ควับ
พลอยไพลินหันไปตามทางของเสียงที่เธอได้ยิน มันดังมาจากทางข้างหลังเธอ หัวใจดวงน้อยมันเต้นโครมครามราวกับจะเต้นอำลาการเคลื่อนไหวอย่างไรอย่างนั้น ไม่ผิดแน่ เขานั่นแหละปะป๊าของเธอ
เด็กสาวเดินเข้าไปในกลุ่มนั้นด้วยความมาดมั่น เธอเชิดหน้าขึ้นด้วยความมั่นใจ ใจอยากจะเข้าไปกอดเอวหนาของผู้ชายคนนั้น แต่ตอนนี้เธอโตแล้ว เธอไม่ใช่เด็กๆ และเธอก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะจำเธอได้ไหม
กึก
สองเท้าหยุดอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มที่เธอมั่นใจนักหนาว่าเป็นปะป๊าของเธอแน่เพราะสัญชาตญาณมันบอกเธอแบบนั้น ชายหนุ่มที่กำลังควงแก้วเหล้าในมือหยุดสายตาอยู่ที่ปลายเท้าคู่เล็กก่อนจะค่อยๆ ไล่ขึ้นอย่างช้าๆ จนสะดุดเข้ากับใบหน้าสวยที่ดูโดดเด่น
"อ้าว คุณ"
"ใครวะ มึงรู้จักเหรอ"
เข็มทิศถามขึ้นเพราะสงสัยเขาและเพื่อนๆ เองก็ไล่สายตามองตามชานนท์ราวกับนัดกันมา ไม่ดูก็บ้าแล้วไหมผู้หญิงสวยหุ่นเอ็กขนาดนี้มายืนอยู่ตรงหน้า อีกทั้งเสื้อผ้าน้อยชิ้นแถมบางนักหนาที่เธอสวมใส่อยู่ดูก็รู้ว่าเด็กนอกแน่นอน
"ไม่รู้จัก"
ราวกับถูกกระโดดถีบให้ตกจากสะพานลอยเธอข้ามน้ำข้ามทะเลตามหาเขายอมทะเลาะกับแม่มาตลอดสิบเจ็ดปี หนีออกจากบ้าน ขอคุณยายออกมาอยู่คนเดียวแต่สิ่งที่เธอได้กลับมาคือเขากลับพูดออกมาว่า ไม่รู้จัก
"กูเจอน้องเขาหน้าคลับเมื่อกี๊เห็นยืนตากฝนอยู่เสื้อก็บางเลยให้เสื้อคลุมไป"
"สัส อ่อยแหละดูออก" การันต์ออกโรงเอ่ยแซวเพื่อนโดยสายตายังจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวรุ่นลูก
"บ้า น้องเขาไม่ได้อ่อยกู" ชานนท์รีบปฏิเสธทันทีกลัวว่าเธอจะอายเพราะเพื่อนๆ ของเขาแซวออกมาขนาดนี้อีกทั้งตรงนี้ก็มีแค่ผู้ชายจะมีผู้หญิงอยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้นเพราะเพื่อนๆ ของเขาเรียกมาให้บริการเป็นสีสัน
"ไม่ กูหมายถึงมึงอะอ่อยเขา ทำเป็นให้เสื้อคลุม อารมณ์ทิ้งผ้าเช็ดหน้าอะแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ไทก้าพยายามชงให้ชานนท์หันมองผู้หญิงคนอื่นบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น ชานนท์จะควงผู้หญิงแค่เวลาออกงานเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่ต่างไปจากเดิม ควงจบก็แยกย้าย
"ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าให้ผมหน่อยได้ไหม~ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
เพื่อนๆ ของชานนท์ต่างก็ร้องแซวโดยไม่ได้ดูใบหน้าของเด็กสาวที่ยืนมองดูอยู่เลยสักนิด ใบหน้าของเธอแม้จะสวยหยาดฟ้ามาดินขนาดไหน แต่ตอนนี้เธอกำลังอดทนกับความเสียใจ เธอเสียใจที่ปะป๊าจำเธอไม่ได้
"แล้ว คุณมีอะไรรึเปล่าครับ"
เขาหันไปถามพร้อมกับยกแก้ววิสกี้ขึ้นกระดกเข้าปาก พลอยไพลินยืนพินิจพิจารณาใบหน้าหล่อเหลาของเขา แม้จะผ่านไปหลายปีแต่เขาก็ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด เธอวัดเอาจากรูปภาพที่คุณแม่ให้เธอมาน่ะนะ
"คุณจำฉันไม่ได้เหรอคะ"
พลอยไพลินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกความกล้าของตัวเองให้กลับมา เธอมาตั้งขนาดนี้แล้วนะจะถอยกลับเพียงเพราะเขาจำเธอไม่ได้อย่างนั้นเหรอ
"จำได้ซิครับ"
พลอยไพลินรีบนั่งลงข้างๆ ชานนท์อย่างดีใจเขาจำเธอได้แล้ว โดยลืมดูกิริยาที่ชานนท์แสดงออกมาเขาถอยหลังหนีเมื่อตอนที่เธอนั่งลงข้างๆ เขา สองมือเรียววางลงที่ต้นขาแกร่งของชายหนุ่มด้วยความไม่ระวังตัวจนเขาสะดุ้งที่ถูกจู่โจมอย่างอุกอาจ
"คุณจำฉันได้จริงๆ เหรอคะ"
"ผมเป็นคนยื่นร่มและถอดเสื้อคลุมให้คุณไง"
พลอยไพลินหน้าเสียไปเพียงนิดสรุป จำไม่ได้สินะ แก่แล้วยังความจำเลอะเลือนอีก นี่เขาจำเธอไม่ได้จริงๆ ใช่ไหมเนี่ย เธอตีสีหน้ากระเง้ากระงอดออกมาอย่างลืมตัวแต่มันกลับดูน่ารักสำหรับคนที่พบเห็น
หัวใจแกร่งมันเต้นแรงอย่างถี่รัวเมื่อถูกหญิงสาวจู่โจมเข้าหา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงเข้าหา และมักจะมามุกแปลกๆ เสมอเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา แต่กับเธอมันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาใจสั่น
"ไอ้นนท์ กูว่าน้องเขาชอบมึงวะ" เข็มทิศพูดขึ้นโดยไม่ได้สนใจเลยว่าเด็กสาวที่แทบจะนั่งตักเพื่อนของเขาจะเขินอายไหม
"ไอสัสทิศเดี๋ยวกูถีบ นี่รุ่นลูกเลยนะเว้ย"
ชานนท์พูดขึ้นพร้อมกับยกเท้าทำท่าจะเตะไปข้างหน้าตรงที่เข็มทิศนั่ง แต่เขาทำมันไม่ถนัดนักหรอกเพราะมือเรียวของเด็กสาวยังวางไว้อยู่บนต้นขาแกร่ง เขาหันกลับไปมองหน้าเด็กสาวตรงหน้าอีกครั้ง แต่สายตาเจ้ากรรมมันดันมองพลาดไปนึดนึง มันดันมองต่ำกว่าระดับใบหน้าไปเจอเข้ากับ ...
"รุ่นลูกก็มันส์นะมึง กูลองมาแล้ว"
ชานนท์รีบตวัดสายตาไปมองเพื่อนของตัวเองด้วยความเกรงใจเด็กสาวตรงหน้ายัยเด็กนี่ก็กระไร ไม่เขินไม่อายบ้างเลยรึไง
เมื่อมองหน้าเธออย่างพินิจดีๆ อีกครั้ง เธอช่างสวยโดดเด่นเกินกว่าใครไม่ว่าจะมองมุมซ้าย มุมขวา เธอก็ดูดี แม้ในตอนที่กำลังเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำก็ยังดูดี ชานนท์คิดอะไรดีๆ ออกเขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหูเล็กของเธอลำคอขาวระหงบวกกับกลิ่นหอมเย้ายวนของเธอทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคอเสียอึกใหญ่
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
เสียงหัวใจของคนตัวเล็กมันเต้นถี่รัวเมื่อปะป๊าของเธอโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดลงลำคอของเธอ ไรขนอ่อนตามร่างกายของเธอลุกขึ้นชูชันอย่างบอกไม่ถูก เธอแทบกลั้นหายใจเมื่อน้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบแผ่วเบาข้างใบหู
"ไปต่อนอกรอบกับผมนะ"
พลอยไพลินอ้าปากค้างเธอเบิกตาโตขึ้นอย่างตกใจ ปะป๊าของเธอชวนเธอไปนอกรอบ เธอไม่ใช่เด็กที่ไร้เดียงสาไม่รู้อะไรเธออยู่เมืองนอกเมืองนามาหนีคุณแม่เที่ยวก็ออกบ่อย คำพูดพวกนี้เธอรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
"ปะป๊า"
เธอเปล่งเสียงเบาออกมาเมื่อความรู้สึกต่างๆ นาๆ ประเดประดังเข้ามาตีกันจนวุ่นวายเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธอควรจะรู้สึกอะไร ร่างกายของเธอมันชาวาบจนแทบจะไร้ความรู้สึก แต่น่าเสียดายที่ปะป๊าของเธอไม่ได้ยิน
ชานนท์มองใบหน้าหวานของเธออย่างรอคำตอบ เพียงแค่พักเดียวเขาก็ระบายยิ้มกว้างออกมาเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอพยักหน้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอแค่กลัวว่าจะไม่ได้เจอปะป๊าอีก เธอกลัว
"กูไปก่อนนะ"
ชานนท์หยัดกายลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงมือหนาเลื่อนไปจับประสานกับมือเรียวของเธอเอาไว้โดยมีสายตากรุ้มกริ่มของเพื่อนๆ มองตามมาอย่างมีเลศนัยชายหนุ่มก้มลงหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นแล้วกระดกเข้าปากจนหมดแก้ว
"มือนี้กูเลี้ยง ไปละ ไปครับ"
ประโยคแรกพูดกับเพื่อนพร้อมกับยักคิ้วให้อย่างเหนือกว่า ส่วนประโยคหลังเขาหันไปพูดกับเด็กสาวที่จับประสานมือกันเอาไว้อย่างหลวมๆ เขาจูงมือเธอเดินออกไปโดยที่เพื่อนๆ แทบอยากจะลุกขึ้นปรบมือให้แล้วตะโกนพร้อมๆ กันว่า 'บรา'โว'
"ยัยเด็กนี่โชคดีฉิบหาย"
"เออดิ ปกติมันเอาใครที่ไหนอะ"
"เป็นกู กูก็เอาสวยฉิบหาย"