- บริษัทหมู่บ้านจัดสรร Lin House –
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาภายในห้องทำงานสุดหรูของชานนท์ที่เขาดูนิ่ง สุขุมกว่าที่เคยเป็นตั้งแต่เสียลูกสาวของตัวเองไปเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน
"กูว่าแล้วมึงต้องอยู่ที่นี่"
ชานนท์เงยหน้ามองผู้ที่เดินเข้ามาใหม่อย่างไม่สบอารมณ์เดิมทีเขาต้องบริหารธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรของตุลย์ผู้เป็นพ่อ แต่หลังจากที่เสียพลอยไพลินไปเขาก็ต้องการสร้างอะไรบางอย่างให้เกี่ยวข้องกับเธอ เดิมทีเขามีความรู้เรื่องหมู่บ้านจัดสรรอยู่แล้ว เขาจึงมาตั้งบริษัทน้องใหม่มาแรงแซงทางโค้งในชื่อ Lin House ขึ้นมาเป็นของตัวเองโดยไม่พึ่งเงินของพ่อกับแม่เลยสักบาทเดียว
เขากลายเป็นผู้ชายบ้างาน และแน่นอนเรื่องของเขาเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนก็กระจายไปทั่วโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็วเขายิ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเมื่อไม่ต้องคอยอุ้มกระเตงเด็กเล็กไปไหนต่อไหนด้วย จาก 'พ่อม้ายทรงเสน่ห์' กลายเป็น 'แดดดี้แห่งชาติ' เป็นที่เรียบร้อย แม้จะมีข่าวกับสาวคนนั้นคนนี้บ้างแต่เขาก็ไม่เคยประกาศจริงๆ จังๆ กับใครสักคน
"มีไร"
ชานนท์วางปากกาลงบนแฟ้มเอกสารก่อนจะยกขาขึ้นไขว้ห้าง เขาประสานมือกันไว้ข้างหน้ามองหน้าไทก้าอย่างมีคำถามไทก้ายกยิ้มมุมปากแล้วหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามพร้อมกับเปิดแม็กกาซีนอ่านไปด้วย
"โสดอย่างเราๆ ก็ต้องหาที่ปลดปล่อยหน่อยไหมวะ"
"ลงอ่าง รึ สุกี้หม้อรวม"
"นั่งชิวก็พอมึง ไปดิ ไอ้การันต์ กับไอ้เข็มทิศมันจะไปรอที่คลับก่อน"
"เออ เดี๋ยวทำงานเสร็จแล้วไป"
ชานนท์ก้มหน้าทำงานต่อ แต่แล้วไทก้าก็ยังไม่ยอมออกไปสักที เขายังคงนั่งเปิดนิตยสารดูไปเรื่อยๆ จนเจ้าของห้องเกิดความรำคาญ
"มีอะไรอีกวะ"
"เปล่า กูก็นั่งเล่นๆ"
"ห้องทำงานกู ไม่ใช่ที่นั่งเล่น"
"เออๆ ไปก็ได้วะ ว่าแต่นี่พรีเซ็นเตอร์ใหม่เหรอแจ่มแมวฉิบหาย"
ชานนท์เหลือบตามองเพื่อนอย่างรู้ทันไทก้าก็ไม่ต่างจากเสือผู้หญิงที่จ้องจะคอยงาบเหยื่ออยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เขายกคิ้วขึ้นเป็นเชิงคำถามทำให้ไทก้าต้องหันมาตอบเขาก่อนเดินออกไป
"ตาถึงนะมึงน้องพาเพลินนี่งานดีฉิบหาย"
พูดจบไทก้าเดินออกไปทันทีปล่อยให้ชานนท์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขานั่งมองรูปของพาเพลินพลางให้นึกถึงใครบางคนที่ป่านนี้อายุอานามก็คงพอๆ กับพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเขา
.
.
.
- คลับ xxx ทองหล่อ –
ซ่า~
สายฝนที่หล่นร่วงลงมาจากท้องฟ้าส่งผลให้เด็กสาวที่จะมาหาอะไรทำแก้เบื่อต้องยืนหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ฝั่งตรงข้ามกับคลับร่างกายของเธอเปียกปอนจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน ไอ้กางเกงยีนรัดรูปกับรองเท้าส้นสูงห้านิ้วมันไม่เท่าไหร่ แต่เจ้าเสื้อเกาะอกสีขาวตัวบางของเธอเนี่ยสิมันทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับ
"ให้ตายเถอะแค่จะมากินเหล้าแก้เบื่อต้องลงโทษกันขนาดนี้เลยเหรอคะคุณสายฝน"
พลอยไพลินยืนกอดอกหนาวสั่นอยู่ตรงนั้น เธอคิดเอาไว้ว่าหากฝนซาลงแล้วก็คงจะรีบวิ่งเข้าไปในคลับทันที หัวใจดวงน้อยมันโดดเดี่ยวอย่างไร้ทางไปปะป๊าก็หาไม่เจอแถมยังดื้อกับคุณยายขอออกมาอยู่คนเดียวโดยเธอให้คำมั่นสัญญากับคุณยายว่าจะโทรหาคุณยายทุกวันคุณยายถึงยอมปล่อยให้เธอออกมาอยู่คนเดียวได้
พรึ่บ!
พลันละอองฝนที่เคยกระเด็นมาโดนอย่างต่อเนื่องก็ค่อยๆ หายไปเมื่อเธอเงยหน้ามองข้างบนตามด้วยหันไปมองข้างหลังเมื่อรู้สึกว่ามีเงาใหญ่กำลังบดบังร่างกายเธออยู่
"เอ่อ ..."
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
หล่อ ... หล่อ จนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกถึงแม้จะดูมีอายุแต่เขากลับดูดีกว่าคนในวัยเดียวกันเสียอีก หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มนิ่งอย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูก
"ผมเห็นคุณยืนตากละอองฝนมานานแล้วครับ นี่ครับร่มจะได้ไม่เปียก"
ดวงตาคมไล่มองเรือนร่างอรชรของเด็กสาวตรงหน้าเขาระบายยิ้มอบอุ่นออกมายิ่งทำให้เด็กสาวอย่างเธอนิ่งเข้าไปอีก สองสายตาประสานกันอย่างอัตโนมัติ หยาดน้ำตาของเธอคลอหน่วยตาหากเป็นเขาคนนั้นก็ดีสิ คนที่เธอกำลังตามหา
"ผมว่าเสื้อคุณบางไปนะครับ"
ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทของตัวเองออกเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อแน่นที่แทบจะทะลุเสื้อยืดสีดำออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมโตไล่มองลำคอที่มีเส้นเลือดขึ้นปูดออกมา ไหล่กว้างที่ดูแน่นจนหน้าซบ ผิวขาวราวกับหยวกกล้วย ลามไปจนถึงหน้าท้องแกร่งที่เสื้อยืดของเขาเองรัดมันเสียจนเธออยากจะเอามือเข้าไปลูบไล้ลอนหน้าท้องนั้นเล่นเสียจริง
"คลุมไว้นะครับ ผมไปก่อนเพื่อนผมรอ"
ดูเหมือนเธอเองยังคงอยู่ในภวังค์ ชายหนุ่มจึงถือวิสาสะใช้เสื้อสูทของตัวเองคลุมไปที่ร่างเล็กของเธอโดยที่มือเรียวข้างหนึ่งถือร่มที่เขายัดมันใส่มือเธอ กลิ่นหอมของเขามันยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง และทำตัวไม่ถูก เสื้อของเธอมันบางมากจริงๆ แหละมากเสียจนราวกับว่าใส่ออกมาเพียงแค่บราเซียร์ แต่เมื่อได้สติเธอกลับนึกขึ้นได้
"ระ ... รอยสักนั่น" พลอยไพลินมองตามชายหนุ่มที่วิ่งฝ่าฝนเข้าไปในคลับด้วยแววตาสั่นระริก ช่างเหมือนกับ ...
"ปะป๊า ... รอยสักนั่นเหมือนของปะป๊าเลย"
เธอรีบหยิบรูปของชานนท์ขึ้นมาดูรูปใบเดียวที่แม่ของเธอให้เอาไว้ชายหนุ่มในรูปคล้ายกับชายคนเมื่อครู่อย่างมากแม้จะดูอายุมากกว่าในรูป และแน่นอนเขายังคงคุมโทนเช่นเดิม เสื้อยืดสีดำที่มีรอยสักรอบมัดกล้ามเนื้อวงแขนแกร่ง
"ปะป๊า ... ต้องเป็นปะป๊าแน่ๆ"
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
หัวใจดวงน้อยมันเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ เธอรีบหุบร่มลงแล้ววิ่งเข้าไปในคลับ แม้ร่างกายจะเปียกปอนเธอก็ไม่สน แม้ใบหน้าจะเปียกฝนเธอก็ไม่แคร์ เธอต้องรู้ให้ได้ว่าผู้ชายคนนั้นใช่ปะป๊าของเธอหรือเปล่า
พลอยไพลินหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เธอหันซ้ายหันขวามองหาคนที่เธออยากเจอ หัวใจของเธอยังเต้นแรงอยู่ทุกขณะแม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเขาคนนั้นใช่ปะป๊าไหมก็ตาม
ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ อย่างมีความหวังจนไปสะดุดเข้ากับชายคนหนึ่งที่กำลังเดินขึ้นบนชั้นสองของคลับอย่างช้าๆ เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนที่เขาใส่เธอจำมันได้อย่างแน่นอน และที่จำได้อย่างแม่นยำนั่นคืนรอยสักรอบแขนของเขา พลอยไพลินรีบวิ่งตามเขาไปในทันทีไม่รู้ว่าจะทันไหม
"คุณคะ คุณ เดี๋ยวสิ รอฉันก่อน ปะป๊า ปะป๊ารอลินก่อน"
พลอยไพลินวิ่งขึ้นมาจนถึงชั้นสองได้สำเร็จ เธอยังมองหาชายคนนั้นอย่างไม่ยอมแพ้ กวาดสายตาไปจนทั่ว จนกระทั่งเธอได้ยิน ...
"ไอ้นนท์ ทำไมมึงเพิ่งมาวะ"