บทนำ ท่านหญิงนางโลม
บทนำ
ท่านหญิงนางโลม
“แม่นมเกาเจ้าคะ ท่านแม่ทัพกับท่านกุนซือมาถึงแล้วเจ้าคะ”
นางกำนัลน้อยนางหนึ่งเอ่ยบอก พร้อมกับเดินไปหยิบชุดน้ำชามาวางลงบนถาดไม้
“จริงหรือ เช่นนั้นพวกเจ้ามาเฝ้าน้ำแกงไก่นี่ให้ข้าที อ่อ! รีบเตรียมชาผู่เอ๋อร์ไปให้ลูกข้าด้วย”
เอ่ยสั่งงานจบแม่นมเกาก็เร่งก้าวเท้าออกจากโรงครัวเพื่อไปหาบุตรชายทั้งสองของตนในทันที
ทว่ายามคล้อยหลังนางไปบรรดานางกำนัลในตำหนักบูรพาก็เร่งวิ่งกลับเข้าห้องส่วนตัวเพื่อไปประทินโฉม สวมใส่เครื่องประดับ ในครัวจึงล้างคนไปชั่วขณะ
ฉานอัน ท่านหญิงแห่งเผ่าเหลียงจึงฉกฉวยโอกาสที่ในโรงครัวปลอดคนลักลอบเข้ามา มุมปากสีแดงสดยกขึ้นมองกาน้ำชาสีขาวบริสุทธิ์กับกาน้ำชาสีนิลที่นางกำนัลเตรียมไว้ให้แขกคนสำคัญ อาศัยจากคำบอกเล่าลักษณะนิสัยของกุนซือเมิ่งซืออิง ผู้อ่อนโยน และ แม่ทัพเกาเฉิงหนาง ผู้ดุดัน ผู้ที่ใช้กาน้ำชาสีขาวย่อมเป็นกุนซือเมิ่งซืออิง นิ้วเรียวดุจลำเทียนค่อยๆ เทผงยาปลุกกำหนัดลงในกาน้ำชาสีขาว
องค์รัชทายาท ในเมื่อเจรจาดีๆ ไม่ฟังเช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าร้ายกาจ
ดวงตากลมกระจ่างใสเย้ายวนดุจกวางน้อยมองผงยาที่ค่อยๆ ละลายไปในน้ำชาชั้นดีแล้วยกมุมปากขึ้นอย่างพึงพอใจก่อนจะหยิบถาดขนมออกไปหนึ่งถาด หลบเลี่ยงไปนั่งที่ศาลาเล็กด้านหลังรั้งรอเวลาที่เหมาะสม
ยาปลุกกำหนัดชนิดนี้ไร้รส ไร้กลิ่น ไร้ผลค้างเคียง ข้ามอบให้เจ้าไว้ใช้ในคืนเข้าหอกับองค์รัชทายาท จำเอาไว้หน้าที่ของเจ้าคือมีทายาทกับ
องค์รัชทายาทแคว้นต้าเจิ้งโดยเร็ว เพื่อให้เชื้อสายเผ่าเหลียงขึ้นปกครองแคว้นต้าเจิ้ง
ฉานอันนึกถึงแผนการที่บิดาเอ่ยบอกแก่นางก่อนจะส่งนางมาเป็นเครื่องบรรณาการ ดวงตากลมกระจ่างดุจดวงดาราร้อนผ่าวขึ้นมา มารดาของนางเป็นเพียงหญิงเชลยที่บิดาต้องตา หลังบังคับขืนใจจนนางมีครรภ์ บิดาของนางก็ไม่ไยดี เมื่อคลอดบุตรีซึ่งก็คือนางออกมาแล้ว ผู้เป็นบิดาก็ส่งมารดาของนางให้เป็นหญิงในค่าย ดูแลปรนเปรอกามกิจแก่เหล่าทหารกำหนัด จนมารดาของนางตรอมใจตายจากไป
ฉานอันแม้เติบโตมาในฐานะท่านหญิง แต่ความเป็นอยู่ในวัยเยาว์ไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง ทว่าเพราะรูปโฉมและร่างกายที่งดงามเย้ายวนของนาง บิดาจึงหมายมั่นส่งนางเป็นท่านหญิงบรรณาการส่งเสริมชนเผ่าของตน สิบปีที่ผ่านมานางจึงถูกฝึกฝนไม่ต่างจากหญิงนางโลมผู้หนึ่ง กล่าวได้ว่านอกจากพรหมจรรย์ที่ต้องรักษาเอาไว้แล้ว ศาสตร์ใดที่นางโลมควรเรียนรู้ ศิลป์ใดที่นางโลมควรฝึก นางล้วนเรียนรู้ฝึกฝนจนช่ำชอง
นับจากนี้ข้าจะไม่ยอมเป็นหมากของผู้ใดอีก
...........................................