ตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกันพีรพลคอยแอบมองดูเธอตลอด การแต่งตัวของเธอที่ดูโป๊เกินไปทุกครั้งที่เขาเห็นมันช่างดูขัดตาจริงๆ เขาไม่อยากจะยุ่งกับเธอมากนักหรอกนะ แต่เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทของคู่หมั้นเขา เขาจึงต้องจำใจไปส่งเธอที่บ้าน
“คุณพีไปส่งหวานที่โรงพยาบาลนนวดีนะคะ...หรือให้หวานลงใกล้ๆก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหวานนั่งรถไปต่อเอง”
“ยายเป็นอะไร...?”
เขาถามเธอเพราะรู้ว่าเธออยู่กับยายแค่ 2 คน และยายเธอก็เข้าๆออกๆโรงพยาบาลบ่อยๆ
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ ก็ตามประสาคนแก่”
เขาเหล่ตามองเธอเล็กน้อยแล้วก็ถามเธอขึ้น
“ยายเธอรู้ไหมว่าเธอทำงานแบบนี้...?”
“หวานไม่จำเป็นต้องบอกคุณค่ะ”
“พูดแบบนี้แสดงว่าไม่รู้...”
“....”
“ไม่คิดบ้างหรอว่าถ้ายายเธอรู้ ท่านจะเสียใจมากแค่ไหน...?”
“ไม่เกี่ยวกับคุณนี่ค่ะ นี่มันเรื่องของครอบครัวหวาน”
“นี่เธอเด็กกว่าฉันอีกนะ หัดพูดจาให้มันดีๆหน่อย คนเขาอุตส่าห์ขับรถมาส่ง...”
“งั้นก็จอดค่ะ...หวานลงตรงนี้ก็ได้”
“อวดเก่ง...”
“หวานไม่ได้อวดเก่ง ถ้ารู้ว่าขึ้นรถคุณมาแล้วจะมาโดนคุณว่าแล้วก็ดูถูกแบบนี้ หวานไม่ขึ้นมาหรอก...”
เอี๊ยด>>>> เขาเบรกรถทันที
“แต่เธอก็ขึ้นมานั่งบนรถฉันแล้ว ยังจะมาปากเก่งอีกนะ...”
“คุณว่าหวานก่อน...”
“ก็มันจริงนี่ เธอทำงานไม่ดีเลยไม่กล้าบอกยายตัวเอง ยายเธอท่านคงภูมิใจในตัวเธอนะที่หาเงินมาได้เยอะ แต่ที่ท่านยังไม่รู้คือ เงินที่หามาไม่ได้แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แต่มันแลกมาด้วยแรงกายอย่างอื่นมากกว่า...”
เขาพูดไปและสายตาของเขาก็มองไปที่เรือนร่างเธอด้วยสายตาดูถูก
เพี๊ยะ>>> เธอตบหน้าเขาอย่างแรงด้วยความโมโห
“คุณจะด่าจะดูถูกหวานยังไงก็ได้ แต่อย่ามายุ่งกับยายของหวาน ต่อไปนี้ถ้าคุณเจอหวานที่ไหนอีก ก็หนีหวานไปให้พ้นๆนะคะ อย่ามายุ่งกับหวานหรือเข้าใกล้หวานอีก ถ้าคุณรังเกียจหวานมากก็อยู่ให้ห่างจากหวานสิคะจะมายุ่งเรื่องของหวานทำไม...”
เธอพูดจบก็กำลังจะหันไปเปิดประตูรถแต่เขาเร็วกว่าคว้าข้อมือเธอไว้ก่อน
“ใช่....ฉันรังเกียจเธอ ฉันไม่ชอบเห็นเธอมายุ่งกับคู่หมั้นฉัน งานที่เธอทำมันสกปรกเกินกว่าที่เธอจะเข้ามาสนิทกับคู่หมั้นฉันเข้าใจไหม...”
“งั้นก็ปล่อยสิค่ะ คุณจะมาจับตัวหวานทำไม...?”
เขาจ้องหน้าเธอนิ่งๆแล้วมองมือที่จับแขนเธอไว้ แล้วเขาก็ปล่อยมือออกทันที
“ฉันก็ไม่ได้อยากแตะตัวเธอหรอกนะ แต่ที่เธอตบฉันเมื่อกี้...”
“สมควรแล้วละคะกับผู้ชายปากร้ายอย่างคุณ...”
เธอพูดจบก็เปิดประตูรีบลงจากรถไปทันที แต่พอเธอมองไปรอบๆจึงได้รู้ว่าเขาขับรถมาถึงโรงพยาบาลแล้วตั้งแต่แรก ทำไมเขาถึงรู้ว่าฉันจะมาโรงบาลนี้ทั้งที่ฉันเพิ่งบอกเขาไปเมื่อกี้ มันไม่น่าจะมาถึงเร็วได้ขนาดนี้
“คุณ...”
เธอหันไปหาเขาก็เห็นรถเขาขับออกไปแล้ว เธอจึงได้แต่สงสัยว่าเขารู้ได้ยังไงว่ายายเธอนอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้
.....
1 อาทิตย์ต่อมา
พีรพลต้องไปรับคู่หมั้นมาทานข้าวด้วยกัน ทั้งที่เขาก็รู้ว่าเธอเองก็ไม่ได้รักเขาที่พวกเขาหมั้นกันเพราะผู้ใหญ่เห็นชอบเท่านั้น แต่เขารักเธอและเขาก็พยายามทำทุกอย่างให้เธอรักเขาให้ได้
“น้องมิน พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่หรือยังครับ?”
“เอ่อ...มิน”
“นี่เราก็หมั้นกันมาหลายปีแล้วนะ พี่อยากแต่งงานกับมินแล้วนะ...”
“พี่พีคะ มินยังไม่พร้อมให้เวลามินหน่อยนะคะ”
“ที่มินยังไม่พร้อม เพราะว่ามินไม่ได้รักพี่ใช่ไหม...?”
“มินขอโทษค่ะ...มินพยายามแล้วจริงๆ”
“มินมีคนที่มินรักอยู่แล้วใช่ไหม มินถึงไม่รักพี่...?”
“ใช่ค่ะ มินรักผู้ชายอีกคน แต่มินกับเขามันคงเป็นไปไม่ได้...”
เขายื่นมือไปจับมือคู่หมั้นไว้เพื่อปลอบใจ
“พี่ยังมีโอกาสอยู่ใช่ไหมครับ ถ้ามินเลิกรักผู้ชายคนนั้นเมื่อไหร่เราจะแต่งงานกันนะ...?”
“ค่ะ...”
เธอตอบตกลงเขาและเขาก็ยิ้มดีใจ แต่ภายในใจเขาก็ยังเศร้าอยู่ดี เพราะเขารักเธอมาตลอดแต่เธอกลับไปรักผู้ชายอีกคน
“พี่พีไปไหนต่อหรือเปล่าคะ...พอดีมินว่าจะไปเดินซื้อของขวัญวันเกิดให้หวานสักหน่อยนะคะ...?”
“วันเกิดหวาน...?”
“ค่ะ พรุ่งนี้วันเกิดหวานนะคะ พวกเรานัดไปกินข้าวกัน มินเลยจะซื้อของขวัญไปให้หวานนะคะ”
พอเขาได้ยินชื่อหวานก็รู้สึกขัดใจขึ้นมา
“ทำไมมินถึงสนิทกับหวานจัง...?”
“หวานเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ แล้วก็อีกอย่างหวานเป็นคนกตัญญูแล้วก็รักยายมาก ชีวิตหวานน่าสงสารมากนะคะ...”
“สิ่งที่มินรู้อาจจะยังไม่หมดก็ได้นะ...”
“มินไม่สนหรอกค่ะว่าหวานจะปิดบังอะไร มินรู้แค่ว่าหวานเป็นเพื่อนที่ดีของมิน แค่นี้ก็พอแล้ว”
พีรพลมองหน้าคู่หมั้นตัวเองพูดด้วยความมั่นใจ เขาก็ยิ่งแปลกใจว่าทำไมเธอถึงได้มั่นใจนักว่าเพื่อนของเธอจะดีจริงๆ
.....
วันเกิดน้ำหวาน
“พี่พีไม่ลงไปหรอคะ...?”
“ไม่หรอกครับ พี่แค่ขับรถมาส่งแต่เดี๋ยวมินให้บอดี้การ์ดขับรถมารับใช่ไหม...?”
“ค่ะ...”
พีรพลยิ้มให้เธอแล้วก็ขับรถออกไปติดไฟแดงตรงสี่แยกที่เลยร้านมานิดหนึ่ง เห็นผู้หญิงกำลังข้ามถนนอยู่ แต่ผู้ชายแก่ๆคนหนึ่งเดินมาคู่กันทำของตกเธอจึงช่วยเก็บแล้วช่วยถือข้ามไปอีกฝั่งของถนน เขามองดูอยู่ตลอดเวลาจนสุดสายตาและไฟก็เขียวพอดี
“อย่ามาหลอกฉันสะให้ยาก ฉันไม่มีวันเชื่อเธอหรอกน้ำหวาน...”