“เอาทรัพย์สินมีค่าของพวกมันออกมาให้หมด”
หัวหน้าโจรตะโกนบอกเป็นภาษาท้องถิ่น มุกระวีใจสั่นยกมือไหว้พนมขอร้องต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เธอมีชีวิตรอดกลับไปด้วยเถิด
“นี่คุณขับรถพาเรามาตายแท้ๆ ฉันไม่น่าซวยเลือกทัวร์ของคุณเลย” มุกระวีหวาดกลัวจนต่อว่าคนขับรถ พลางขดตัวให้เล็กลง เธอเห็นโจรไปค้นทรัพย์สินลูกทัวร์คนอื่นก็ยิ่งหวาดกลัว เดี๋ยวอีกสักพักต้องมาถึงตัวเธอแน่
“ผมขอโทษด้วย แต่ปกติพื้นที่ตรงนี้ไม่มีโจรทะเลทราย พวกมันถูกกวาดล้างไปนานแล้ว ไม่อย่างนั้นทางการไม่ให้เราพานักท่องเที่ยวมาทัวร์หรอกคุณ” คนขับยังมีแก่ใจอธิบาย ทั้งที่หวาดกลัวโจรเช่นกัน
“สรุปว่าฉันซวยเอง” มุกระวีอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก เธอเห็นลูกทัวร์ที่มาด้วยกันตรงนั้นถูกโจรค้นเอากระเป๋าสตางค์ออกไปจนหมด จนกระทั่งมันเหลือบมาเห็นเธอเข้า
“ตรงนั้นยังมีอีกคน”
มุกระวีเบิกตาโต พวกมันกรูกันเข้ามาหาเธอ ไม่ทันที่จะวิ่งหนีก็ถูกพวกมันสามคนล้อมไว้ “นี่กระเป๋าสตางค์ของฉัน เอาไปเลย แต่อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” มุกระวีโยนกระเป๋าสตางค์ไปให้แม้จะเสียดายเงินที่รวมๆ กันแล้วเกือบหมื่นหนึ่งแต่ตอนนี้ต้องเอาชีวิตรอดก่อน
“ฮ่าๆ ฉันไม่ได้อยากได้แค่เงินแล้ว แต่อยากได้ตัวของน้องสาวคนสวยไปด้วย” โจรคนหนึ่งที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น มันพูดเป็นภาษาท้องถิ่นที่มุกระวีฟังไม่ออก แต่เห็นแค่แววตาหิวกระหายกับท่าทางเอาลิ้นเลียริมฝีปากก็พอจะเดาได้ว่ามันต้องการอะไรจากเธอ
มุกระวีหวาดกลัวสุดขีด หมุนตัวออกวิ่งไปทางด้านหลังที่ไม่มีโจรดักทางไว้ แต่วิ่งไปได้ไม่เท่าไรก็ถูกมือสากระคายกระชากแขนให้หมุนตัวกลับมา
กรี๊ด
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” มุกระวีดิ้นรน มือไม้ตบตีไปตามตัวโจร จนมันเขม็งมอง เพราะมือเล็กๆ ฟาดใส่ใบหน้าเข้าเต็มรัก
มันฟังภาษาของเธอไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ “หยุดดิ้นได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องเสียเวลามาก ถ้ายอมเป็นเมียฉันดีๆ แล้วเธอจะมีชีวิตต่อไป” เสียงโจรบอกแล้วอุ้มร่างสาวสวยที่นานๆ จะตกถึงท้องขึ้นพาดบ่า ตั้งใจว่าจะหาความสุขสักประเดี๋ยว
“หัวหน้าครับ ผมว่าเราต้องรีบหนีแล้วนะครับ มันจะเสียเวลา” ลูกน้องคนหนึ่งปราดเข้ามาบอกหัวหน้าโจร แต่กลับถูกถีบจนล้มคว่ำ
“กูจะมีความสุขกับอีนังคนสวย อย่ามาขวางทาง มึงไปเฝ้าต้นทางไว้”
หัวหน้าโจรที่อดอยากปากแห้งมานานบอกลูกน้อง ก่อนจะหันมาสนใจสาวสวยที่อุ้มพาดบ่าไว้ “อีกเดี๋ยวฉันจะทำให้น้องสาวคนสวยไปทัวร์สวรรค์เองนะจ๊ะ” มันบอกเสียงหื่นกระหายแล้วโยนร่างของมุกระวีเข้าไปในรถ
มุกระวีกระถดตัวหนีด้วยความกลัว มองสายตาที่เต็มไปด้วยความกลัดมันของมันอย่างรังเกียจ “ปล่อยฉันไปเถอะนะ อย่าทำอะไรฉันเลย”
ฉากนี้เธอเคยเห็นบ่อยในฉากละคร แต่เอาจริงๆ พอเกิดขึ้นในสถานการณ์จริงมันไม่สนุกเลย เพราะในละครพระเอกจะต้องโผล่เข้ามาในฉากนี้ แต่นี่ชีวิตจริงเธอจะถูกจับขึงพรืดกลางทะเลทรายอันร้อนระอุอย่างนี้เหรอ สวรรค์โหดร้ายกับสาวโสดอย่างเธอมากเกินไปแล้ว
“อย่าพูดมาก นอนลงไป” โจรร้ายสั่งเสียงเหี้ยม มันรู้ว่าต้องรีบหนีตำรวจที่จะตามมาอีกในไม่ช้า แต่ผู้หญิงคนนี้ก็สวยและหน้าอกใหญ่จนทำให้นึกอยากฟัดให้หนำใจเสียก่อนแล้วค่อยไป
หัวหน้าโจรตามไปคร่อมร่างมุกระวี แต่ถูกถีบออกมาจนล้มลง “แรงเยอะนักนะคนสวย”
ท่าทางกักขฬะของมันทำให้เธอนึกรังเกียจแล้วออกแรงดิ้น ผลักมันอย่างสุดแรง แต่ร่างกายของมันทั้งใหญ่และเหม็น เธอจึงเลือกถีบหน้ามัน
“โอ๊ย” เสียงเจ็บปวดร้องลั่น มันฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าสวยของมุกระวีจนหน้าหัน “นังตัวแสบ”
“รังแกผู้หญิง ไอ้ชั่ว” มุกระวีด่ากราดแต่โจรร้ายไม่ฟังเสียง มันถอดผ้าคลุมหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าเหี้ยมเกรียม มีหนวดเครารกครึ้ม มองดูน่ากลัว
“ปากเก่งใช่ไหม ฉันจะทำให้คนสวยหยุดพูดแล้วเอาแต่ร้องครางไม่หยุด”
“อย่านะ อย่าเข้ามา ปล่อยฉันไปเถอะ” มุกระวีพยายามกระถดตัวหนี แต่มือสากระคายไร้ความปรานีของโจรร้ายก็กระชากเธอเข้าไปหาแล้วกระตุกเสื้อผ้าเธอจนขาดวิ่น
กรี๊ด
“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันเป็นกะเทยไม่ใช่ผู้หญิง”
มันชะงักไปครู่หนึ่ง เป็นจังหวะให้มุกระวีหายใจได้คล่องขึ้น
‘หรือมุกนี้จะได้ผล’
จากนั้นมันก็ไหวไหล่ “พูดอะไรฉันฟังไม่รู้เรื่อง เธอต้องการให้พวกฉันมาสนุกกับเธอพร้อมๆ กันเลยเหรอ”
มุกระวีตกใจเมื่อท่าทีที่ชะงักไปไม่ได้ทำให้มันหยุด แต่โจรร้ายกำลังรุกคืบมา “แต่ขอฉันฟาดเธอให้อิ่มก่อนคนสวย จากนั้นเธอถึงจะได้ผัวคนต่อไป”
เสียงทุบรถดังปังติดๆ กันทำให้โจรร้ายที่กำลังกลัดมันหันไปมอง
“หัวหน้า ตำรวจมาแล้ว เราต้องรีบหนีแล้ว”
พอได้ยินคำว่าตำรวจ หัวหน้าโจรก็เบิกตากว้าง แล้วสบถหยาบคายยาวเหยียด “มาถึงแล้วหรือวะ เร็วฉิบหาย” มันเพิ่งปล้นมรกตมาจากโรงแรมหรู แล้วเพิ่งรู้ว่ามันเป็นของท่านชีคฟาริส อัล มีดิส แต่จะทำยังไงได้ มันได้รับใบสั่งมาจากหัวหน้าใหญ่ให้เอามรกตชุดนั้นมาให้ได้
หัวหน้าโจรรีบผละจากร่างสวยแล้วฉุดกระชากให้มุกระวีลุกขึ้น
“ไปกับฉัน ฉันจะเอาเธอไปด้วย”
มุกระวีกรีดร้องลั่น ร่างบางถูกฉุดลงจากรถไปคลุกกับพื้นทรายร้อนๆ “ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ไป” บอกพร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากการถูกกระชาก ร่างบางล้มลุกคลุกคลานไม่เป็นท่า แต่มันก็ไม่สนใจดึงให้ลุกขึ้นอย่างหยาบคาย
“รีบลุกเร็วเข้า”
มุกระวีได้ยินเสียงรถมาใหม่อีกคัน เธอแน่ใจว่าต้องเป็นรถตำรวจ จึงพยายามดิ้นรนให้หลุด แต่ก็ถูกโจรร้ายกระชากอย่างแรงให้ลุก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เสียงชายฉกรรจ์ที่มาใหม่ตวาดพร้อมกับหันปลายกระบอกปืนมาทางกลุ่มโจร ซึ่งตรงนั้นมีมุกระวียืนอยู่ด้วย
“หนีเร็ว” เสียงหัวหน้าโจรสั่งแล้วพวกมันก็พากันแตกกระเจิงวิ่งหนีขึ้นรถ มันรู้อยู่แล้วว่าสู้ตำรวจไม่ได้ เรื่องอะไรจะอยู่ให้ถูกจับ ทว่าพอพวกมันหันหลังวิ่งหนี เสียงปืนก็ดังขึ้นพร้อมกันหลายนัด
ปัง ปัง ปัง
มุกระวียืนตัวสั่นด้วยความตกใจยกมือปิดหู รู้สึกตาพร่าลาย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไปต่อหน้า เหมือนคอมพิวเตอร์ที่ถูกชักปลั๊กออกกะทันหัน