์หรือไงนะ ดูไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ จากนั้นเดินตามหลังของคูเปอร์ไป
ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
“จะซื้ออะไรบ้างล่ะ”
“อืม….ยังไม่ได้คิดเลยอ่ะ ก็พวกของใช้ที่จำเป็นล่ะมั้ง” ฉันยิ้มแหย ๆ ยังไม่ได้พูดความจริงออกไปว่าพวกเสื้อผ้าทั้งหมด อยู่ที่ห้องพี่โยฮันแล้ว
“อืม…” คูเปอร์เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เพราะเขาเอามือจับที่คางไว้ คิดหนักเลยแฮะ…“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มจากตรงนี้ก็แล้วกัน”
เขาไม่พูดเปล่ากลับคว้าข้อมมือของฉันตรงดิ่งไปยังร้ายขายชุดชั้นในของสตรีอย่างไม่อาย เมื่อไปถึงเขาก็เดินไปยังบริเวณราวแขวนชุดชั้นในขนาดคัพดี จากนั้นหยิบมันออกมาให้ฉัน แล้วพูดว่า
“ผมว่าของเบลล์เท่านี้นะ เลือกสีสิ จะได้รีบกลับ”
“นะ..นายรู้จักขนาดของฉันด้วยเหรอ” ฉันละล่ำละลักถาม เขาทำเหมือนกับว่าการเลือกชุดชั้นในให้ผู้หญิงมันคือเรื่องปกติ ในขณะเดียวกันพนักงานในร้านมองมาทางนี้เป็นตาเดียว ก็คูเปอร์ถือชุดชั้นในแล้วเอามาทาบที่หน้าอกฉันน่ะสิ
“จะไม่รู้ได้ยังไง ก็ผมวัดแล้วเมื่อเช้า”
“….!!!” ฉันอยากจะกรี๊ด ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกใช่ไหมคะ ว่าฉันน่ะหน้าแดงแค่ไหน คูเปอร์ชายผู้ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ทำไมเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะมาก
“ว่าไง จะเอาสีอะไร หรือให้ผมเลือกให้”
“อะ…เอาอันนี้แหละ แล้วก็อันนี้ เอาหมดเลย” ฉันคว้าชุดชั้นในที่แขวนอยู่ในราวมาทั้งหมดจากนั้น คว้าแขนของคูเปอร์เพื่อไปจ่ายเงิน
ตั้งแต่เรื่องเมื่อเช้า จนถึงตอนนี้ฉันต้องเริ่มคิดใหม่แล้ว ว่าคูเปอร์เขากลายเป็นคนแบบไหนกันแน่ และอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เขาคือคูเปอร์ที่ฉันรู้จักในตอนเด็กแน่หรือ ตอนนี้เริ่มจะสับสนแล้วแฮะ….จากเด็กหนุ่มผู้ใสซื่อ กลายเป็นเสือพร้อมขย้ำ…